มีนาคม 28, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ศาลชั้นต้นปัตตานีคืนความเป็นธรรมให้กับ 5 ผู้ต้องหาคดีความมั่นคงวางระเบิดตู้ATMหลังจากมีการไต๋สวนไม่พบความเชื่อมโยง

แชร์เลย

อับดุลเลาะ เบญญากาจ  รายงาน..

( นายอับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ ประธานมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมปัตตานี )

(29พย.62) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้ากรณีการดำเนินการต่อสู้คดีความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดปัตตานี หลังจากพนักงานอัยการจังหวัดปัตตานีสั่งฟ้อง 6ผู้ต้องหาที่ทางการกล่าวหามีความเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดตู้ATMหลายแห่งในเขตตัวเมืองปัตตานี เหตุเกิดเมื่อวันที่20เดือนพฤษภาคม พศ.2561 จนกระทั่งเมื่อวันที่24พฤษภาคม256 1.เจ้าหน้าสามารถจับกุม นายมะยูโซะ มะแซ อายุ29ปี บ้านเลขที่36/2 ม.6 ต.ตะลุโบ๊ะ อ.เมืองปัตตานี และสามารถขยายผลจับกุมผู้ต้องหาได้อีก 5 ราย ประกอบด้วย 1.นายมูฮำมัด แวอูเซ็ง อายุ26 ปี บ้านเลขที่63 ม.5 ต.กะมิยอ อ.เมืองปัตตานี 2.นายซุไฮมี มะแซ อายุ30ปี บ้านเลขที่10 ม.5 ต.เกาะจัน อ.มายอปัตตานี 3.นายอิสมาแอล อาแซ อายุ29ปี บ้านเลขที่34 ม.4 ต.รูสะมิแล อ.เมืองปัตตานี 4.นายอาแว หะยีเด็ง อายุ29ปี บ้านเลขที่ 4 ม.2 ต.ปะกาฮะรัง อ.เมืองปัตตานี 5.นายนะหาดี อาแซ อายุ33ปี บ้านเลขที่ 104 ม.3 ต.ตัยหยงลุโล๊ะ อ.เมืองปัตตานี ซึ่งบุคลทั้งหกคนได้ถูกพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการพิเศษฝ่ายคดีอาญา3เป็นโจทย์สั่งฟ้องนายมะยูโซะ มะแซ กับพวก คดีหมายเลขดำที่3674/2561 ลงวันที่19พฤศจิกายน2561ที่ผ่านมาในข้อหา”ร่วมกันก่อการร้ายโดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการใดอันก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิตเพื่อให้เกิดความเสียหาย


ล่าสุดนายอับดุลกอฮาร์ อาแวปูเตะ ประธานมูลนิธิศูนย์ทนายความมุสลิมปัตตานี ได้เปิดเผยว่าศาลอาญาชั้นต้นปัตตานีได้คืนความเป็นธรรมให้กับ 5 ผู้ต้องหาคดีความมั่นคง และพิพากษาให้ประหารชีวิตนายมะยูโซะ อาแซ อายุ 29ปี บ้านเลขที่36/2 ม.6 ต.ตะลุโบ๊ะ อ.เมืองปัตตานี แต่ด้วยผู้ต้องหาให้การรับสารภาพในชั้นซักถามและชั้นสอบสวน จึงเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ศาลจึงลดโทษ1ใน3 คงเหลือโทษจำคุกตลอดชีวิต จากนั้นศาลให้จำผู้ต้องหาทั้ง 6 คน ในระหว่างอุทธรณ์ของเจ้าพนักงานอัยการและฝ่ายจำเลยต่อไป
ส่วนประเด็นการต่อสู้คดีนั้นทางทนายได้เปิดเผยว่าผู้ต้องหาจำเลยที่ 1 นายมะยูโซะ อาแซ ที่ถูกพิพากษาโทษประหารชีวิตและลดโทษเหลือจำคุกตลอดชีวิตนั้น ได้ให้การรับสารภาพในชั้นซักถามในระหว่างถูกควบคุมตัวที่ค่ายทหาร และให้การรับสารภาพในชั้นสอบสวนหลังถูกส่งตัวจากค่ายทหารมาดำเนินที่โรงพัก สภ.เมืองปัตตานี

ในส่วนของผู้ต้องหาที่เหลือทั้ง 5 คน ได้ให้การรับสารภาพในชั้นซักถามในค่ายทหาร และได้ให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวนหลังถูกส่งตัวจากค่ายทหา รมาดำเนินคดีต่อที่โรงพัก สภ.เมืองปัตตานี โดยผู้ต้องหาประสงค์ให้การต่อในชั้นศาล โดยจากการเปิดเผยหรือการให้การของผู้ต้องหาดังกล่าว สาเหตุที่ให้การรับสารภาพในศูนย์ซักถามที่ค่ายทหารนั้น   เพราะกลัว ซึ่งรับสารภาพกรณีภาพที่ปรากฎในวงจรปิดที่เจ้าหน้าที่นำมาให้ดู ในระหว่างซักถามทั้ง ๆ ที่ไม่ใช่ภาพของตัวเอง ผู้ต้องหาทั้ง 5 คน จึงกล้าให้การปฏิเสธในชั้นสอบสวนและรับที่จะให้การในชั้นศาล เนื่องจากผู้ต้องหามั่นใจจะได้รับคืนความเป็นธรรมจากศาล

นอกจากนั้นทางทนายอับดุลกอฮาร์ ได้กล่าวเพิ่มเติมว่าจะการกล่าวหาของเจ้าหน้าที่ว่าลูกความได้กระทำผิด ล้วนมาจากภาพในวงจรปิดตามเส้นทางที่มุ่งสู่ประตูมัสยิดกลางปัตตานี ที่ถูกอ้างจากพนักงานสืบสวนว่า”เป็นสถานที่ส่งมอบวัตถุระเบิด ให้กับผู้ต้องหาเพื่อนำไปวางไว้จุดต่าง ๆ”แต่กลับถูกปฏิเสธภาพจากกล้องวงจรปิดในบริเวณมัสยิดกลางจากพนักงานสอบสวน ทั้ง ๆที่ทางลูกความสามารถนำสืบ ได้ว่าภายในรอบมัสยิดกลางปัตตานีมีการติดตั้งกล้องวงจรรอบพื้นที่ จึงไม่ทราบว่าทำไมทางพนักงานสืบสวนที่รับผิดชอบคลี่คลายคดีนี้ ไม่ยอมนำภาพในวงจรปิดจุดนี้มาพิสูจน์ในชั้นศาล ในเมื่อกล่าวหาว่าเป็นจุด”มอบระเบิดอีกด้วย”  

 789 total views,  2 views today