ทหารช่าง43เร่งซ่อมบ้านเหยื่อความรุนแรงจากเหตุปะทะในระหว่างสนธิกำลังปิดล้อมไล่ล่าคนร้ายคดีความมั่นคง

แชร์เลย

อับดุลเลาะ เบญญากาจ จ.ปัตตานี รายงาน…

(23พย.62) ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศที่บ้านปูนชั้นเดียว เลขที่124/1 ม.1 ต.คอลอตันหยง อ.หนองจิก จ.ปัตตานีที่มีนางซะตียาเราะ แวซู อายุ 62 ปี ที่ยังมีร่องรอยกระสุนปืน พรุนทั้งหลัง ภายในตัวบ้านพบมีหลุมลึกคล้ายรอยระเบิดจำนวน 2 จุดพบร่องรอยคล้ายสะเก็ดระเบิดตามผนังรอบบริเวณหลุม หลังเกิดเหตุปะทะในระหว่างสนธิกำลังของเจ้าหน้าที่ติดตามไล่ล่าคนร้ายตามหมายจับคดีความมั่นคง บริเวณพื้นบ้านยังพบขวดชิ้นส่วนของแก๊สน้ำตา
ขณะเดียวกัน รอ.นพ พรหมยา หัวหน้าชุดทหารช่างหน่วยเฉพาะกิจทหารพราน43 นำกำลังทหารช่างร่วมกับกำลังพลในพื้นที่ และฝ่ายปกตรองช่วยกันรื้อซากปรักหักพังที่ได้รับความเสียหาย เพื่อซ่อมแซมให้กลับสภาพเหมือนเดิม ซึ่งวันนี้ทหารช่างได้มีการรี้อกระเบื้องหลังคา เพื่อเปลี่ยนกระเบื้องใหม่ให้แล้วเสร็จก่อนที่จะดำเนินการซ่อมแซมส่วนอื่นของบ้าน เนื่องจากในพื้นที่ช่วงนี้กำลังเข้าฤดูหน้าฝน
ส่วนนางซะตียาเราะ แวซู วัย 62 ปี เจ้าของบ้าน ได้อาศัยบ้านของแม่พักอาศัยชั่วคราว โดยวันนี้ได้พาญาติมาช่วยเก็บกวาดบ้าน เก็บข้าวของ เครื่องครัว ที่นอนที่เหลืออยู่ภายในบ้านและห้องนอนเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับทหารที่เข้ามาซ่อมแซมบ้าน

เล่านาทีระทึก
ด้านนางซะตียาเราะ แวซู ได้เผยเล่าเรื่องราวให้กับทีมสื่อว่าเมื่อช่วงดึกของวันพุธที่ 20พย.62ที่ผ่านมา เวลาประมาณ23นาฬิกาลูกชาย(อับดุลเลาะ)ได้เข้ามาปลูกแม่ที่กำลังหลับอยู่ในห้องนอนส่วนตัวว่าจะมีคน 2 คนขอพักอาศัยด้วย แม่จึงบอกลูกว่า”ช่วงนี้แม่กำลังอยู่ในระหว่างปฏิบัติกฎ เก็บสงวนตัวตามศาสน บัญญัติไว้ หลังจากสามีเสียชีวิตให้ครบ 4 เดือน อีก10วัน”ซึ่งขณะนี้สามีจากไปพึ่งจะครบ 3เดือน จึงบอกปฏิเสธ จากนั้นลูกชายก็ได้บอกปฏิเสธตามเหตุผลที่แม่ได้อ้างถึง แต่บุคคลทั้งสองก็ตื้อจะขออยู่พักแรมแค่คืนเดียวพรุ่งนี้จะให้เขามารับ ทำให้แม่กับลูกก็ไม่รู้จะทำการอย่างไร

นางซะตีเยาะฯยังกล่าวเพิ่มเติมว่าจากนั้นลูกชายได้กระซิบบอกแม่ว่า”แม่ลองย่องดูว่าเขาทั้งสองเป็นใครเพื่อแม่จะเคยเห็น”แต่แม่ลูกว่าแม่ไม่อยากยุ่งกับคนแปลกหน้า เพราะแม่ยังอยู่ในระหว่างการถทอกฎฯสามีเสียชีวิตมันจะให้บาปได้ และแม่เองไม่ได้ไปยุ่งหาข้าวอาหารแต่อย่างใด จึงไม่รู้ว่าเขาหาอะไรทานไปบ้าง น่าสนสารลูกชายทั้งวันไม่ได้อยู่บ้าน เพราะกลัวคนแปลกหน้ามาขออาศัยที่บ้าน กลับทำให้ลูกชายไปพักอยู่บริเวณสำนักงาน อบต.กับเพื่อนในหมู่บ้านแทน จนกระทั่งพอตกค่ำก็ได้เกิดเหตุเจ้าหน้าที่เข้ามาปิดล้อมบ้านแล้วมีเสียงปืนชุดแรกดังขึ้นขณะนั้น แม่อยู่กับหลานโดยลำพังจึงรีบคว้าหลานให้มอบชิดกับพื้นห้องนอน ขณะนั้นแม่ตกใจหวาดผวาใจสั้นหมดแล้ว จากนั้นโชคดีลูกชายที่กำลังซ่อมรถจักรยานยนต์หน้าบ้านรีบขึ้นไปคว้าแม่พร้อมหลานลงจากบ้านออกมาข้างนอกบ้าน เมื่อออกมาถึงถนนดำก็มีน้องทหารพรานหญิงวิ่งมารับตัวตามที่ปรากฏในภาพข่าว จึงอยากขอความเป็นธรรมกับแม่และลูกชายของแม่ด้วย แม่ไม่ได้รู้เห็นกับบุคคลที่ขอมาพักอาศัยแต่อย่างและเราก็ได้ปฏิเสธแล้ว แต่เขาไม่ยอมไปบอกจะไปพรุ่งนี้ แม่เองก็กลัวความปลอดภัยจึงได้แต่เก็บเงียบ/นางซาตีเยาะได้กล่าวทิ้งท้าย