บนพหุวัฒนธรรม กรณีวันตรุษจีนสำหรับมุสลิม

โดย สมเดช มัสแหละ..

ในแต่ละความเชื่อต่างก็มีวันสำคัญ ที่เรารู้จักกันในวันตรุษ คนที่เกิดบนแผ่นดินไทยได้เปรียบในการเรียนรู้ประเพณีวัฒนธรรมของกันและกัน  เราสามารถสัมผัสวันสำคัญทางศาสนา ว่าในแต่ละศาสนามีวันสำคัญ แบบไหน ในวันสำคัญศาสนิกในศาสนาปฏิบัติอะไรกันบ้าง

สำหรับมุสลิม วันสำคัญทางศาสนาโดยเฉพาะวันอีดทั้งสอง ในอดีตมันคึกคัก กว่าในปัจจุบันมาก ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการให้ความสำคัญในเรื่องเครือญาติ ที่วันสำคัญนี้ลูกหลายต้องไปเยี่ยมเยียนบรรดาผู้หลักผู้ใหญ่ การให้ความสำคัญนี้ คือ “ซิละตุรเราะฮีม”

วันนี้ก็เป็นเป็นสำคัญของพี่น้องเชื้อชาติจีนนั้นคือวันตรุษจีน เราก็มีเพื่อนฝูงเป็นคนจีน หลายคนอาจจะมีญาติเป็นคนจีนด้วยว้ำไป การได้สัมผัสกลิ่นไอนี้ยอมมีโดยอัตโนมัติ

จากการที่ได้มีเพื่อนเป็นคนจีน จึงรับรู้ว่า วันตรุษจีน คนจีนได้ให้ความสำคัญต่อบรรพชนมากด้วยเช่นกัน การลำดับความสำคัญในบรรพชน มันสอนให้ลูกหลานได้รับรู้ถึงความเป็นเครือญาติ

คุณูปการของบรรพชน ถือเป็นสิ่งที่ลูกหลานไม่ควรละเลย ถ้าจะกล่าวถึงคนจีน ต้องบอกว่าบรรพชนเขาลำบากมาก ที่เราเห็นคนจีนร่ำรวยในวันนี้ แต่ในอดีตเขาคือกรรมกร แบกหาม พวกเขาทำงานทุกอย่างที่ขวางหน้า เพื่อที่จะวางรากฐานให้ลูกหลานในวันนี้

แม่ผมเล่าว่า ปู่ผมในอดีตเป็นเจ้าของโรงสีครกกระเดื่อง ที่บ้านปากลัด เยื้องวัดกลาง ก่อนที่จะอพยพไปที่คลองมะสง จ.นนทบุรี คนงานในโรงสี คือคนจีน ปู่ผมถึงได้ความรู้หลายอย่างจากลูกน้องที่เป็นคนจีน

ปู่เล่าให้แม่ฟังว่า คนจีนขยัน มัธยัสถ์ อดทน ไม่ฟุ่มเฟือย เราจึงมักได้ยินเรื่องเล่า แบบขำๆว่า คนจีนผูกปลาเค็มไว้กลางวงกินข้าว เอาไว้ดูเวลากินข้าว เรื่องเล่าเหล่านี้บ่งบอกถึงการประหยัดมัธยัสถ์ของชาติพันธ์จีน

เมื่อถึงตรุษต่างๆเราก็ส่งปราถนาดีต่อกัน ในฐานะที่เราอยู่ในสังคมพหุวัฒนธรรม ความปราถนาดี มันดีกว่าการคิดร้ายต่อกันแน่นอน

คำอวยพรที่เรามักจะได้ยินกันเสมอๆ ก็คงเป็นเรื่องสุขภาพ เรื่องริสกี ตรุษจีนก็จะได้ยิน “เฮงๆรวยๆ” ส่วนวันอีด หรือปีใหม่ของอิสลามก็จะได้ยิน “อีดมุบาร็อค” หรือ”เซอลามัตตาโฮนบาฮ์รู” ประมาณนี้

โดยสรุปคือการอวยพรในเรื่องดีๆต่อกัน

 1,116 total views,  2 views today