แถลงการณ์มูลนิธิผสานวัฒนธรรม เหตุการณ์ยิง ชรบ.ที่ลำพะยา

อุสตาซอับดุชชะกูร บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)รายงาน

(6 พฤศจิกายน 2562)  พวกเราในเครือข่ายผู้เข้าร่วมอบรมเชิงปฏิบัติการ “กระบวนการยุติธรรมในระยะเปลี่ยนผ่าน”ได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับเหตุการณ์ร้ายที่ลำพะยา จังหวัดยะลา ว่าน่าจะมีจุดยืนต่อกรณีบ้าง ซึ่งแต่ละองค์กรก็นำผลการพูดคุยครั้งนี้มาแสดงจุดยืน หลังจากนั้นไม่นาน นางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ ผู้อำนวยการมูลนิธิผสานวัฒนธรรมในฐานะผู้จัดประชุมเชิงปฏิบัติการดังกล่าว ได้นำข้อแลกเปลี่ยนนี้มาสรุป และได้ออกแถลงการณ์ในนามมูลนิธิในเบื้องต้น ซึ่งมีเนื้อหาใจความว่า “ ขอแสดงความเสียใจและขอให้มีการค้นหาความจริง นำคนผิดมาลงโทษ เยียวยาผู้เสียหาย ต่อเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นที่ลำพญาทำให้มีผู้เสียชีวิต 15 คน

เมื่อวันที่ 5 พ.ย.2562 เวลาประมาณ 23.25 เหตุเกิดพื้นที่หมู่ 5 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา กลุ่มติดอาวุธได้ใช้อาวุธปืนสงครามยิงถล่มชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้านและมีผู้เสียชีวิต15ราย ซึ่งประกอบไปด้วย ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จำนวน 4 ราย โดย 1 ใน4 รายนั้นเป็นแพทย์ประจำตำบลด้วย , ราษฎร จำนวน 6 ราย, พนักงานข้าราชการ 1 ราย,อาสาสมัครรักษาหมู่บ้าน จำนวน 2 ราย, ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ (ผรส.)จำนวน 2 ราย โดยประกอบไปด้วยผู้นับถือศาสนาพุทธจำนวน 14 ราย และอิสลามจำนวน 1 ราย ซึ่งเป็นผู้หญิง 3 ราย และผู้ชาย 12 ราย นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวน 5 ราย ประกอบไปด้วย ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านฝ่ายรักษาความสงบ (ผรส.)จำนวน 1 ราย ราษฎร จำนวน2 ราย ,ชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) จำนวน 1 ราย อาสาสมัครรักษาหมู่บ้าน จำนวน 2 ราย จำแนกศาสนาพุทธ 3 ราย อิสลาม 2 ราย โดยทั้ง 5 ราย บางส่วนยังคงรับการรักษาที่โรงพยาบาลและบางส่วนสามารถกลับบ้านได้

มูลนิธิผสานวัฒนธรรมขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ความรุนแรงด้วยอาวุธจากกรณีดังกล่าว ซึ่งสร้างความสูญเสียถึงชีวิตแก่ประชาชนผู้บริสุทธิ์ในพื้นที่ชายแดนใต้ โดยมีผู้เสียชีวิตจำนวนมากเป็นชาวไทยพุทธ บางส่วนเป็นชาวมลายูมุสลิม บางคนเป็นเจ้าหน้าที่รัฐและอดีตเจ้าหน้าที่รัฐฝ่ายพลเรือนที่ช่วยกันทำหน้าที่ที่ป้อมอาสาสมัครป้องกันหมู่บ้านในวันเกิดเหตุ เหตุการณ์ความรุนแรงได้สร้างความไม่ใว้ใจของประประชาชนทั่วไปในการใช้ชีวิตประจำวัน ทั้งชาวพุทธและมุสลิม มูลนิธิฯขอให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการสืบสวน สอบสวน นำผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างเร่งด่วน มีความถูกต้อง และเป็นธรรม โดยผ่านกระบวนการพิจารณาคดีอาญาและการพิจารณาคดีที่เป็นธรรมประจักษ์ต่อผู้เสียหาย รวมทั้งมีการเยียวยาผู้เสียหายทุกรายอย่างเหมาะสม.

มูลนิธิเห็นว่าการสืบค้นหาความจริง (Fact Finding)ในเรื่องของสาเหตุรากเหง้าของปัญหาการใช้ความรุนแรงโต้ตอบกันต้องพึงกระทำทั้งในระดับกรณี ชุมชน และภาพรวมของการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งที่ยืดเยื้อยาวนานมีความจำเป็นที่จะทำให้สถานการณ์คลี่คลายไปได้ระดับหนึ่งเพื่อลดความรุนแรงและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาการใช้ความรุนแรงโต้ตอบกัน อีกทั้งทุกฝ่ายต้องมีการเสริมสร้างให้เกิดความอดทนอดกลั้นและความรู้ในการจัดการกับข้อมูลข่าวสารในโลกดิจิตอลที่เผยแพร่ไปอย่างกว้างขวางในลักษณะที่มีการสร้างความเกลียดชัง”
ครับผู้เขียนหวังว่าในแถลงการณ์ครั้งนี้อย่างน้อยที่สุดองค์กรที่ทำงานด้านสิทธิมนุษยชนซึ่งถูกกล่าวหาตลอดว่ามักไม่ส่งเสียงอะไรเมื่อ คู่ขัดแย้ง ของฝ่ายเห็นต่างจากรัฐ(ถูกกล่าวหา)โดนละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งความเป็นจริงองค์กรสิทธิมนุษยชนไม่ว่ามูลนิธิผสานวัฒนธรรม กลุ่มด้วยใจและอื่นๆ ก็แสดงจุดยืนและออกแถลงการณ์ตลอดไม่ว่าฝ่ายใดละเมิด (สามารถพิมพ์ค้นหาในgoogle ได้)
และ
สามารถดูจุดยืนมูลนิธิผสานวัฒนธรรมในอดีตได้ใน
https://voicefromthais.wordpress.com/
ในขณะเดียวกัน
มูลนิธิผสานวัฒนธรรมและเครือข่ายชาวไทยพุทธเพื่อสันติภาพจะขอระดมเงินช่วยครอบครัวผู้เสียชีวิต 15 ชีวิตและครอบครัวที่ได้บาดเจ็บ โดยในวันที่ 8 พย. 2562 เวลาประมาณ 11.00-15.00น.ทีมภาคประชาสังคมชายแดนใต้จะร่วมกันเดินทางไปแสดงความเสียใจและให้กำลังใจกับชุมชนที่ประสบกับเหตุการณ์สะเทือนขวัญ และร่วมกันเรียกร้องแนวทางสันติวิธีในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง

ขออนุญาติปิดรับบริจาคสำหรับกิจกรรมนี้เวลา15.00. ขอเชิญทุกท่านร่วมแสดงพลังและการช่วยเหลือเกื้อกูลต่อกันได้

ที่หมายเลขบัญชี
1.ชื่อบัญชีนางสาวลม้าย มานะการ
ธนาคารกรุงไทย 929-1-372-307
2.ชื่อบัญชีนางสาวพรเพ็ญ คงขจรเกียรติ
ธนาคารกรุงไทย 091 112 4098
Bank Name: Krungthai
Name: PORNPEN KHONGKACHONKIET
Account number: 091 112 4098

 986 total views,  2 views today