ผบช.ภ.9แถลงข่าว จับมือฆ่าโหด2 แม่ลูกก่อนนำทำแผนประกอบคำรับสารภาพ ระบุ ผู้ต้องหาโหดผิดมนุษย์ อาจต้องจำคุกตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 9 พ.ย. 60 ที่ห้องศูนย์ปฏิบัติการ สภ.ระแงะ จ.นราธิวาส พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 พล.ต.ต.มนัส ศิกษมัติ ผบก.ภ.จว.นราธิวาส นายสังคม เกิดก่อ นายอำเภอระแงะ พ.ต.อ.สุรพงษ์ ชาติสุทธิ์ ผกก.สภ.ระแงะ พ.อ.อิศรา จันทะกระยอม ผบ.กรมทหารพรานที่ 45 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ได้เบิกตัวนายฮาซัน เจ๊ะฮะ 30 ปี อยู่บ้านเลขที่ 55/2 ม.2 ต.บาโงสะโต อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นผู้ต้องหาสังหารโหดนางบิสมี สุหลง 27 ปี และ ด.ญ.นัสริน มามะ 5 ขวบ อยู่บ้านเลขที่ 182/1 ม.12 ต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จ.นราธิวาส เสียชีวิต แล้วนำศพมาทิ้งที่สะพานบ้านกาหนั้วะ ม.5ต.กาลิซา อ.ระแงะ และพลเมืองดีได้มาพบศพเมื่อเวลา 13.30 น. ของวันที่ 4 พ.ย. 60 ที่ผ่านมา
และจากการสืบสวนสอบสวนของ พ.ต.ท.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล รอง ผกก.สส.สภ.ระแงะ จนทราบข้อเท็จจริงและจำนนด้วยหลักฐาน จากภาพวงจรปิด ที่บันทึกพฤติกรรมของนายฮาซัน ไว้ได้ขณะขี่รถ จยย.พ่วงข้าง ตามจุดตรวจต่างๆที่ผ่านไปยังจุดเกิดเหตุและบ้านพักของนายฮาซัน จนยอมให้การรับสารภาพว่าก่อเหตุสังหารโหด 2 แม่ลูกจริง ซึ่งในระหว่างการแถลงข่าว ได้มีนางเจ๊ะมีเนาะ มามะ อายุ 64 ปี ซึ่งเป็นมารดาของนางบิสมี เข้าร่วมรับฟังด้วย พร้อมชื่นชมเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สามารถจับกุมคนร้ายที่สังหารโหด 2 แม่ลูกได้ภายในเวลา 3 วัน
ซึ่งก่อนจบการแถลงข่าว พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ได้มีการมอบเงินเพื่อเป็นขวัญกำลังต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจ รวมทั้งมอบเงินปลอบขวัญให้กำลังใจแก่นางเจ๊ะมีเนาะ ซึ่งเป็นมารดาของ น.ส.บิสมี ในครั้งนี้ด้วย
ต่อมา พ.ต.ท.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล รอง ผกก.สภ.ระแงะ และเจ้าหน้าที่ตำรวจทหารจำนวนหนึ่ง ได้นำตัวนายฮาซัน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ โดยจุดแรก เป็นบ้านของนายแมเร๊าะ เจ๊ะฮะ เลขที่53 ม.3 ต.เฉลิม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นบิดาของนายฮาซัน โดยนายฮาซัน อาศัยช่วงจังหวะที่บิดาและเครือญาติไม่อยู่บ้าน ได้ชักชวน นางบิสมีและด.ญ.นัสริน หลังพบกันโดยบังเอิญแบบที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน ไปอาศัยอยู่บ้านของบิดานายฮาซัน ซึ่งในระหว่างนั้นนางบิสมี มีปัญหาทางบ้านจึงได้หนีออกมาจากบ้าน นางบิสมี จึงตกลงปลงใจขี่รถ จยย.ยี่ห้อยามาฮ่า ฟีโน่ ทะเบียน 1กก 4312 นราธิวาส ตามนายฮาซัน ซึ่งขี่รถ จยย.พ่วงข้าง มายังบ้านของบิดานายฮาซัน และในช่วงเวลา ประมาณ 01.00 น.ของวันที่ 4 พ.ย. 60 นายฮาซัน เกิดอารมณ์ทางเพศจึงได้ชวนนางบิสมีหลับนอน แต่นางบิสมีขัดขืน นายฮาซัน จึงได้เดินไปที่ห้องครัวหยิบหัวแก๊ส มาทุบตีที่ศรีษะนางบิสมี เมื่อถูกทีบตีนางบิสมี ร้องเสียงดัง นายฮาซัน จึงได้ลุกเดินไปหยิบมีดที่ตั้งอยู่บนโต๊ะทีวี นำมาแทงคอและลำตัวนางบิสมี จนเสียชีวิต ในระหว่างนั้น ด.ญ.นัสริน ซึ่งนอนหลับข้างนางบิสมี ตื่นพบเห็นเหตุที่เกิดขึ้น นายฮาซัน จึงตัดสินใจใช้มีดเล่มดังกล่าวแทง ด.ญ.นัสริน จนเสียชีวิต จากนั้นนายฮาซัน จึงได้แยกศพ 2 แม่ลูกขึ้นรถ จยย.พ่วงข้าง
ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้นำตัวนายฮาซัน ไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพจุดที่ 2 ซึ่งเป็นจุดที่นายฮาซัน นำศพ 2 แม่ลูกไปทิ้งที่ใต้สะพานบ้านกาหนั้วะ ม.5 ต.กาลิซา อ.ระแงะ ซึ่งเมื่อนายฮาซัน นำศพ2แม่ลูกไปถึงจุดเกิดเหตุ นายฮาซัน ได้ยกศพนางบิสมี ข้ามราวสะพานโยนทิ้งลงไปใต้สะพาน และตามด้วยศพ ด.ญ.นัสริน และเมื่อทิ้งศพ 2 แม่ลูกแล้ว นายฮาซัน ได้เดินทางกลับไปบ้านบิดา เพื่อเช็ดคราบเลือดและทำความสะอาดห้องให้เป็นไปตามปกติ ก่อนที่จะนำรถ จยย.ของนางบิสมี บรรทุกรถ จยย.พ่วงข้าง นำไปซ่อนไว้ที่บ้านของภรรยา เลขที่ 27/4 ม.3 ต.กะลุวอ อ.เมือง จ.นราธิวาส และในระหว่างทางนายฮาซัน ได้นำหลักฐานที่ก่อเหตุโยนทิ้งระหว่างทาง
ด้าน พ.ต.ท.เจฟฟรีย์ ไศลมานกุล รอง ผกก.สส.สภ.ระแงะ เปิดเผยว่า คดีดังกล่าวนี้ในช่วงแรกชั้นสอบสวน นายฮาซัน พยายามให้การโยนความผิดไปยังเพื่อนๆหลายคนที่นายฮาซัย รู้จัก แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่านายฮาซัน ให้การเท็จต่อเจ้าหน้าที่เจ้าหน้าที่จึงได้เข่น จนนายฮาซัน ให้การรับสารภาพเพียงคนเดียว เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งดำเนินคดีในข้อหา ฆ่าผู้อื่นโดยเจตนา ก่อนที่จะนำมาแถลงข่าวและทำแผนประกอบคำรับสารภาพ
พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 ได้กล่าวว่า คดีนี้เป็นคดีสะเทือนขวัญ และโหดร้ายผิดมนุษย์ เจ้าหน้าที่ได้ตั้งข้อสถานหนักเป็นการทำก่อเหตุที่ร้ายแรง อาจต้องโทษตลอดชีวิตหรือประหารชีวิต
ภาพ-ข่าว..อัสอารี /มะดารี/คนของสังคม SPMC
1,025 total views, 2 views today
More Stories
เลขาฯ รมต.ยุติธรรม ชี้ มหกรรมแก้หนี้ ปลดหนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้สิน 242 ล้าน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ วิทยาลัยการอาชีพเบตง
เทศบาลเมืองปัตตานีจัดกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี