อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ทุกท่าน

ปัตตานี – วันนี้ (16 พฤศจิกายน 2568) ในโอกาสพูดคุยเสวนาเกี่ยวกับบทบาทการศึกษาอันสำคัญยิ่งของ ท่านตวนกูรู ฮัจญี วัน ยูซุฟ อัล-บันดารี (Tuan Guru Haji Wan Yusuf al-Bandari) หรือ “บาบอโส๊ะ” แห่งปอเนาะบานา (พ.ศ. 2469–2542) ผู้รับใบอนุญาตโรงเรียนศาสนูปถัมป์ บานา จังหวัดปัตตานี คือ อุสตาส อับดุรรอเส็ต แวมูซอ ได้มอบประวัติของบาบอ (บิดา) เพื่อเผยแพร่ให้สาธารณชนรับทราบถึงคุณูปการของท่าน ซึ่งเป็นที่ยอมรับว่าท่านมีบทบาทสำคัญในการวางรากฐานทางวิชาการศาสนาแก่ผู้นำศาสนาและประชาชนในพื้นที่ชายแดนใต้ในอดีต โดยเฉพาะหนังสือภาษาอาหรับที่ท่านประพันธ์ซึ่งใช้ในการเรียนการสอนในระบบโรงเรียนสอนศาสนาในอดีต ไม่ว่าตาดีกาหรือโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม

ปูชนียบุคคลแห่งปอเนาะบานา
-
นามเต็มและถิ่นกำเนิด:
ท่านมีนามเต็มว่า ตวนฆูรู ฮัจญี วัน ยูซุฟ บิน ฮัจญี มุสตอฟา บิน ฮัจญี วัน นาวัง เกิดเมื่อปี พ.ศ. 2469 (ค.ศ. 1926) ณ ปอเนาะบานา ซึ่งปัจจุบันชื่อว่าโรงเรียนศาสนูปถัมป์ บ้านบานา อำเภอเมือง จังหวัดปัตตานี -
ครอบครัวและสายตระกูล:
- บิดา: ตวนฆูรู ฮัจญี มุสตอฟา อัล-บันดารี หรือที่รู้จักกันในนาม “ต็อกอาเยาะห์ ปา” เป็นอุละมาอ์ (นักปราชญ์) ใหญ่แห่งแผ่นดินปาตานี / ชายแดนใต้ ที่ถูกขนานนามว่า ระเบียงมักกะห์ และเป็นมุดิร (ครูใหญ่/ผู้บริหาร) ปอเนาะบานาคนที่สอง
- มารดา: ฮัจญะฮ์ ฮาวา บินติ ชัยค์ อับดุล รอชีด อัล-บันดารี เป็นบุตรีของ ชัยค์ อับดุล รอชีด อัล-บันดารี ผู้ก่อตั้งปอเนาะบานา และเป็นหลานของ ท่านตวนมีนัล อัล-ฟาฏอนี ทำให้ตวนฆูรู ฮัจญี วัน ยูซุฟ เป็นเหลนของตวนมีนัล
-
พี่น้อง:
ท่านมีพี่น้องร่วมกัน 6 คน โดยท่านเป็นคนโต

เส้นทางการศึกษา
-
การศึกษาเบื้องต้น (ปอเนาะบานา):
ท่านเริ่มการศึกษาเบื้องต้นที่ปอเนาะบานา ภายใต้การดูแลของบิดาและปู่ โดยศึกษาศาสตร์พื้นฐานทางศาสนาเป็นเวลาหลายปีจนมีความรู้ที่มั่นคง -
เดินทางสู่เมกกะห์:
- เมื่ออายุ 12 ปี ท่านได้เดินทางไปเมกกะห์ แต่ปู่ของท่านคือ ชัยค์ อับดุล รอชีด ได้ถึงแก่อนิจกรรมระหว่างทางที่ทะเลแดง
- ท่านพำนักอยู่ที่เมกกะห์เป็นเวลา 15 ปี โดยศึกษาที่ มัดราซะฮ์ ดารุล อุลูม และเข้าร่วมกลุ่มเรียน (หะละเกาะฮ์) ที่ มัสยิดิลฮะรอม
- ท่านมีครูบาอาจารย์ผู้ทรงคุณวุฒิมากมาย เช่น ปะดอแอ, ชัยค์ อับดุลกอดีร อัล-มันดีลี, ชัยค์ มุฮัมมัด ยาซีน อัล-ฟาดานี และอีกหลายท่าน รวม 19 ท่าน
-
กลับสู่ปัตตานี:
-
ท่านเดินทางกลับมาตุภูมิในปี พ.ศ. 2496 (ค.ศ. 1953) และได้ศึกษาเพิ่มเติมแบบ ตะลักกี (ตัวต่อตัว) กับอุละมาอ์ท้องถิ่นผู้มีชื่อเสียงอีกหลายท่าน เช่น ต็อก โม’โกล, ตวนฆูรู ฮัจญี อับดุล เราะห์มาน เบอติง และ ตวนฆูรู ฮัจญี อับดุลลอฮ์ เสอเมอลา
-
บทบาทและมรดก
- อาจารย์ผู้ช่วยและมุดิร (ครูใหญ่):
หลังจากกลับมา ท่านได้เป็นครูผู้ช่วยสอนที่ปอเนาะบานา และเมื่อบิดาของท่านเสียชีวิตในปี พ.ศ. 2524 (ค.ศ. 1981) ท่านได้รับแต่งตั้งเป็นมุดิรปอเนาะบานาคนที่สาม และบริหารงานจนกระทั่งวาระสุดท้ายของชีวิต - คุณูปการทางการศึกษา:
ผลงานสำคัญของท่านคือการประพันธ์ ตำราภาษาอาหรับ ที่เป็นรากฐานและถูกใช้เป็นหลักสูตรการเรียนการสอนในสถาบันการศึกษาศาสนาในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นตาดีกา หรือโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม ทำให้เกือบทุกคนที่เรียนศาสนาในระบบโรงเรียนในอดีตต้องเคยเรียนตำราของท่าน
ชีวิตครอบครัวและการจากไป
- คู่ครองและบุตร:
ท่านสมรสกับ ฮัจญะฮ์ รอมละฮ์ บินติ ฮัจญี อับดุล อาซีส และมีบุตรธิดารวม 9 คน ซึ่งบุตรชายคนหนึ่ง อุสตาสอับดุรรอเส็ต แวมูซอ เป็นผู้รับใบอนุญาตโรงเรียน และ ดร.อาฮามัดกาแม แวมูซอ ปัจจุบันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการโรงเรียน และ ดร.สุกรี แวมูซอ อดีตผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดสงขลา - อนิจกรรม:
ตวนกูรู ฮัจญี วัน ยูซุฟ อัล-บันดารี ถึงแก่อนิจกรรมเมื่อวันที่ 22 เราะมะฎอน ฮ.ศ. 1420 ตรงกับวันที่ 30 ธันวาคม พ.ศ. 2542 (ค.ศ. 1999) สิริอายุ 73 ปี ร่างของท่านถูกฝัง ณ สุสานอิสลาม มัสยิดนูรุลอิสลาม บันดา เคียงข้างสุสานของบิดา
การเปิดเผยประวัติครั้งนี้โดยบุตรชายของท่าน เป็นการย้ำเตือนให้เห็นถึงความสำคัญของปราชญ์ผู้สร้างคุณูปการอันใหญ่หลวงต่อการศึกษาศาสนาในพื้นที่ชายแดนใต้
1,032 total views, 2 views today

More Stories
บทเรียนจากมหาอุทกภัยหาดใหญ่: ควรมีพ.ร.บ. หนุน “พลังเอกชน” ทางรอดใหม่เมื่อรัฐเผชิญภาวะวิกฤต?
เงินเยียวยาศพ (มุสลิม) 2 ล้านบาท แนะ สำนักจุฬาราชมนตรีเร่งออกฟัตวาเป็นลายลักษณ์อักษร
โรงเรียนสอนศาสนา ดารุสสาลามฯ นราธิวาสยื่นมือช่วย ปอเนาะโคกยาง จะนะ หลังอุทกภัยรอบ 100 ปี จะนะ