(27 พฤศจิกายน 2561) ที่ คณะอัลกุรอานและอัสสุนนะฮฺ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี DYMM Tuanku Syed Sirajuddin Ibni Almarhum Tuanku Syed Pura Jamalullail (สมเด็จพระราชาธิบดีตวนกู รายา รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย) พร้อมคณะ ในการเสด็จเยือนประเทศไทย พร้อมเป็นองค์ประธานในพิธีเปิดอาคารคณะอัลกุรอานและอัสสุนนะฮฺ (หลักสูตรนานาชาติ) ของมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อเปิดการเรียนการสอนในหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอัลกุรอานและอัสสุนนะฮฺ หรือ Bachelor of Arts Program in Al-Quran and Al-Sunnah ( International Program) โดยได้เน้นให้ผู้ที่ศึกษาในหลักสูตรดังกล่าว มีการพัฒนาในเชิงรุกด้านอัลกุรอานและอัสสุนนะฮฺ ที่มุ่งเน้นการเพิ่มศักยภาพในการผลิตและพัฒนาบัณฑิตที่มี คุณภาพ คุณธรรม และเข้าใจในด้านอัลกุรอานเชิงรุกมากยิ่งขึ้น พร้อมจัดการเรียนรู้ที่สามารถนำความรู้ไปปฏิบัติและประยุกต์ใช้ได้อย่างถูกต้อง
ในการเสด็จมาเยือนครั้งนี้ มี นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี นายกิจจา ศรีเจริญ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. (กระทรวงแรงงาน) รองศาสตราจารย์ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียา อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนี หัวหน้าส่วนราชการ คณาจารย์ และนักศึกษามหาวิทยาลัยฟาฏอนี ได้เข้าร่วมรับเสด็จ โดยนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผวจ.ปัตตานี และนายกิจจา ศรีเจริญ ผู้ช่วยเลขาธิการ ศอ.บต. ได้กล่าวแสดงความยินดีต่อการจัดตั้งคณะอัลกุรอานและอัสสุนนะฮฺ ในครั้งนี้ว่า ขอแสดงความยินดีกับมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ที่ได้เปิดคณะอัลกุรอานและอัสสุนนะฮฺ ซึ่งเป็นคณะที่ทรงคุณค่าแก่เยาวชน รวมถึงประชาชนในพื้นที่ ที่จะได้เรียนรู้ถึงอัลกุรอานอย่างเต็มที่ เพราะอัลกุรอาน คือ พระดำรัสของอัลลอฮฺที่ทรงประทานแก่ท่านนบีมูฮัมหมัด เพื่อเป็นทางนำสำหรับมนุษย์ไปสู่การมีชีวิตที่มีความสงบสุขในโลกนี้และโลกหน้า
สำหรับ คณะอัลกุรอานและอัสสุนนะฮฺ (หลักสูตรนานาชาติ) ของมหาวิทยาลัยฟาฏอนี ได้รับการสนับสนุนจากคณะกรรมการอิสลามประจำรัฐเปอร์ลิส และสำนักงานวัฒนธรรมมลายู รัฐเปอร์ลิส ประเทศมาเลเซีย โดยใช้งบประมาณ 20 ล้านบาท ซึ่งได้เริ่มการก่อสร้างเมื่อเดือน มีนาคม 2560 ใช้ระยะเวลาทั้งสิ้น 20 เดือน โดยเริ่มเปิดการเรียนการสอนวันแรกเมื่อวันที่ 11 พฤศจิกายน 2561 ที่ผ่านมา มีนักศึกษาที่สนใจและสมัครเรียนหลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต สาขาวิชาอัลกุรอานและอัสสุนนะฮฺ รุ่นที่ 1 จำนวน 42 คน โดยแบ่งเป็นนักศึกษาจากประเทศกัมพูชา จำนวน 3 คน, จีน 1 คน, เมียนมา 1 คน อินโดนีเซีย 1 คน และนักศึกษาจากประเทศไทย จำนวน 36 คน
ทั้งนี้ มหาวิทยาลัยฟาฏอนี เป็นสถาบันอุดมศึกษาเอกชนอิสลามแห่งแรกในประเทศไทย ที่ได้รับการสถาปนาขึ้น โดยนักวิชาการมุสลิมและผู้ทรงคุณวุฒิด้านอิสลามศึกษาในภูมิภาค ซึ่งมีเจตนารมณ์อันแน่วแน่ในการส่งเสริมและพัฒนาด้านอิสลามศึกษาและศาสตร์แขนงอื่นๆ ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพตามมาตรฐานสากล เพื่อตอบสนองความต้องการของสังคม และความคาดหวังในการมีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาภูมิภาค นอกจากนี้เพื่อตอบสนองความต้องการกำลังคนระดับปัญญาชนของท้องถิ่นและประเทศที่กำลังพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว ตลอดจนให้สอดคล้องกับความเปลี่ยนแปลงของโลกยุคโลกาภิวัฒน์ รวมทั้งเป็นการสนองตอบนโยบายของรัฐ ตามแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติอีกด้วย
/////////////////////////
ทีมข่าว SPMCnews รายงาน
1,218 total views, 15 views today
More Stories
เลขาฯ รมต.ยุติธรรม ชี้ มหกรรมแก้หนี้ ปลดหนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้สิน 242 ล้าน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ วิทยาลัยการอาชีพเบตง
เทศบาลเมืองปัตตานีจัดกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี