อุสตาซอับดุชชะกูร บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)รายงาน…
ผู้เขียนได้มีโอกาสพูดคุยกับคุณรักชาติ สุวรรณ ประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพและรองประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้เกี่ยวกับมุมมองของท่านต่อกฎหมายพิเศษที่ชายแดนใต้
ซึ่งท่านให้ทัศนะต่อเรื่องนี้ว่า “เมื่อ 12 กันยายน 2562 มีโอกาสได้ขึ้นเวทีในชื่อ ทางออกกฎหมายพิเศษชายแดนภาคใต้ ณ สนามฟุตบอลหญ้าเทียม the Fatoni Stadium ดำเนินรายการโดย คุณเอก ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ โดยมีทีมคณะทำงานพรรคอนาคตใหม่ปัตตานีเป็นผู้จัดงาน
ก่อนอื่นผมต้องขอบอกก่อนนะครับว่า ผมพูดในฐานะคนมลายูพุทธ นะครับ
ฐานงานที่ทำ คือที่ทำงานพื้นที่พี่น้องคนไทยพุทธ และในพื้นที่ที่คนไทยพุทธอาศัยอยู่ร่วมกันกับไทยมุสลิม ซึ่งเนื้อหาของงานส่วนใหญ่ วิทยากรจะพูดถึงเรื่องผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายพิเศษเป็นส่วนใหญ่
ผมเองมีโอกาสเป็นผู้ร่วมรายงาน ซึ่งก็จะพูดถึงความคิดเห็นและความรู้สึกของพี่น้องคนไทยพุทธในพื้นที่ ที่จะอย่างไร ก็ขอให้มีการบังคับใช้กฎหมายพิเศษ ไว้ก่อน ไม่ว่าจะเป็นกฎอัยการศึก หรือ พ.ร.ก (พระราชกำหนด) ต่างๆ
ซึ่งมีหลากหลายความคิดเห็นของพี่น้องคนไทยพุทธที่ผมได้สะท้อนความคิดเห็นในคืนนั้น
จะว่าไปแล้ว เสียงจากพี่น้องคนไทยพุทธในพื้นที่ซึ่งเป็นผู้ได้รับผลกระทบบางท่าน ก็อยากให้มีการปรับปรุงแก้ไขให้ดีขึ้น หรือหากบังคับใช้ ผู้ปฏิบัติก็ควรจะมีการปรับวิธีการ หรือขั้นตอนให้นุ่มนวลซักหน่อย อย่าถึงขี้นรุนแรง เพราะผู้ที่ถูกควบคุตัวยังไม่ได้ตัดสินหรือมีหลักฐานอื่นใดว่าเป็นผู้กระทำผิด
อีกประเด็นที่เป็นเสียงสะท้อนมาจากผู้ได้รับผลกระทบเช่นกัน ถ้ารัฐใช้ความรุนแรงจากการบังคับใช้กฎหมาย มันเป็นการสร้างเงื่อนไขในการพูดคุยสันติสุขในพื้นที่เช่นกัน
หรือจะมีเสียงสะท้อนในกรณีที่มีการบังคับใช้กฎหมายพิเศษ ในแง่ของการบังคับใช้กฎหมายเพื้อปกป้องประชาชนทั่วไปที่เป็นผู้บริสุทธิ์ เพราะฉนั้น จะกลัวอะไรหากเราไม่ได้เป็นคนทำผิด
หากมีเสียงให้ยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษในพื้นที่ ควรคำนึงถึงผู้ที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ความไม่สงบด้วย ใครจะเป็นผู้เรียกร้องความยุติธรรมให้กับคนเหล่านั้น หรือญาติพี่น้องของผู้ที่สูญเสีย
โดยส่วนตัวแล้วผมเองก็ยังคิดว่า กฎหมายพิเศษ ยังมีความสำคัญในพื้นที่แห่งนี้ เพียงแต่ พื้นที่ใดที่มีการใช้กฎหมายพิเศษซ้ำซ้อนกัน ก็ควรที่จะปลด หรือปรับให้เหลืออย่างใดอย่างหนึ่ง และที่สำคัญที่สุดสำหรับความเห็นส่วนตัว นั้นก็คือ กฎอัยการศึก ซึ่งใช้มาตั้งแต่ พ.ศ. 2457 ก็คงถึงวาระที่จะต้องปรับปรุงกฎหมายให้ทันสมัย อะไรที่ไม่เหมาะ ไม่สมควร ก็ควรจะแก้ไข
ผมเอง คิดว่าหลายๆ ท่านที่พยายามผลักดันให้ยกเลิกการใช้กฎหมายพิเศษ นอกจากจะฟังผู้ที่คิดว่าได้รับผลกระทบจากการบังคับใช้กฎหมายนี้ ก็ควรที่จะลองฟังแบบลงไปในพื้นที่ ที่คนอื่นๆ ยังคงมีความกังวลใจหากจะยกเลิก โดยเฉพาะพี่น้องพุทธอาศัยอยู่ ลองฟังเขาบ้างว่าเขาคิดอย่างไร เขาอาศัยอยู่กันแบบไหน ความกังวล ความระแวง ความไม่สบายใจ มีอยู่เต็มพื้นที่ของคนไทยพุทธ ที่อาศัยอยู่ ณ ปลายด้ามขวานแห่งนี้
สุดท้ายนี้ ผมเองรับฟังความคิดเห็นที่แตกต่างออกไป มากกว่าที่จะมาทะเลาะ ด่าทอ เพราะไม่ได้เกิดประโยชน์อะไรต่อการแก้ปัญหาในพื้นที่บ้านเรา
เคารพความคิดเห็นที่แตกต่าง ให้เกียรติในการแสดงความคิดเห็น แตกต่างกันได้ แต่ไม่ใช้ความรุนแรง คือทางออกของการแก้ปัญหา”
1,452 total views, 2 views today
More Stories
“ชาดา” ลงพื้นที่นราฯ ชมวิสาหกิจชุมชนแฮนอินแฮนด์รือเสาะ สร้างงานสร้างคุณภาพชีวิต 200 ครอบครัว
โฆษกพรรคประชาชาติ ยัน พรรคผลักดัน พ.ร.บ.สันติภาพ ตลอดจนการอำนวยความยุติธรรมดับไฟใต้ รัฐบาลอาจต้องมีปรับคณะพูดคุยสันติสุขใหม่ พร้อมขอโอกาสพรรคทำหน้าที่เพื่อประชาชน
พรรคประชาชาติ พบปะพี่น้องชุมชนหลังโรงเรียนจีนยะลา เปิดออฟชั่นพรรคฯมากกว่าพหุวัฒนธรรม