อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)…
ด้วยพระนามของอัลลอฮ์ ผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญเป็นกรรมสิทธิ์ของพระองค์ผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีแด่ผู้อ่านทุกคน
(17 กรกฎาคม 2562 เวลา 17.00 น.) นพ.สุภัทร ฮาสุวรรณกิจได้กล่าวขอขอบคุณผู้สนับสนุน”แคมเปญ 170″ สำหรับการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยโซลาร์เซลล์ขนาด 52 กิโลวัตต์ของโรงพยาบาลจะนะ โดยท่านกล่าวว่า “ขอขอบคุณผู้สนับสนุนพลังงานสะอาดทุกท่านครับ วันนี้ 17 กรกฎาคม 2562 เวลา 16.14 น. ทางโรงพยาบาลจะนะได้ up ยอดบริจาค “แคมเปญ170” ยอดทะลุจาก”เป้าหมายที่ 1,700,000 บาท ไปถึง 2,193,066.32 บาท สำเร็จผลอย่างมหัศจรรย์ใน 5 วัน
“แคมเปญ 170” สำหรับการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยโซลาร์เซลล์ขนาด 52 กิโลวัตต์ของโรงพยาบาลจะนะ สามารถระดมทุนจนบรรลุเป้าหมายแล้ว ทางโรงพยาบาลจะนะจึงขอยุติการแคมเปญเชิญชวนบริจาคครั้งนี้
ทั้งนี้แม้จะหยุดการแคมเปญ ก็ย่อมจะยังมีผู้มีจิตศรัทธาที่ไม่รู้ก็อาจจะยังบริจาคต่อเนื่องอยู่ หรือบางคนที่มีจิตศรัทธายิ่งก็ยังบริจาคกันอยู่ อย่างไรก็ตามเพราะบัญชีมูลนิธิโรงพยาบาลจะนะก็ไม่ได้ปิดบัญชีลงไปด้วย จึงยังสามารถรับเงินบริจาคที่โอนมาได้
เงินบริจาค 1.7 ล้านบาทนั้น โรงพยาบาลจะนะจะดำเนินการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าขนาด 52 กิิโลวัตต์ ตามเป้าหมาย และจะสามารถเริ่มเดินระบบผลิตไฟฟ้าได้ในวันที่ 1 สิงหาคม 2562 นี้อย่างแน่นอน
ในส่วนของเงินบริจาคที่โอนมาเกินเป้าหมายนั้น เพื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของผู้บริจาค ทางมูลนิธิโรงพยาบาลจะนะ จะนำเงินบริจาคที่ได้ไปติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยโซลาร์เซลล์ให้กับ รพ.สต.ในพื้นที่จะนะตามยอดบริจาคที่เหลือ ติดตั้งขนาด 3 กิโลวัตต์ แห่งละราว 110,000 บาท ให้ได้จำนวนแห่งจนครบตามจำนวนเงินที่บริจาคเกินเป้ามา ซึ่งเบื้องต้นนี้จะสามารถติดตั้งเพิ่มได้ 4-5 แห่ง
ทางโรงพยาบาลจะนะ ต้องขอขอบคุณผู้บริจาคทุกท่าน รวมทั้งเจ้าหน้าที่โรงพยาบาล สสอ. รพ.สต.ในอำเภอจะนะ และเพื่อนผองกองเชียร์และแฟนคลับจำนวนมากที่ร่วมด้วยช่วยกันอย่างเต็มกำลังตลอดหลายวันที่ผ่านมา ที่ช่วยเปลี่ยนแสงอาทิตย์จากฟากฟ้า มาเป็นแสงแห่งความดีงามส่องสว่างในการดูแลผู้ป้วยโรงพยาบาลจะนะอย่างอบอุ่นจนสำเร็จ
ขอปิด “แคมเปญ 170” ที่สามารถระดมทุนจนสำเร็จได้อย่างน่ามหัศจรรย์ใน 5 วันครับ
ผู้เขียนได้สัมภาษณ์หมอสุภัทรในประเด็นนี้ดังนี้
คำถาม ทำไมถึงติดโซลาร์เซลล์
ค่าไฟฟ้าโรงพยาบาลทุกแห่งมีแต่เพิ่ม ไม่มีลด โรงพยาบาลจะนะก็เช่นกัน ค่าไฟเดือนละร่วมสามแสนบาท ปีละสามล้านเศษ หากจะลดค่าไฟต้องปิดแอร์ ต้องลดการใช้ไฟฟ้า ซึ่งเป็นไปได้ยาก วิธีที่ดีที่สุดจึงมาอยู่ที่การติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อผลิตไฟฟ้าไว้ใช้เองครับ โรงพยาบาลจะนะได้ลงทุนไป 760,000 บาทเมื่อปีครึ่งที่ผ่านมาติดจั้งระบบโซลาร์เซลล์ 20 กิโลวัตต์ เราเรียนรู้จากการติดจั้ง การใช้งานจริง จนมั่นใจ นำความรู้ออกเผยแพร่ และวันนี้เราก็คิดว่าถึงเวลาที่จะติดตั้งให้เต็มหลังคาอาคารผู้ป่วยในที่ยังมีที่ว่างอีก 3 ใน 5 ส่วน จึงระเลดมทุนเพื่อการติดตั้งโซลาร์เซลล์อีก 136 แผ่นๆละ 385 วัตต์ คิดเป็นกำลังการผลิต 52 กิโลวัตต์ครับ
คำถาม อะไรคือความท้าทาย
ตอบ ความท้าทายสำหรับโรงพยาบาลจะนะคือ การที่จะสามารถขยายรูปธรรมชักชวนให้โรงพยาบาลต่างนั้นติดโซลาร์เซลล์ด้วย ส่วนใหญ่ในเชิงหลักการและวิธีคิดนั้นทุกโรงพยาบาลเห็นด้วย แต่ส่วนใหญ่ยังรองบประมาณสนับสนุนจากรัฐบาลหรือจากกองทุนอนุรักษ์พลังงาน ของบไปแล้วส่วนใหญ่ก็ไม่ได้ ซึ่งก็ไม่แปลกเพราะงบมีจำกัด
การที่โรงพยาบาลระดมเงินบริจาคในครั้งนี้ ก็เพื่อสร้างตัวแบบให้เห็นว่า แท้จริงช่องทางการขอรับบริจาคเงินมาร่วมสร้างโรงพยาบาลแสงอาทิตย์นั้นทำได้ไม่ยาก เพราะเป็นเรื่องที่เป็นประโยชน์กับคนไข้ งบประมาณที่มีน้อยจะได้เอาไปซื้อยาซื้อเครื่องมือแพทย์ ดีกว่าเอามาจ่ายเป็นค่าไฟฟ้า หากการระดมเงินบริจาคครั้งนี้สำเร็จ จะเป็นตัวอย่างให้กับหลายๆโรงพยาบาลหรือโรงเรียนว่า ลงมือเองเถอะครับ ไม่ต้องรองบหลวงที่ไม่รู้จะได้เมื่อไหร่ ปัญหาโลกร้อนไม่รอเรา ภาวะเงินค่ารักษาพยาบาลมีจำกัดก็มาเยี่ยมเยือนทุกปี การระดมทุนมาติดจั้งระบบผลิตไฟฟ้าด้วยโซลาร์เซลล์จึงเป็นคำตอบครับ
คำถาม ทำไมถึงอยากให้คนทุกคนมส่วนร่วม
ตอบ สำหรับผมและทีมงานในโรงพยาบาลจะนะ เราคุยกันว่า เราอาจขอเงินบริจาคจากบริษัทใหญ่แหล่งละหมื่นสองหมื่นก็พอจะได้ แต่คิดไปคิดมาแล้ว เราขอเพียง 170 บาทดีกว่า สิ่งที่ได้คือได้ความร่วมมือของเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลและ รพ.สต.ในจะนะที่ภารกิจสร้างกระแสส่งต่อข่าวนี้บอกไปยังเพื่อนฝูง แล้วข่าวการขอรับบริจาคเพียง 170 บาทก็ค่อยๆกระจายออกไป จำนวนเงินไม่มาก แต่สร้างการมีส่วนร่วมได้มาก ผมเองก็คิว่า คนที่บริจาคเขาก็รู้สึกไม่เป็นภาระ และเขายังได้ร่วมสร้างความเปลี่ยนแปลงให้กับประเทศชาติ ในการส่งเสริมรณรงค์การสร้างพลังงานไฟฟ้าด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ที่สะอาด ผมคิดว่า ที่สำคัญคือ คนที่มีส่วนร่วมในการบริจาคเขาจะเข้าใจคามสำคัญของการร่วมกันลดโลกร้อน ลดการใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล และมีส่วนร่วมในการสร้างบุญให้กับการดูแลผู้ป่วยของโรงพยาบาลด้วย
หลังจากนี้ผู้เขียนในฐานะผู้บริหารโรงเรียนจริยธรรมศึกษามูลนิธิ อำเภอจะนะ จะลองเชิญชวนบรรดาผู้บริหารโรงเรียนในเครือข่ายโดยเริ่ม 30 โรงเรียนในจะนะก่อนโดยให้หมอสุภัทรมาร่วมถอดบทเรียนและแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับบรรดาผู้บริหารซึ่งคาดว่า จะจัดที่ห้องประชุมโรงพยาบาล จะนะ ต้นเดือนกันยายนนี้ ใครสนใจติดต่อผ่านผมได้ไม่ว่าโทรศัพท์-ไลน์ 089-7359279 และ Inbox https://www.facebook.com/shukur.dina
892 total views, 6 views today
More Stories
SEC ภาคใต้กับSEA สงขลา-ปัตตานี
สู่พรบ.สันติภาพ เพื่อประกันกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้
ฮัจญ์ไทยในภารกิจทูตสันติภาพใน 3 ภารกิจ จชต.