(25 มิถุนายน 2561) เวลา 13.30 น. ที่ห้องศรีนิลัม หอประชุมศูนย์ปฏิบัติการอำเภอเมืองปัตตานี อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี พลตรี จตุพร กลัมพสุต ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี แถลงข่าวชี้แจงกรณีเจ้าหน้าที่ 3 ฝ่ายเข้าทำการตรวจค้นที่พักอาศัยของ นางโซรยา จามจุรี นักวิชาการสังกัดมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ วิทยาเขตปัตตานี เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2561 ที่ผ่านมาว่า หน่วยเฉพาะกิจปัตตานีขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขออภัยต่อผู้ได้รับผลกระทบดังกล่าวและขอชี้แจงข้อเท็จจริงให้ทราบดังนี้
การดำเนินการดังกล่าวสืบเนื่องมาจาก กรณีที่เจ้าหน้าที่ได้มีการจับกุมวัตถุระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 40 ลูก และอุปกรณ์ในการจุดระเบิดจำนวนมากในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 22 มิถุนายน 2561 หน่วยเฉพาะกิจปัตตานีได้สั่งให้หน่วยในพื้นที่ ยกระดับการเฝ้าระวัง การก่อเหตุร้ายในพื้นที่อย่างเข้มงวด โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอเมืองปัตตานี ซึ่งอยู่ระหว่าง การจัดงานกาชาด ที่จำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังเป็นพิเศษเพิ่มมากขึ้น หน่วยรับผิดชอบในพื้นที่ ซึ่งประกอบด้วย หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25, ศูนย์ปฏิบัติการอำเภอเมืองปัตตานี และสถานีตำรวจภูธรเมืองปัตตานี ได้ร่วมกันตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัยว่าจะเป็นแหล่งซุกซ่อนของคนร้ายและอุปกรณ์การก่อเหตุร้ายในพื้นที่ ต้องสงสัยทุกแห่ง เพื่อทำลายความพยายามในการก่อเหตุ เพราะหากไม่ดำเนินการในการสกัดกั้นทำลายความพยายามในการก่อเหตุร้ายดังกล่าว คนร้ายอาจจะก่อเหตุได้ ซึ่งจะส่งผลกระทบ ต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนอย่างร้ายแรงได้ ประกอบกับก่อนหน้านี้เมื่อ 20 พฤษภาคม 2561 ได้มีคนร้ายที่ก่อเหตุระเบิดตู้เบิกเงินสดของธนาคารหลายแห่งในอำเภอเมืองปัตตานี จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดพบว่าคนร้ายส่วนหนึ่งหลบหนีเข้ามาหลบซ่อนในบริเวณชุมชนดังกล่าวเจ้าหน้าที่จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังในบริเวณชุมชนดังกล่าว แต่ไม่สามารถระบุได้ว่าเป็นที่พักอาศัยของบุคคลใดที่ชัดเจน จึงมีความจำเป็น จะต้องทำการตรวจค้นบ้านเรือนหลายแห่ง ซึ่งในการเข้าตรวจค้นตรวจสอบเป็นการใช้อำนาจตาม พรบ.กฎอัยการศึก พ.ศ.2457 โดยเจ้าหน้าที่ฝ่ายทหารของหน่วยเฉพาะกิจปัตตานี 25 เป็นหน่วยหลัก เจ้าหน้าที่ตำรวจและฝ่ายปกครอง เป็นหน่วยร่วมดำเนินการ มิได้ดำเนินการโดยใช้อำนาจตาม พรบ.บริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินแต่อย่างใด
การดำเนินการของเจ้าหน้าที่ดังกล่าวเป็นการดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตาม พรบ.กฎอัยการศึก ซึ่งเป็นอำนาจโดยชอบและมีเหตุผลความจำเป็นที่จะต้องระงับยับยั้ง และป้องกันเหตุร้ายที่อาจจะเกิดขึ้นโดยเร่งด่วน จึงมีเหตุผลความจำเป็นดังที่กล่าว ทั้งนี้กรณีเจ้าหน้าที่อาจจะมิได้ดำเนินการตามข้อสั่งการในคู่มือสำหรับผู้ปฏิบัติงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า อย่างเหมาะสม และเพียงพอต่อเหตุอันควรหรือไม่ หน่วยเฉพาะกิจปัตตานี จะได้จัดให้มีคณะกรรมการสอบสวน เพื่อให้ความเป็นธรรมกับผู้ได้รับผลกระทบและย้ำเตือนการปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ให้ถูกต้องเหมาะสมต่อไป
SPMCnews รายงาน
916 total views, 4 views today
More Stories
เลขาฯ รมต.ยุติธรรม ชี้ มหกรรมแก้หนี้ ปลดหนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้สิน 242 ล้าน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ วิทยาลัยการอาชีพเบตง
เทศบาลเมืองปัตตานีจัดกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี