
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 14 ธ.ค. 61 พ.ต.อ.นพดล รักชาติ ผกก.ตม.จว.นราธิวาส พ.ต.อ.สัญญา เนียมประดิษฐ์ ผกก.3 กก.3 บก.ทท.3 พ.ต.อ.ศุภกร พึ่งรศ ผกก.สภ.สุไหงโก-ลก ได้ร่วมสนธิตามนโยบายของ พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผบช.สตม. สั่งการให้ พ.ต.ท.พูลศักดิ์ แก้วสีขาว รอง ผกก.ตม.จว.นราธิวาส นำกำลังเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่าย ภายใต้การนำของ ร.ต.อ.ศรายุทธ ดำแป้น รอง สว.ตม.จว.นราธิวาส ทำการตรวจสอบบุคคลต้องสงสัย จำนวน 9 คน ตามแหล่งข่าวได้รายงานให้รับทราบ ซึ่งมีท่าทางพิรุธขณะอาศัยอยู่ที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.สุไหงโก-ลก ถ.เอเซีย 18 ต.สุไหงโก-ลก อ.สุไหงโก-ลก เพื่อเตรียมเดินทางโดยรถยนต์ประจำทางปรับอากาศไปยังพื้นที่กรุงเทพมหานคร
เมื่อเจ้าหน้าที่ถึงเป้าหมายจึงได้แสดงตัวเพื่อขอตรวจค้น พบว่า ทั้ง 9 คน มีสัญชาติอินเดีย และ 1 ใน 9 ไม่มีหนังสือเดินทาง เจ้าหน้าที่จึงได้ควบคุมตัวไปทำการสอบสวนเบื้องต้น ณ ที่ทำการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดนราธิวาส และจากการขอดูหนังสือเดินทาง พบว่า 8 ใน 9 คน ไม่ได้มีการประทับตราหนังสือเดินทางเข้ามายังประเทศไทย ส่วนอีก 1 คน คือ นายซันเจ ดัส อ่ยุ 23 ปี ไม่มีหนังสือเดินทางแต่อย่างใด


จากการสอบถามเจ้าหน้าที่ทราบว่า บุคคลทั้ง 9 คน ได้เดินทางไปทำงานที่เป็นช่างฟิต อยู่ที่อู่ซ่อมรถยนต์ในพื้นที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ต่อมานายจ้างไม่ยอมจ่ายค่าแรงเป็นเวลา 2 เดือน ทั้ง 9 คน จึงได้ตัดสินใจพากันลักลอบเดินทางเข้าประเทศไทย ทางช่องทางข้ามธรรมชาติในพื้นที่ อ.สุไหงโก-ลก แล้วได้ว่าจ้างรถจักรยานยนต์รับจ้าง ไปส่งที่สถานีขนส่งผู้โดยสาร อ.สุไหงโก-ลก เพื่อที่จะเดินทางไปทำงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และจากการตรวจสอบประวัติบุคคลทั้ง 9 ไม่พบประวัติการก่ออาชญากรรม และเป็นผู้ไม่มีประวัติต้องห้ามเข้าประเทศไทยแต่อย่างใด เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีแก่ นายซันเจ ดัส เป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่วนอีก 8 คน แจ้งดำเนินคดีในข้อหา เดินทางเข้ามาหรือออกไปนอกราชอาณาจักร โดยไม่ผ่านการตรวจอนุญาตของเจ้าหน้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมือง และในข้อหาเป็นคนต่างด้าวเดินทางเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต
ด้าน พ.ต.อ.นพดล รักชาติ ผกก.ตม.จว.นราธิวาส เปิดเผยว่า การจับกุมในครั้งนี้ตนได้รับแจ้งจากสายลับว่ามีกลุ่มชาวอินเดีย ได้ลักลอบเดินทางเข้าตามช่องทางธรรมชาติ จึงไปตรวจสอบที่ขนส่งก็เจออินเดียกลุ่มนี้ทั้ง9 คน เมื่อตรวจสอบพบว่าได้เดินทางมาไม่ถูกต้อง จากการสอบปากคำปรากฏว่า อินเดียกลุ่มนี้ได้เดินทางเข้ามาประเทศมาเลเซียระยะหนึ่ง จนการอาศัยอยู่ในประเทศมาเลเซียได้หมดลง ก็เลยลักลอบเข้ามาประเทศไทย เพื่อเดินทางไปทำงานในพื้นที่กรุงเทพมหานคร

///////////////////////////
อัสวรรค์ สะมะแอ รายงาน
1,071 total views, 2 views today

More Stories
จุฬาราชมนตรี-กอ.อิสลามฯ เปิดแบบสำรวจข้อมูลศพผู้สูญหายมุสลิม อำนวยความสะดวกจัดการ “มัยยิต” เหยื่ออุทกภัยภาคใต้ปี 2568
เจ้าหน้าที่สำนักจัดการทรัพยากรป่าไม้ที่ 13 ตรวจสอบการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าสงวนแห่งชาติ ในพื้นที่ อ.สะบ้าย้อย จ.สงขลา 2 จุด
ปฏิบัติการรวบเครือข่ายค้ายาเสพติดรายสำคัญ ยึดยาบ้ากว่า 1 ล้านเม็ด พร้อมของกลางอื่น เตรียมขยายผลผู้ร่วมขบวนการ