ญาติพร้อมทนายความยื่นคำร้องทุกข์ ให้หาตัวผู้กระทำความผิดอาญา กรณีการเสียชีวิตของอับดุลเลาะ อีซอมูซอ

อับดุลเลาะ เบญญากาจ  รายงาน…

(1ตุลาคม62)ผู้สื่อข่าวรายงานเมื่อเวลา10.30 น.ที่โรงพัก สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี ได้มีนางสาวซูไมยะห์ มิงกะ ญาตินายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ พร้อมด้วยนายอับดุลกอฮัร อาแวปูเตะ หรือทนายกอฮา ประธานศูนย์ทนายความมุสลิมมูลนิธิปัตตานีและทีมกฎหมายของศูนย์ทนายความและมูลนิธิพสานวัฒนธรรมเข้ายื่นคำร้องทุกข์เป็นหนังสือต่อเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.หนองจิก จ.ปัตตานี เพื่อกล่าวโทษต่อพนักงานสอบสวน ต่อการสูญเสียชีวิตของนายอับดุลเลาะ อีซอมูซอเมื่อวันที่25ตุลาคม2562ภายในห้อง ICU โรงพยาบาลมหาลัยสงขลานครินทร์หาดใหญ่ หลังให้การรักษาเป็นเวลา35วัน โดยที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์หาดใหญ่ได้ออกหนังสือรับรองการเสียชีวิต ระบุสาเหตุการตายว่า”เสียชีวิตจากภาวะสมองขาดออกซิเจนและขาดเลือด”
ทั้งนี้นายอับดุลเลาะ อีซอมูซอ  ได้ถูกควบคุมตัวเมื่อวันที่20กรกฎาคม2562 โดยหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารพรานที่44 ภายใต้อำนาจตามกฎอัยการศึกนำไปยังค่ายอิงคยุทธบริหาร ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก ต่อมาเมื่อเวลาประมาณ 03.00น. ของวันที่21กรกฎาคม25625 ถูกพบว่านายอับดุลเลาะฯนั้นหมดสติอยู่ภายในศูนย์ซักถามของหน่วยเฉพาะกิจ43 ภายในค่ายอิงคยุทธฯ เจ้าหน้าที่ประจำค่ายดังกล่าวจึงนำนายอับดุลเลาะฯเข้ารับการรักษาเบื้องต้นที่โรงพยาบาลค่ายอิงคยุทธบริหาร

จากนั้นได้ส่งไปรักษาตัวต่อ ณ ผู้ป่วยวิกฤติICU ของโรงพยาบาลปัตตานี ต่อมาเมื่อวันที่22กรกฎาคม2562 ถูกส่งตัวรักษาต่อที่โรงพยาบาลสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลาและได้รับการรักษาอย่างต่อเนื่อง โดยแพทย์ระบุว่าผู้ป่วยไม่รู้สึกตัว ไม่ตอบสนองต่อสิ่งกระตุ้นต่าง ๆผลเอ็กซ์เรย์สมองในขณะนั้นพบสมองบวม มีเลือดออกใต้เหยื่อหุ้มสมอง ยังคงใส่เครื่องหายใจ มีสภาวะไตวายเฉียบพลันและจำเป็นต้องได้รับการดูแลรักษาอย่างใกล้ชิดในหออภิบาลผู้ป่วยวิกฤติทางอายุรกรรมเป็นเวลา30วันและเสียชีวิต เมื่อวันที่ 25 สิงหาคมที่ผ่านมา

ด้านนายอับดุลกอฮัร อาแวปูเตะ ประธานศูนย์ทนายความมุสลิมมูลนิธิปัตตานี ได้กล่าวว่าจากกรณีดังกล่าวเป็นคดีที่มีความสำคัญต่อการสร้างให้เกิดความโปร่งใสและตรวจสอบได้ในการควบคุมตัวบุคคลตามอำนาจกฎหมายพิเศษในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ การสืบสวนสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่ตำรวจซึ่งมีหน้าที่ทำความจริงให้ปรากฏว่า ก่อนการถูกควบคุมตัวนายอับดุลเลาะฯไปนั้นนายอับดุลเลาะมัสุจภาพแข็งแรง ไม่มีโรคประจำตัว สมาชิกในครอบครัวและสังคมต้องได้รับตอบว่า”เกิดอะไรขึ้น”กับนายอับดุลเลาะ ระหว่างถูกควบคุมตัวภายในศูนย์ซักถาม หน่วยเฉพาะกิจทหารพรานที่43 ค่ายอิงคยุทธบริหาร และหากเป็นการกระทำที่เป็นความผิดทางอาญา พนักงานสอบสวนจึงมีหน้าที่ติดตาม และหาตัวผู้กระทำความผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
โดยคดีนี้ทนายความศุนย์ทนายความมุสลิมและทนายความมูลนิธิผสานวัฒนธรรมได้รับมอบหมายให้ช่วยเหลือคดีเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมให้กับนายอับดุลเลาะและญาติต่อไปให้ถึงที่สุดทั้งคดีแพ่งและคดีอาญาทั้งนี้เพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงการบังคับใช้กฎหมายพิเศษในระดับนโยบายและกระบวนการยุติธรรมในจังหวัดชายแดนภาคใต้

พนักงานสอบสวนรับเรื่องร้องทุกข์ของญาติอับดุลเลาะอีซอมูซอ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภายหลังจากญาติพร้อมทนายความได้ยื่นหนังสือร้องทุกข์เอาผิดต่อเจ้าหน้าที่ตามความอาญากับเจ้าพนักงานสอบสวน สภ.หนองจิก จากนั้นทางพนักงานสอบสวนได้มีการประสานไปยังผู้บังคับบัญชาต่อกรณีดังกล่าวว่าจะดำเนินการต่ออย่างไร เพราะเป็นเรื่องใหม่สำหรับโรงพักในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จากนั้น พ.ต.ท.จักรกฤติ แสงจันทร์ รอง ผกก.สอบสวน สภ.หนองจิก ได้รับเรื่องร้องทุกข์จากญาติและทนายความแล้ว ซึ่งขณะนี้ทางพนักงานสอบสวนเริ่มทำการสอบสวนฝ่ายผู้เสียหาย ได้แก่นางสาวซูไมยะห์ มิงกะ ภรรยานายอับดุลเลาะ(ผู้ตาย)และญาติ โดยมีทนายเข้าร่วมรับฟัง

//////////////////////////

 688 total views,  2 views today