รายงานสอบสวน คณะคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กอ.รมน.ภาค 4 สน.กรณี 3 ศพ เขาตะเว บ้านอาแน

ตูแวดานียา มือรีงิง และมิง ปัตตานี รายงาน…

เมื่อวันที่ 24 ธค.62 เวลา 10.00 น. ที่โรงแรมปาร์ควิวปัตตานี คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่แต่งตั้งโดย กอ.รมน.ภาค4 สน. เพื่อติดตามสถานการณ์ความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิตของชาวบ้าน 3 ศพบนเขาตะเว หมู่บ้านอาแน หมู่ 8 ต.บองอ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เหตุเกิดเมื่อวันที่16 ธค.62 ที่ผ่านมา พลตรี ธิรา แดหวา ในนามประธานคณะฯ เรียกกรรมการ ประกอบไปด้วย ผู้นำศาสนา 3 จังหวัดอาทิเช่น นายแวดือราแม มะมิงจิ ประธานคณะกรรมการอิสลามจ.ปัตตานี นายซาฟีอี เจะเลาะฮ์ ประธานคณะกรรมการอิสลามจังหวัดนราธิวาส ตัวแทนภาคประชาสังคม ตัวแทนด้านสิทธิมนุษยชน ทั้ง 2 ฝ่าย ร่วมกว่า 20 คน ร่วมติดตามหาข้อเท็จจริงกรณีล่าสุด 3 ศพบนเขาตะเว นอกจากนี้ยังมีคดีอื่นๆ เช่นกรณีของอับดุลเลาะ อีซอมูซอ รวมทั้งสิ้น 7 คด การประชุมครั้งนี้ไม่อนุญาตให้สื่อเข้าร่วมสังเกตการณ์

พล.ต.ธิรา แดหวา เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ครั้งนี้สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่มีชาวบ้านเสียชีวิตสามรายและท่านแม่ทัพได้กำชับให้สรุปภายในเจ็ดวัน เพื่อสร้างความไว้วางใจระหว่างรัฐกับพี่น้องประชาชน ป้องกันและลดเงื่อนไขที่นำไปสู่การสร้างความชอบธรรม ตลอดจนเพื่ออำนวยความสะดวกความยุติธรรมให้แก่พี่น้องประชาชนในพื้นที่ จชต. โดยเฉพาะเร่งติดตามสถานการณ์ความคืบหน้ากรณีการเสียชีวิต 3 ศพที่ อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส เหตุเกิดเมื่อวันที่16 ธค.62 ที่ผ่านมา

พล.ต.ธีรากล่าวกับสื่อมวลชนว่าเรื่องของ บองอ เกิดเหตุวันที่ 16 เช้าวันที่ 17 เราส่งทีมคณะกรรมการไปสี่หาคนมี อับดุลอาซิส ตาเดอิง เป็นหัวหน้าคณะ เพื่อเข้าไปดูข้อเท็จจริงในพื้นที่ว่าเป็นอย่างไร พบมีคนถูกยิง ไม่มีอาวุธ ชาวบ้านขึ้นตัดไม้ มีการเตือนแล้ว แต่ก็เป็นเรื่องของชาวบ้าน ที่นี่ชุดลาดตะเวนกำลังติดตามหาที่หลบซ้อนของกลุ่มก่อความไม่สงบ เพราะมีประวัติแล้วเคยพบฐานแปดฐานบนภูเขา ปรากฏว่าเจอกับชาวบ้านหกคน และอีกสามคนสามารถลบหนี้ลงไปได้ ที่เหลือเข้าใจผิดว่าเป็น RKK เพราะ 1 ชุด RKK มี 6 คน ก็เลยเกิดความเข้าใจผิด พอช่วงเช้าก็มีปัญหา พอชาวบ้านจะขึ้นไปเอาศพ ขึ้นไปไม่ได้ บอกว่าทหารขวาง ซึ่งมันขึ้นไปไม่ถึงแค่นั้นเอง ทางรองเกรียงไกร ได้ประสานทาง แวอาลี คอปเตอร์ ที่คุมคนกลับบ้านในอดีตให้ไปชวยหน่อย พอช่วงบ่ายทีมแม่ทัพเข้าไปเพื่อชีแจ้งและแสดงความเสียใจกับครอบครัวและจะอำนวยความสะดวกโดยเฉพาะในเรื่องความยุติธรรม ค้นหาความจริง
“พอทีมคณะกรรมการขึ้นไป เจอศพสามศพ ไม่มีอาวุธ คุยกับญาติผู้เสียชีวิต ญาติบอกเป็นความประสงค์ของอัลลอฮ ไม่รู้จะทำงัย ก็ต้องแก้กันไป ช่วยเหลือเยียวยากันไป สิ่งที่เรามาคุยวันนี้เราจะทำอย่างไรเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ชุดความจริงมีเป็นอย่างงี้ สองความเป็นธรรม คนที่ไปยิงชาวบ้านก็ว่ากันไปตามกฏหมาย ทหารไปมอบตัว ในส่วนของวินัยของเรา กฎการปะทะมันเป็นอย่างงัย ดูว่าคุณปฏิบัติหรือเปล่า ต้องดูเรื่องวินัย ต้องสอบสวนผู้บังคับบัญชา ร่วมถึงผู้ปฏิบัติ เรื่องอื่นๆ ค่อยๆว่ากันไป” พล.ต.ธีรากล่าว

ในส่วนของเรื่องเยียวยาท่านบอกว่าเยียวยาให้ทุกคนพอใจ “เยียวยาให้พอใจ เยียวยาตามหลักเกณฑ์ กฏเกณฑ์ ของ ศอ.บต. บางคนแนะนำให้เยียวยาตามหลักเกณฑ์ของกระทรวงกลาโหมในฐานะที่กระทรวงกลาโหมทำให้เกิดการสูญเสีย กระทรวงกลาโหมต้องรับผิดชอบด้วย อันนี้ก็ต้องไปดูที่หลักเกณฑ์ของกระทรวงกลาโหม แล้วก็ติดตามกันสามเรื่องต่อไป เรื่องเยียวยา เรื่องคดี และเรื่องความจริงที่เกิดขึ้น ในส่วนของการรางานผล เราคงไม่แถลงอะไร ในส่วนของสื่อของรายงานไปตามชุดข้อมูลของความจริงไป”
ผู้สื่อข่าวถามว่ารายชื่อเจ้าหน้าที่ที่ไปมอบตัวมีใครบ้าง ท่านตอบว่า ท่านไม่เห็นรายชื่อ แต่มันมีอยู่แล้ว 12 คน มีผู้การ “แมน” คนหนึ่ง ทหารไปมอบตัวแล้ว ต้องไปถามผู้การ นรินทร์ ในส่วนของการสอบสวนก็ต้องมีการไปแจ้งความกัน ผมให้ทางคณะเข้าไปดู ในส่วนของเจ้าหน้าที่สองคนที่มอบตัว ท่าน พล.ต.ธีรา บอกว่าน่าจะมีการประกันตัวหรือเปล่า เพราะไม่ทราบรายละเอียด
“ในส่วนอาวุธยังไม่มีการพิสูจน์ แต่ก็รู้ว่ามันเข้าตรงไหนๆ แต่มันไม่ใช่การจ่อยิงที่คณะกรรมการเข้าไปเจอ มีการยิงมาจากมีโดนด้านหน้าด้วย เราไม่ปกป้องคนผิด เราต้องตรวจสอบทางวินัย เราต้องมาดูกฎการปะทะ ว่าคุณละเมิดหรือเปล่า สั่งแล้ว ในความจริงการปฏิบัติการในภูเขาต้องมีคนชำนาญ อันนี้เราอมรับในความผิดพลาดตรงนี้ ต้องชำนาญพื้นที่ มีประสบการณ์ ชุดที่เกิดเหตุเป็นชุดที่ไม่มีประสบการณ์” พล.ต.ธีราเน้รย้ำ
ท่านยังบอกอีกว่าชาวบ้านในพื้นที่ไม่มีปัญหากับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น การที่จะให้ เจ้าหน้าที่กระทำความผิดไปขอโทษไม่มีปัญหา มีการดันขึ้นจากใครหรือเปล่า แต่กลัวว่าจะดึงให้เป็นเรื่องอื่น วันนั้นไม่มีใครพูดถึงเรื่องนี้ หลังจากนั้นมีคนเข้าไปเรื่อยๆ วันก่อนการเยียวยามีกรอบแค่นี้ พอมีคนเข้าไป ก็เสนอไปต้องมีทางเลือกที่ดีกว่า ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว ทั้งหมดอยู่ที่น้ำใจซึ่งกันและกัน จะทำอย่างไรให้ทุกคนพอใจนั่นคือความเป็นธรรม เพราะจะให้คนตามฟื้นขึ้นมาไม่ได้

นางพรวิลัย บวรณรงค์เดช หนึ่งในคณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กอ.รมน. 4 ในนามของพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ โรงพยาบาลเทพา ที่เข้ามาช่วยงาน กอ.รมน.4 กล่าวว่า
“ตอนแรกที่ขึ้นไปหน้าผ่า ประมาณ 7-8 เมตร เจอศพ แรก นอนหง่าย วิถีกระสุนโดนยิงจากด้านหน้า เข้าที่ท้องทะลุหลัง แกจุดเข้าหน้าทะลุกะโหลกหลัง ห่างไป ห่างไปเกือบเมตร เจอ 2 ศพ ทั้ง 2 ศพ นอนคว่ำในท่าที่กำลังเหมือนปีนเขานอนคว่ำขาพับเหมือนกำลังปีนเขา ทั้ง 2 ศพ นี้จะโดนยิงมาจากข้างหลัง ศพหนึ่ง โดนยิง 3 นัด ตรงบริเวณกะโหลกข้างหลังทะลุไปข้างหน้า ที่ขาชะแลบ 1 ที่ท้อง 1 นี้คือศพ 2 ส่วน ศพที่ 3 โดน 4 นัด โดนหลัง 3 นัด ตรงกลางปอด 2 ตรง ไหลซ้าย 1 และที่แขน ส่วนระยะการยิงต้องรอการพิสูจน์ทางนิติวิทยาศาสตร์อีกครั้ง แต่น่าจะไม่ได้ใกล้ขนาดประชัดชิดโดยลักษณะของเหตุที่เกิดขึ้น ถ้ามองจากสถานที่เกิดเหตุทหารน่าจะอยู่จากด้านล่าง คนตัดไม้น่าจะอยู่ด้านบนเหมือนยิงกราดขึ้นไปมากกว่า”นางพรวิลัย บวรณรงค์เดชกล่าว

นางสาวคอรีเยาะ หะหลี คณะกรรมการสิทธิ์ กอ.รมน. 4 หรืออกนนำสตรี บ้านควนโนรี กล่าวว่า จะไม่มีการแถลงข่าวเรื่องนี้จนกว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจจะทำหน้าที่ คณะกรรมการก็จะทำหน้าที่หาข้อเท็จจริงต่อไป พร้อมที่จะนำความจริงขึ้นมาพูดคุยหากมีการทำงานที่ไม่ตรงไปตรงมา

ส่วนบรรยากาศของการประชุมในวันนี้ หนึ่งในกรรมการฯกล่าวสั้นๆว่า วันนี้ กรรมการมีมติเป็นเอกฉันท์ ตอนนำเสนอทุกคนเครียดกับสถานการณ์แต่พอทุกคนยอมรับว่าเป็นเหตุการณ์ที่ยิงผิดคนกรรมการทุกคน ไฟล์กันทุกคน ไม่มีใครมองแย้งเลย “ รัฐต้องเยียวยาให้ถึงที่สุด ตำรวจต้องสอบคดีให้ถึงที่สุด ทหารต้องลงโทษทางวินัย ความเป็นธรรมต้องเกิด” กรรมการท่านหนึ่งกล่าว
อย่างไรก็ตามคณะกรรมการฯหลายท่านขอความเห็นใจจากสังคมหรือบุคคลที่ชอบมองคณะกรรมการฯในแง่ลบให้ยุติพฤติกรรมดังกล่าว เพราะเรากรรมทุกคนทำงานด้วยใจเพราะนำความยุติธรรมแก่ครอบครัวผู้สูญเสียทุกคน เราท้อ เราต้องการกำลังใจจากทุกคน

///////////////////////////

 1,954 total views,  4 views today