จากเหตุความไม่สงบ เมื่อวันจันทร์ ที่ 5 พฤษจิกายน 2562 เมื่อเวลา 23.20 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวน ใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาดยิงใส่จุดตรวจ 2 จุด เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต จำนวน 15 ราย ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 4 ราย และเวลาต่อเนื่องกัน คนร้ายวางระเบิดเสาไฟฟ้า โปรยตะปูเรือใบ 1. ยิงจุดตรวจทางลุ่ม (ชรบ.) ม.5 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา 2. ยิงจุดตรวจ อส.ชุด ชคต. บ้านทุ่งสะเดา ม.5 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา 3. วางระเบิดบริเวณเสาไฟฟ้าใกล้จุดตรวจทางลุ่ม ม.5 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา 4. เผายางรถยนต์ บริเวณหน้าโรงเรียนพัฒนาบ้านป่าพ้อ ม.3 ต.ลำพะยา อ.เมือง จ.ยะลา และโปรยตะปูเรือใบ เส้นทางสายลำพะยา – ลำใหม่ จ.ยะลา
ล่าสุดทาง สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ออกแถลงการณ์ด่วน ต่อต้านความรุนแรง ดังรายลเอียดต่อไปนี้
แถลงการณ์ ฉบับที่ 2/2562
สถานการณ์ วันอังคารที่ 5 พฤศจิกายน 2562 เวลาประมาณ 22.15 น. คนร้ายไม่ทราบจำนวนใช้อาวุธปืนไม่ทราบชนิดและขนาด ยิงใส่จุดตรวจ 2 จุดคือ จุดตรวจทางลุ่ม(ชรบ.) และจุดตรวจ อส. ชุด ชคต. หมู่ที่ 5 ตำบลลำพะยา อำเภอเมือง จังหวัดยะลาเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 15 ราย ได้รับบาดเจ็บ 5 ราย ซึ่งส่วนใหญ่เป็นประชาชนในพื้นที่ที่มีจิตใจเสียสละมาทำหน้าที่ปกป้องชุมชน ในรูปแบบชรบ. หรืออาสาสมัครต่างๆ และเวลาต่อเนื่องกัน คนร้ายวางระเบิดเสาไฟฟ้า โปรยตะปูเรือใบ
“ผู้บาดเจ็บและตาย เป็นทั้งพี่น้องไทยพุทธ และมุสลิม ในจำนวนนี้มีเจ้าหน้าที่หนึ่งคน” ในพื้นที่ที่ถือว่าชุมชนเข้มแข็งที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัดชายแดนภาคใต้
“สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดชายแดนภาคใต้” ขอแสดงความเสียใจกับครอบครัว ญาติพี่น้องของผู้ได้รับผลกระทบนี่จึงเป็นเหตุการณ์ที่ต้อง “ประณาม” ผู้ก่อเหตุร้ายและนี่เป็นความสูญเสียที่เกิดขึ้นไม่ได้เพียงแต่ครอบครัวผู้ได้รับผลกระทบในพื้นที่ แต่รวมถึงสังคมไทย และคนไทยทั้งชาติ
นี่จึงเป็นสัญญาณที่ทุกคน ทุกฝ่ายต้องลุกขึ้นมาร่วมกันแก้ปัญหา
- พี่น้องทุกชุมชนในพื้นที่ต้องไม่ให้ผู้ก่อเหตุร้ายซุกซ่อนหรือให้ที่พักพิง “ผู้ที่กระทำต่อผู้บริสุทธิ์” ไม่ควรเป็นญาติพี่น้องใคร
- ต้องร่วมกันขจัดเงื่อนไขที่เชื่อมโยงให้มีขบวนการก่อการร้าย อาทิ ยาเสพติด หรือสินค้าหนีภาษี รวมถึงผู้มีอิทธิพล
- พี่น้องชรบ. และกลุ่มอาสาสมัครดูแลพื้นที่ต้องไม่เสียกำลังใจ ขณะเดียวกันต้องได้รับการดูแลจากรัฐ และการสนับสนุนจากประชาชนในพื้นที่มากยิ่งขึ้น รวมถึงทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง
- ฝ่ายการเมืองในพื้นที่ ตั้งแต่ระดับ อบต. ไปจนถึงส.อบจ.และส.ส. ต้องมีความจริงใจในการร่วมแก้ปัญหา โดยยึดประโยชน์ประชาชนมากกว่าพรรค หรือกลุ่มการเมือง หรือประโยชน์ส่วนตัว
- ฝ่ายทหารและเจ้าหน้าที่รัฐ ต้องกระทำการด้วยความรอบคอบ ในการจับกุมผู้ก่อเหตุร้าย เพื่อไม่สร้างเงื่อนไขใหม่ โดยชุมชน และประชาชนในพื้นที่ควรให้การสนับสนุนอย่างเต็มที่
- ฝ่ายความมั่นคงและทหาร จะต้องเร่งแก้ไข“การข่าว”เพื่อไม่ให้ประชาชนผู้บริสุทธิ์หรือฝ่ายรัฐต้องสูญเสียมากเช่นปัจจุบัน
- สื่อมวลชนต้องรายงานผลกระทบจากการสูญเสียมากกว่าเสนอรายละเอียดและความรุนแรงของเหตุการณ์ พร้อมร่วมนำเสนอ แนวทางแก้ปัญหาเพื่อนำไปสู่สันติสุข
วันนี้สื่อมวลชนอาชีพและสื่ออิสระในพื้นที่“ต้องทบทวนบทบาท” การที่มุ่งนำเสนอข่าวเหตุการณ์ร้าย ที่ตอกย้ำผลงานให้ผู้ก่อร้าย และซ้ำเติมความเจ็บปวดแก่ประชาชนผู้สูญเสีย อีกทั้งเพิ่มความหวาดระแวงต่อกันในหมู่พี่น้องประชาชน หรือประชาชนกับผู้ปฏิบัติหน้าที่
“ไม่มีใครจะปิดกั้นสื่อได้ แต่สื่อทุกคนหรือผู้ที่ต้องการสื่อสาร ควรมีจิตสำนึกสาธารณะ ที่เห็นแก่ประเทศชาติ และประชาชนส่วนใหญ่มากกว่าประโยชน์ส่วนตัว อีกทั้ง ทุกฝ่ายต้องมาร่วมกัน ปกป้องไม่ให้เราต้องสูญเสียผู้บริสุทธิ์รายต่อไป”
ต้องขจัด ผลักดันผู้ก่อเหตุร้ายให้พันพื้นที่ ต้องให้ความร่วมมือและสื่อสารปฏิเสธความรุนแรงทุกรูปแบบ และเรียกร้องให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคงจับกุมคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมาย เพื่อให้จังหวัดชายแดนภาคใต้กลับคืนสู่สภาพดินแดนพหุวัฒนธรรมอันแสนอบอุ่นเข่นในอดีต
สมาคมสื่อมวลชนจังหวัดชายแดนภาคใต้(STMA)
6 พฤศจิกายน 2562
976 total views, 2 views today
More Stories
เลขาฯ รมต.ยุติธรรม ชี้ มหกรรมแก้หนี้ ปลดหนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้สิน 242 ล้าน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ วิทยาลัยการอาชีพเบตง
เทศบาลเมืองปัตตานีจัดกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี