พฤศจิกายน 26, 2024

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

“ทวี” พร้อม ส.ส.พรรคประชาชาติ สวดศพ ชรบ.ยะลา เน้นย้ำ ดับไฟใต้ ใช้ “ความจริง จริงใจ” รัฐต้องยกปัญหาชายแดนใต้ เป็นวาระแห่งชาติ

แชร์เลย

SPM news  รายงาน…  


เมื่อวันที่  (8 พ.ย.62) เวลา 19.00 น. พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ เป็นประธานในพิธีสวดพระอภิธรรมศพผู้เสียชีวิตจากเหตุคนร้ายกราดยิงป้อมชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ซึ่งมีผู้เสียชีวิตที่เป็นพุทธศาสนิกชน 13 คน เป็นมุสลิม 2 คน จากทั้งหมด 15 คน ซึ่งผู้เสียชีวิตที่เป็นมุสลิมได้ประกอบพิธีฝังศพที่กุโบร์เรียบร้อยแล้ว ส่วนผู้เสียชีวิตที่เป็นพุทธศาสนิกชนได้ตั้งศพบำเพ็ญกุศลที่วัดลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลา โดย พันตำรวจเอก ทวี ได้เดินทางพร้อมด้วยนายอับดุลอายี สาแม็ง ส.ส.ยะลา พรรคประชาชาติ และทีมบริหารพรรคอีกหลายท่าน เพื่อให้กำลังใจแก่ครอบครัวผู้สูญเสีย

หลังเสร็จสิ้นการสวดพระอภิธรรมศพ พันตำรวจเอก ทวี สอดส่อง ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า “วันนี้ได้มาระลึกถึงผู้เสียชีวิตทั้ง 15 ท่าน ซึ่งเป็นประชาชนที่เสียสละออกมาปกป้องหมู่บ้านตนเอง เขาเป็นผู้ไม่มีอาวุธแต่อาสามารักษาความปลอดภัยบ้านเกิด ถือเป็นเป็นวีรบุรุษอย่างแท้จริง ประการสำคัญคือเรามาให้กำลังใจผู้ที่ยังมีชีวิตอยู่ ซึ่งมีสมาชิกในครอบครัวของผู้เสียชีวิตจากที่สำรวจมีทั้งหมดมี 49 คน ในทางพุทธศาสนาการเกิดแก่เจ็บตายนั้นเป็นเรื่องปกติ แต่การตายจากเหตุการณ์ความไม่สงบนั้น เป็นความรับผิดชอบของสังคม ที่ผ่านมาเรามีบทเรียนเยอะ ซึ่งไม่ควรจะให้เกิดเหตุการณ์ลักษณะนี้ขึ้น จึงขอเรียนไปยังเจ้าหน้าที่ทหารตำรวจว่า เหตุการณ์นี้เป็นเรื่องสะเทือนใจ อยากจะให้นำความรู้ความสามารถทุ่มเทในการนำตัวผู้กระทำผิด มาดำเนินคดีตามกฎหมาย ประเทศไทยโดยเฉพาะสามจังหวัดใต้ ได้รับการยอมรับจากนานาชาติเป็นอันดับต้นๆของโลกในเรื่องการช่วยเหลือเยียวยาและฟื้นฟู ผู้ได้รับผลกระทบ”

พันตำรวจเอก ทวี กล่าวอีกว่า “ชุมชนลำพะยา จะต้องได้รับการเยียวยาชุมชนและจิตใจด้วย เช่นที่วัดพรหมประสิทธิ์ หรือที่บ้านไอร์ปาแย เราได้เคยเยียวยาประชาชนคนละ 7,500,000 บาท รัฐต้องกล้าดูแล เราเป็นคนไทยด้วยกันจะต้องทำเพื่อประชาชน และสำคัญที่สุด จะต้องไม่มีเหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นอีก การดำเนินคดีต้องดำเนินไปอย่างตรงไปตรงมาเพราะในสามจังหวัดภาคใต้คนตายไม่มีสาเหตุ ไม่มีปัญหาขัดแย้งกับใครก็ตายได้ ดังนั้นสาเหตุที่แท้จริงคือเพราะรัฐไม่เข้าใจ จึงต้องแก้ไข และทุกคนอยากให้สันติสุข สันติภาพ ความรัก ความสามัคคี เกิดขึ้น”

พันตำรวจเอก ทวี กล่าวอีกว่า “ ในพื้นที่จังหวัดใช้แดนภาคใต้มี ผู้นับถือศาสนาพุทธเป็นส่วนน้อย เราก็เข้าใจความรู้สึกของผู้นับถือศาสนาพุธ บางครั้งก็ตกเป็นเป้าหมาย ซึ่งการดูแลพื้นที่ ต้องดูแลให้มีความเสมอภาค โดยไม่ยึดจากจำนวนคน ต้องให้ความสำคัญกับทุกศาสนาอย่างเท่าเทียมกัน เช่นท่านรักษาการเจ้าอาวาสวัดลำพะยาแห่งนี้ ท่านทำให้ดูเป็นตัวอย่าง เราจะเห็นว่าคนทั้งพุทธมุสลิมมาที่วัดเต็มไปหมด อย่างไรก็ตามปัญหาความไม่สงบเราต้องรีบแก้ไขโดยเร็วไม่ควรปล่อยให้เลือดไหล ข่าวที่ออกไปเหมือนเราเป็นคนป่วยของอาเซียนและเอเซีย การแก้ปัญหาภาคใต้ ต้องไม่มีอคติกัน ต้องยึดถือว่าเราทุกคนเป็นพลเมืองไทยด้วยกัน ซึ่งการแก้ปัญหาในระยะยาวจะต้องนำวาระการแก้ปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ เป็นวาระแห่งชาติ ไม่ใช่พอเกิดเหตุแล้วใช้อารมณ์ เรามีกฎหมาย เรามีงบประมาณ เราทุ่มเทซื้ออาวุธไปจำนวนมาก ใช้งบประมาณเป็นหมื่นล้าน แต่บางทีเราอาจจะต้องใช้ปัญญาในการแก้ปัญหา โดยให้ประชาชนทั้งพุทธและมุสลิมมีส่วนร่วมในการกำหนดชะตาชีวิตตนเอง โดยเฉพาะพี่น้องชาวพุทธ เพราะจู่ๆเขาก็ถูกฆ่าตาย เราต้องนำปัญหาภาคใต้เป็นปัญหาของทุกคน ผมเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องให้ประชาชนมีส่วนร่วมแก้ปัญหา เพราะหากใช้กำลังความมั่นคงอย่างเดียว เขาเป็นข้าราชการ สุดท้ายเขาก็ออกไปจากพื้นที่ แต่ประชาชนยังต้องอยู่ในพื้นที่เพราะเป็นบ้านของเขา”

ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องแนวคิดการถอนกำลังทหารออกจากพื้นที่ พันตำรวจทวี กล่าวว่า “หากถอนกำลังทหารออกไป พี่น้องชาวไทยพุทธก็จะอยู่กันอย่างหวาดระแวง แต่เราจะต้องจัดรูปแบบ เช่นในพื้นที่ให้มีกำลังของตำรวจเป็นหลักและทหารคอยสนับสนุน ส่วนเรื่องกฎหมายพิเศษจะต้องไม่ละเมิดสิทธิคนอื่น บางครั้งจะจับกุมคนร้าย แต่ไปละเมิดสิทธิคนอื่น ก็จะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ผมคิดว่ารูปแบบกฎหมายที่เหมาะสมก็คือให้นำกฎหมายพิเศษทั้งสามฉบับมาบูรณาการกัน ว่าเจ้าหน้าที่จะทำได้แค่ไหน และจะทำอย่างไรหากประชาชนรู้สึกว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม จะมีช่องทางให้เขาได้เข้าถึงความยุติธรรมตรงนี้เรื่องสำคัญ”

//////////////////////////////////

 

 697 total views,  4 views today

You may have missed