สมาพันธ์ครูใต้ วอน ครม.และ รมต.ศึกษาคนใหม่ แก้ปัญหาครูชายแดนใต้ ยันปัญหาความมั่นคง ยาขนานแท้ คือ การศึกษา

อับดุลฮาดี เจ๊ะยอ   รายงาน…(รพี  มามะ บรรณาธิการข่าว)

16 ก.ค. 62 ที่ห้องประชุมโรงเรียนเมืองปัตตานี อ.เมือง จ.ปัตตานี นายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้ร่วมประชุมหารือหาแนวทางในการแก้ไขปัญหาครูในพื้นที่ จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อนำเสนอให้กับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ ที่จะเข้ามากำกับดูแลครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยทางสมาพันธ์ฯยังคงยึดมั่นในการดูแลครู และบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบ ให้ได้มีชีวิตที่ดี และมีกำลังใจในการสอนเยาวชนในพื้นที่ให้เติบโต้เป็นคนดี โดยในที่ประชุมอยากจะฝากไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ ช่วยมาดูแลในเรื่องของสวัสดิภาพ และสวัสดิการ ต่าง ๆ ที่ทางสมาพันธ์ได้เรียกร้องมาโดยตลอด ไม่ว่าจะเป็น เงินชดเชยเยียวยารายละ 4 ล้านบาท การบรรจุทายาท ของครูที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นเรื่องที่ทางสมาพันธ์ต่อสู้และรียกร้องมาโดยตลอด ซึ่งการประชุมในครั้งนี้มี ครูในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้และ4 อำเภอของสงขลาเข้าร่วมประชุม
ด้านนายบุญสม ทองศรีพราย ประธานสมาพันธ์ครู 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า อยากจะฝาก ครม.และ รัฐมนตรี ว่าการกระทรวงศึกษาธิการคนใหม่ คือ ท่านณัฐพล ทิพสุวรรณ ตนในฐานะตัวแทนครูจังหวัดชายแดนภาคใต้ทุกคน อยากจะบอกว่าคนที่มาดำรงตำแหน่ง สำคัญของกระทรวงศึกษาธิการ ต้องรับรู้และเข้าใจถึงบริบทของ คำว่าจังหวัดชายแดนภาคใต้ สิ่งแรกที่อยากจะบอกก็คือว่า เราอยู่กันอย่างไรความหลากหลายของพหุวัฒนธรรม ความหลากหลายทางประเพณีศาสนา แต่ไม่ใช่ข้อจำกัด เราแตกต่างแต่ไม่ได้แตกแยก เพราะฉะนั้นท่านต้องเข้าใจว่าครูที่นี่และบุคลากร รอคอยความหวังจากท่าน รอคอยสิ่งที่ท่านกำลังจะมาสานต่อเรื่องแรกก็คือ เรื่องของสวัสดิภาพครู ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าสถานการณ์กับครูค่อนข้างจะดีขึ้น แต่สถานการณ์รอบกายรอบข้างก็ยังมีอยู่อย่างประปราย เพราะฉะนั้นรัฐมนตรีต้องกำชับต้องประสานงานให้หน่วยงานทางด้านความมั่นคงฝ่ายปกครอง และก็ชุมชนได้เข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้ต่อไป อย่างมั่นคงและก็ถาวร มีอะไรรัฐมนตรีจะลงพื้นที่มารับฟังข้อมูลจากคน ในพื้นที่บ้าง จะได้รับรู้ สิ่งที่ครูใต้ต้องการคืออะไร นี่คือสวัสดิภาพ ที่เราอยากจะให้เป็น ประกันที่ 2 เรื่องสวัสดิการซึ่งมีหลายข้อ ที่ประสบความสำเร็จที่ได้ กำลังใจเกิดครู ไม่มีครูคนใดอยากจะเอาชีวิตไปสังเวย แล้วแลกกับสิ่งที่ได้มา แต่เมื่อสถานการณ์เป็นอย่างนี้ ครูชายแดนจังหวัดภาคใต้ก็ ไม่เคยย่อท้อทำงาน เพื่อการศึกษา ในท่ามกลางความยากลำบาก ในสิ่งที่ยังเป็นปัญหาอยู่

เช่นเรื่องการบรรจุทายาท ฝากเรื่องดนตรีให้ช่วยดูแลให้ทุกกระทรวง รับทายาทที่เป็นผลกระทบ ที่มีความประสงค์อยากบรรจุเป็นข้าราชการ ให้มีสิทธิ์เป็นข้าราชการตามระเบียบของสำนักนายกปี 50 ประการที่สองฝากท่านรัฐมนตรีช่วยดูแลการพิจารณาการเลื่อนขั้น กรณีพิเศษให้ทั่วถึง เป็นธรรมและก็ชัดเจน ประกันที่ 3 อยากจะฝากท่านในเรื่องของ การรักษาพยาบาล ให้ดูแลทายาทที่ไม่มีสิทธิ์ หลังจากสูญเสียคนที่มีสิทธิ์ ในการรักษาพยาบาล ให้เขามีสิทธิ์เพื่อได้ดูแลชีวิตต่อ ประการที่ 4 เรื่องที่กำลังดำเนินการอยู่ก็ฝากให้รัฐมนตรี ช่วยสานต่อก็คือเรื่อง ชดเชยเยียวยารายละ 4 ล้านบาท ซึ่งเรื่องทั้งหมดอยู่ที่สำนัก ปลัด กระทรวงศึกษาธิการ และข้อสุดท้ายที่อยากฝากท่านรัฐมนตรีก็คือเรื่อง ของวิทยฐานะ ให้คงไว้ซึ่งวอ 10 เชิงประจักษ์ ที่นี้ข้อมูลอื่นๆ ในฐานะเป็นคนใต้ เห็นความเติบโต ทั้งดี ทั้งมีปัญหา และอุปสรรค ว่าการศึกษาชายแดนภาคใต้ ควรจะเดินอย่างไร ก็ขอเสนอท่านเป็นข้อๆดังนี้

ข้อที่ 1 การศึกษาจังหวัดชายแดนภาคใต้เป็นการศึกษาพิเศษเพราะ เราเป็นเขตพิเศษ พัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ การศึกษาจะต้องเป็นการศึกษาแบบกระจายอำนาจ ไม่รวบอำนาจไม่รวบงบประมาณไว้ ควรกระจายไปยังโรงเรียนไปยังชุมชน ไปยังหน่วยงานทางการศึกษา ให้เขามีโอกาสได้ปฏิบัติกิจกรรมตามหน้าที่ที่เขาได้รับมอบหมาย ประกันที่ 2 หน่วยงานทางการศึกษาหรือหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาทั้งหมด ควรจะมีบทบาทเป็นของตัวเอง ที่ชัดเจน ในส่วนรวมของกระทรวงศึกษาธิการ ที่มีอยู่ ควรจะทำหน้าที่แค่กำหนดยุทธศาสตร์ และก็ประสานงานควบคุมกำกับ กระจายอำนาจกระจายงานกระจายงบประมาณไปยังกลุ่มการศึกษาทั้งหมด ประกันต่อไปที่จะฝากรัฐมนตรีก็คือว่า ให้ชุมชนผู้นำศาสนา ผู้นำผู้ปกครองครู และนักเรียน ได้มีสิทธิ์มีเสียงในการนำเสนอข้อมูล ในการพัฒนาการศึกษา เพราะเขาจะบอกท่านได้ว่าเขาต้องการอะไร ไม่ใช่มาบอกเขาโดยที่เขาไม่รับรู้ และปฏิเสธในสิ่งที่รัฐมนตรีต้องการสั่ง เขาเรียกว่าการมีส่วนร่วมในเชิงความคิด และอยากจะฝากอีกว่าโครงการใด ที่มองว่า ไม่ใช่แก้ปัญหาแต่สร้างปัญหา อันนี้ควรจะทบทวน ไอ้มุ่งเน้นว่าโครงการที่ลงมาพื้นที่จะต้อง ไปสู่บริบทในภาพรวมของ นักเรียนทุกคน ตามกลุ่มเป้าหมายไม่เฉพาะ กระจุกอยู่ในกิจกรรมบางตัวซึ่ง ซึ่งมันไม่ได้แก้ปัญหาเลยแต่กลับสร้างปัญหาด้วยซ้ำ ให้กับผู้บริหารและคุณครู สุดท้ายอยากให้ท่านรัฐมนตรีเปิดเวที เปิดโอกาสให้องค์กรเครือข่าย สมาพันธ์ครูหรือใคร ก็ตามได้มีปากมีเสียง นำเสนอข้อมูลเพื่อ เป็นการยกระดับความคิดนำ ไปสู่การปฏิรูป การศึกษาต่อไปในอนาคต เชื่อผมเถอะครับว่าปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ต้องแก้ปัญหาด้วยการศึกษาเท่านั้น และจะนำไปสู่เป้าหมายที่ชัดเจน

////////////////////////////////////////////

 1,389 total views,  6 views today