สุไลมาน ยุ รายงาน…

(6 มีนาคม 2562) นายกิตติรัตน์ ณ.ระนอง อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยพล.ต.ต.พิเชรษฐ์ กาซอ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย นายมูหาหมัดรอซากี เจ๊ะอูเซ็ง ผู้สมัคร สส.เขต 4 หมายเลข 8 จังหวัดนราธิวาส พรรคเพื่อไทย ได้ลงพื้นที่หาเสียง จุดแรกในพื้นที่ตลาดเทศบาลตำบลรือเสาะ ตลาดนัดบ้านสะโลว์ บูเก๊ะยือแร ต.รือเสาะออก เพื่อเดินหาเสียงให้กับลูกพรรคในเขต 4 จังหวัดนราธิวาส พรรคเพื่อไทย โดยนายกิตติรัตน์ ณ.รอระนอง ได้เข้าไปทักทายพูดคุยกับประชาชน ในรอบริเวณดังกล่าวอย่างเป็นกัน ซึ่งได้รับการตอบรับจากประชาชน เป็นอย่างดี เพราะกันนี้ผู้สมัคร ส.ส.เขตพื้นที่และทีมงาน ได้ร่วมกันแจกนามบัตรแนะนำตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคเพื่อไทย พร้อมแผ่นพับชี้แจงนโยบายพรรคเพื่อไทย ให้กับประชาชนอยู่บริเวณตลาดนัด พ่อค้าแม่ค้า และชาวบ้านที่สัญจรไปมา เพื่อชวนเชิญชาวประชาชนใช้สิทธิ์ใช้เสียง ในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่จะมาถึง

ทั้งนี้พลพรรคพรรคเพื่อไทย ได้ขอโอกาสกับประชาชน ให้พรรคเพื่อไทยมาบริหารประเทศนำสู่การแก้ปัญหาในทุกด้าน วันเดียวกัน นายกิตติรัตน์ และทีมงานผู้สมัคร ส.ส.เขตพื้นที่ ได้เข้าพบปะ ประชาชนที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านนาโอน อ.รือเสาะ ซึ่งเป็นหมู่บ้านพหุวัฒนธรรม ที่มีชาวไทยพุทธ มุสลิม อยู่ร่วมกัน เพื่อสร้างความเข้าในเรื่องนโยบายของพรรคเพื่อไทย ร่วมสร้างประเทศไทย ให้เศรษฐกิจดี มีอนาคตอีกครั้ง ตามแผน 6 ยุทธศาสตร์ คือ 1.ไทยทำ 2.ไทยทันสมัย 3.ไทยเท่าเทียม 4.ไทยเชื่อมไทย 5.ไทยเชื่อมโลก และ 6.ไทยยั่งยืน

โดยก่อนที่นายกิตติรัตน์ ณ.ระนอง จะนำทีมงานพรรคเพื่อไทย ลงหาเสียงในพื้นที อ.ยี่งอ และบาเจาะ จ.นราธิวาส นายกิตติรัตน์ ได้ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าวว่า จากการลงพื้นที่ ทั้ง 2 วัน จังหวัดนราธิวาส เพื่อช่วยผู้สมัคร ส.ส.เขตพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ได้พูดคุยกับประชาชน ซึ่งประชาชนได้สะท้อนปัญหาในยุค ที่มีรัฐบาล คสช.5 ปี ทำให้ราคายางตกต่ำเหลือ 3 กิโลกรัม 100 บาท ราคาปาล์ม กิโลกรัมละ 2 บาท เป็นราคาที่ขาดทุนและไม่สามารถที่จะเลี้ยงดูตัวเองและครอบครัว ร่วมถึงพืชเศรษฐกิจอื่น ที่ย่ำแย่ ประชาชนยังเชื่อมั่นในพรรคเพื่อไทย ที่แสดงนโยบายที่ชัดเจน และมั่นใจว่าทำได้จริง เพราะเชื่อว่าพรรคเพื่อไทยทำสำเร็จมาแล้ว

นอกจากนี้ นายกิตติรัตน์ ยังกล่าวถึง ฝ่ายรัฐบาล ที่บริหารโดย คสช. และสภานิติบัญญัติแห่งชาติ หลายฝ่ายรวมถึงนักวิชาการได้ท้วงติงว่า ทำไม่ต้องเร่งรีบออกกฏหมายในเวลาที่จะมีการเลือกตั้ง ตลอดจนการผลัดดันออกกฎหมายวิธีพิเศษ ซึ่งทุกท่านล้วนเป็นผู้ทรงเกียรติ และผู้ทรงคุณวุฒิ ไม่ควรจะเร่งรีบพิจารณาออกกฎหมายอย่างเร่งรีบ ที่มีการพิจารณาจากคนมีอำนาจไม่กี่คน เว้นแต่มีความจำเป็นจริงๆ ควรหยุดและชะลอการออกฎหมาย หรือ พรบ.ไว้ก่อน จนกว่าจะมีรัฐบาลใหม่ มาจาการเลือกตั้งที่จะมีขึ้น ในเร็ววันนี้ เพื่อให้ผู้ที่ได้รับเลือกจากประชาชน ที่มีสภาจากหลากอาชีพได้ทำหน้าที่กลั่นกรองกฎหมาย ให้เกิดความเป็นธรรมต่อไป
/////////////////////////
1,821 total views, 4 views today

More Stories
จุฬาราชมนตรี-กอ.อิสลามฯ เปิดแบบสำรวจข้อมูลศพผู้สูญหายมุสลิม อำนวยความสะดวกจัดการ “มัยยิต” เหยื่ออุทกภัยภาคใต้ปี 2568
บทวิเคราะห์ หลัง “อัยการสั่งฟ้องคดี ม.116 “5 นักกิจกรรม-นศ. ปัตตานี” กรณีเสวนาสิทธิในการกำหนดอนาคตตัวเอง-กิจกรรมประชามติจำลอง
“ทวี” ย้ำสู้ต่อ! ลุยนำ “ประชาชาติ” ป้องกันแชมป์ชายแดนใต้ สยบข่าวลือซบ “เพื่อไทย”