นางพาตีเมาะ สะดียามู รองผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส นายวีระศักดิ์ เตาะสาตู นายกสมาคมอิสลามสุไหงโกลก นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเมืองสุไหงโกลก ตัวแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง ร่วมกันแถลงงาน นิทรรศการประวัติศาสตร์ ท่านศาสดามูหมัดหมัด (ซล) ที่บริเวณลานอาคาร สมาคมอิสลามประจำอำเภอสุไหงโกลก จ.นราธิวาส (10 ม.ค.60)
ซึ่งเป็นนิทรรศการพิพิธภัณฑ์เคลื่อนที่ ศิลปะวัตถุประวัติศาสตร์อิสลามและศาสดามูฮัมหมัด (ซล.)” เป็นการจัดแสดงสิ่งของเครื่องใช้ประจำกายของศาสดามูฮำหมัด (ซล.) และบรรดาสหายที่มีอายุนานนับพันกว่าปี โดยจะจัดแสดง ณ.บริเวณลานคนเดิน สนามกีฬามหาราช เทศบาลเมืองสุไหงโกลก ในวันที่ 15 มกราคม ถึง 15 กุมภาพันธ์ 2561
นายวีระศักดิ์ เตาะสาตู นายกสมาคมอิสลามสุไหงโกลก กล่าวว่า นิทรรศการ นอกจากประชาชนจะได้ ชมชมวัตถุศิลป์สิ่งของเครื่องใช้ประจำกายของศาสดามูฮำหมัด (ซล.) และบรรดาสหายอายุนานถึงพันกว่าปีแล้ว ยังมีกิจกรรมสานเสวนา บรรยายพิเศษ ถึงเรื่องราวความยิ่งใหญ่ของโลกอิสลามในอดีตตั้งแต่จุดสูงสุดจนถึงจุดต่ำสุด การเปิดขายสิ้นค้าและอาหารการกิน ที่ฮาลาล กว่า 150 บูต ทั้งภาคกลางวันและกลางคืน ซึ่งประชานจะได้รู้ถึงคุณค่าของประวัติศาสตร์อิสลามในอดีตกาล เรื่องที่เกี่ยวข้องกับศาสดา และ และบรรดาสหายหรือ ซอบัร อีกทั้งจะสามารถเป็นแหล่งเรียนรู้ ศึกษา ค้นคว้า ความรู้ทางประวัติศาสตร์อิสลามให้กับผู้ที่สนใจทุกศาสนิกชน ในบริบทการสร้างความเป็นหนึ่งในหมู่ประชาชาติอิสลามผ่านความร่วมมือจากทุกภาคส่วน
นายกสมาคมอิสลามสุไหงโกลก ยังกล่าวอีกว่า ถึงความเป็นมาในการจัดงานนิทรรศการครั้งนี้ว่า วัตถุโบราณทางประวัติศาสตร์ หรือสิ่งของเครื่องใช้ของศาสดาและสหายนั้น เดิมทีทั้งหมดกระจัดกระจายอยู่ในหลายๆ ประเทศ อาทิเช่น ประเทศซาอุดิอาระเบีย ซีเรีย เยเมน จอร์แดน อีหร่าน อียิปต์ ปากีสถาน และมาเลเซีย และในอดีตจุฬาราชมนตรีประเทศจอร์แดน ฯพณฯ อามีน มูฮำหมัด ซัลเล็ม มันชะห์ ที่สืบเชื้อสายมาจากทางศาสดา ได้ทำการรวบรวมเพื่อทำการตรวจสอบทางวิชาการ และได้ทำสนธิสัญญา (MOU) กับหอศิลป์ฮัสซานัลโบลเกียห์ (Gallery Hassanal Bolkiah) แห่งประเทศบรูไน ที่อยู่ภายใต้การดูแลของสมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาละห์ (Sultan Haji Hassanal Bolkiah Muizzadin waddaulah) โดยมีวิสัยทัศน์เป็นศูนย์รวมวิจัยประวัติศาสตร์อิสลามในปี ค.ศ. 2020
หนึ่งในที่ปรึกษาหอศิลป์ฮัสซานัลโบลเกียห์ คือ ศ.ดร.อับดุลมานาน อิมบง นักวิจัยด้านประวัติศาสตร์อิสลาม ชาวตรังกานู ประเทศมาเลเซีย เจ้าของหอศิลป์วารีซันมาร์ (Gallery Warisan MAR) แห่งประเทศมาเลเซีย ได้ทำสนธิสัญญาร่วมกับหอศิลป์แห่งชาติบรูไนดังที่กล่าวมาข้างต้นเพื่อร่วมทำการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ (Enternal achcology) ตรวจสอบว่าสิ่งของเครื่องใช้เหล่านี้เป็นของจริงหรือไม่ มีความเป็นมาอย่างไร รวมทั้งพิสูจน์ถึงเรื่องทามไลน์ทางประวัติศาสตร์ถึงช่วงเวลาต่างๆ ด้วย
หลังจากนั้น ศ.ดร.อับดุลมานาน ได้ทำเรื่องขอนำสิ่งของเครื่องใช้ทางประวัติศาสตร์เหล่านี้มาจัดแสดงนิทรรศการที่รัฐมะละกา ตรังกานู กลันตัน เคดาห์ สลังงอร์ และ ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี นาจิบ ราซัก ก็ได้นำไปจัดแสดงที่ปุตราจายา กัวลาลัมเปอร์ เมืองหลวงของประเทศมาเลเซียอีกด้วย ซึ่งสิ่งของลำค่าเหล่านี้ แค่ผ้าสไบ ประจำตัว ท่านนบีมูหมัด เพียงชิ้นเดียว มีราคาสูงถึง 10,000 บาท และประเมินค่าเป็นเงินไม่ได้ในยุคปัจจุบัน กับสิ่งลำค่าดังกล่าว
ด้านนางพาตีเมาะ สะดียามู รอง ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า งานนิทรรศการ ประวัติศาสตร์ จัดนิทรรศการ วัตถุศิลป์เครื่องใช้ประจำตัวศาสดาอิสลาม ที่จะเกิดขึ้นในพื้นที่ สุไหงโกลกในครั้งนี้ จะเป็นบักทึกประวัติศาสตร์ ของคนในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก และจังหวัดนราธิวาส ในฐานะเป็นเจ้าภาพ จัดงาน ซึ่งเป็นไปได้อยากยิ่ง ที่ศิลปะ เครื่องแต่งการ ล้ำค่า ที่ประเมินเป็นเงินไม่ได้ จะได้แสดงให้ประชาชนได้เห็น ซึ่งไม่ต้องเดินทางไปถึงต่างประเทศ แต่จะได้สัมผัส ในพื้นที่ อ.สุไหงโกลก จ.นราธิวาสชายแดนภาคใต้ ที่มาอาณาเขต ติดต่อกับประเทศมาเลเซีย และเป็นพื้นที่ ที่เป็นไปตามนโยบายรัฐบาล เลือกจัดเป็นพื้นที่เศรษฐกิจพิเศษ สามเหลี่ยมมั่นคง มั่งคั่งและยั่งยืน สอดคล้องกับการพัฒนาและความเข้าใจ ในทุกมิติ เพื่อสร้างให้พื้นที่เกิดความมั่นคงอย่างยั่งยืน ฉะนั้น นิทรรศการประวัติศาสตร์ บักทึก นับกว่า 1000 ปี จะมีประโยชน์ต่อ ชาวไทยมุสลิม และชาวไทยพุทธ หรือศาสนิกอื่นๆ ที่จะดูชมและเรียนรู้ ความจริงในประวัติศาสตร์ และเชื่อว่า จะได้รับความสนใจจากประชาชน ในพื้นที่ จังหวัดใกล้เคียง ร่วมถึง ประชาชนชาวมาเลเซีย จำนวนมาก จะเดินทางมาดูนิทรรศการ ทางประวัติศาสตร์ในครั้งนี้ โดยวางเป้าหมาย ผู้ชมประมาณ 3 แสนคน ในระยะเวลา 20 วัน ที่จัดงาน
ขณะที่นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีสุไหงโกลก เปิดเผยว่า ในการเตรียมความพร้อม ในฐานะเป็นเจ้าบ้าน ทางเทศบาลได้เตรียมความพร้อมในทุกๆด้าน ๆ เพื่อบริการประชาชนทุกสารทิศ ที่จะมาเที่ยวชมนิทรรศการ ทางประวัติศาสตร์อิสลาม ซึ่งได้ประสาน และบูรณาการทุกหน่วยในพื้นที่ ทั้งฝ่ายปกครอง ตำรวจ ทหาร เพื่ออำนวยความสะดวก และรักษาความปลอดภัยให้กับประชาชนทุกคน ซึ่งสถานที่จัดงาน มีความกว้าง และสามารถรองรับผู้ชมได้นับแสนคน จึงไม่มีปัญหาในเรื่องของอาคารสถานที่ ในบริเวณจัดงาน จึงของเชิญชวนประชาชนทุกท่าน ทุกศาสนิกทุกคน ร่วมชมงานในครั้งนี้ เพราะนี้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ ที่เกิดขึ้นในพื้นที่ จ.นราธิวาส “สิ่งลำค่า สิ่งสูงส่ง เหล่านี้ จะถือเป็นพลังที่จะเกื้อหนุน เพื่อให้พื้นที่เกิดความสันติสุขในอนาคตได้”
ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติม ว่า งานนิทรรศการ ประวัติศาสตร์ วัตถุศิลป์เครื่องใช้ประจำตัวศาสดาอิสลาม ท่านนบี มูหัมหมัด ที่จะจัดให้ประชาชนได้ชมในครั้งนี้ เปิดบัตรเข้าชม เพียง 60 -100 บาท ราคาเด็กและผู้ใหญ่ หากเปรียบเทียบการจัดแสดงในต่างประเทศ คนละประมาณ 80 ดอลลาร์ ประมาณ 2,000 บาทต่อคน
สำหรับศาสดามูฮำหมัด หรือนบีมูฮำหมัด คือ ศาสดาที่ 25 เป็นองค์สุดท้ายในศาสนาอิสลาม นามว่า “มูฮำหมัด” แปลว่า “ผู้ได้รับการสรรเสริญ” เกิดที่นครมักกะฮ์ แห่งประเทศซาอุดีอาระเบียในปี ค.ศ.570 เป็นผู้เผยแพร่ศาสนาอิสลาม ตามบัญชาโองการของพระเจ้า อัลลอฺฮ มาเผยแพร่ศาสนาอิสลาม ให้กับมนุษยชาติ เป็นบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ของโลกคนหนึ่ง ที่ขนานนามเลื่องลือมาถึงปัจจุบัน แม้เวลาจะผ่านไปกว่าพันกว่าปี เป็นบุคคลที่คนในยุคสมัยเคารพรักในความประเสริฐหลายด้านๆ โดยเฉพาะบุคคลที่มีความยุติธรรม มีวาจาสัจจะและซื่อสัตย์จนได้ฉายานามว่า “อัลอามีน” แปลว่า “ผู้ที่มีความซื่อสัตย์”
รพี/ บรรณาธิการรายงาน
1,218 total views, 4 views today
More Stories
การยางยะลาเพิ่มทักษะการกรีดยางอย่างถูกวิธี ให้กับเกษตรกรชาวสวนยาง ในการแข่งขันกรีดยางชิงแชมป์อำเภอเบตง
I SEE THE FUTURE อบจ.ปัตตานี มอบแว่นสายตาแด่น้อง แก้ปัญหาด้านสายตา สู่การพัฒนาด้านการศึกษาเพื่อคุณภาพชีวิตที่ดี
HARD เชื่อมสัมพันธ์ ไทย – มาเลย์ ช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ ร่วมจัดการแผนความร่วมมือด้านการศึกษา