บุหงา รายา SPM รายงาน..
ณ. โรงเรียนนาทวีวิทยาคม อำเภอนาทวี จังหวัดสงขลา นายอดินันท์ ปากบารา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีเปิดโครงการรินน้ำใจสู่น้องชาวใต้ ประจำปี 2562 เพื่อเสริมสร้างศักยภาพ ยกระดับการศึกษาให้แก่นักเรียนในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ในจังหวัดสงขลา 5 อำเภอ ได้แก่
อำเภอนาทวี อำเภอสะบ้าย้อย อำเภอจะนะ อำเภอเทพา และอำเภอสะเดา ให้ได้รับโอกาสในการเรียนต่อในระดับอุดมศึกษาและสถาบันอื่นเพิ่มขึ้น ซึ่งจัดระหว่างวันที่ 14 – 19 มกราคม 2562 โดยมีนายสุธี บุญญะถิติ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต 16 กล่าวรายงานวัตถุประสงค์การจัดโครงการ พร้อมด้วย นายอำเภอนาทวี ผู้บริหารสถานศึกษา คณะวิทยากรจากโรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี (ศูนย์วิทยากร) คณะครู และนักเรียน เข้าร่วมในพิธีเปิดโครงการ
นายอดินันท์ ปากบารา ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า โครงการรินน้ำใจสู่น้องชาวใต้ ประจำปีงบประมาณ 2562 เป็นโครงการที่เกิดจากความห่วงใยของผู้ใหญ่จากกระทรวงศึกษาธิการ และสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีต่อเยาวชนที่อยู่ในเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจชายแดนใต้ ซึ่งได้รับผลกระทบอันเกิดจากเหตุการณ์ความไม่สงบในพื้น 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา ทำให้เยาวชนต้องเสียโอกาสที่จะพัฒนาประสิทธิภาพของการเรียนรู้ไปในระดับหนึ่ง ซึ่งอาจจะกระทบต่อเป้าหมายชีวิตในอนาคตของเยาวชนทุกคนได้ ซึ่งเยาวชนถือเป็นทรัพยากรของชาติที่มีความสำคัญที่จะต้องได้รับการพัฒนาให้เป็นผู้ใหญ่ที่มีประสิทธิภาพเป็นกำลังที่สำคัญของชาติบ้านเมืองต่อไป และเพื่อให้สอดคล้องตามแผนยุทธศาสตร์การศึกษาเขตพัฒนาเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต้ 20 ปี (พ.ศ.2560 – 2579)
ในยุทธศาสตร์ที่ 4 คือการสร้างโอกาสความเสมอภาคและเท่าเทียมกันทางการศึกษา โดยดำเนินการจัดการเรียนการสอนเสริม เตรียมความพร้อมที่จะเข้าศึกษาต่อในอุดมศึกษาและระดับที่สูงขึ้นในด้านวิชาการ และส่งเสริมสนับสนุน สร้างความเข้มแข็งให้กับครูในพื้นที่ให้สามารถพัฒนาการจัดการเรียนการสอนให้มีประสิทธิภาพได้อย่างยั่งยืน
สำหรับโครงการรินน้ำใจสู่น้องชาวใต้ ในจังหวัดสงขลา ได้จัดศูนย์สำหรับดำเนินการใน 4 โรงเรียน คือ โรงเรียนนาทวีวิทยาคม ,โรงเรียนจะนะชนูปถัมภ์ ,โรงเรียนเทพา และโรงเรียนสะเดา“ขรรค์ชัยกัมพลานนท์อนุสรณ์” โดยจัดการสอนเสริมหรือติวเข้ม ใน 5 วิชาหลัก ได้แก่ วิชาภาษาไทย, วิชาภาษาอังกฤษ, วิชาวิทยาศาสตร์, วิชาสังคมศึกษา และวิชาคณิตศาสตร์ นอกจากนี้ ยังได้รับความอนุเคราะห์บุคลากรผู้มีความรู้ความสามารถในการเสริมความรู้พิเศษด้านต่างๆให้แก่นักเรียนเพิ่มเติม อาทิ ด้านการแนะแนวการศึกษาต่อและอาชีพ ,ด้านทักษะการกีฬาฟุตบอล ,ด้านทักษะกีฬาไทย และด้านทักษะการบังคับหุ่นยนต์อีกด้วย
///////////////////////////////////////////////////////
ข่าววันที่ (14 มกราคม 2562)
962 total views, 4 views today
More Stories
มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา จับมือ IIUM มาเลเซีย ลงนามบันทึกความเข้าใจ MOU ด้านวิชาการ วิจัยแลกเปลี่ยนอาจารย์และนักศึกษา
ม.อ. เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมเครือข่ายมหาวิทยาลัย IMT-GT (UNINET) ครั้งที่ 4
1 พฤษจิกายน จะนะเปิดเรียนเเต่ออนไลน์และบทเรียนจากภูเก็ต