Akram Afif ซาล่าแห่งกาตาร์กับกาตาร์เวย์ที่มาดามแป้ง “นวลพรรณ ล่ำซำ”นายกสมาคมฟุตบอลไทยคนใหม่น่าจะสามารถนำมาเป็นบทเรียนนอกจากเจแปนเวย์

แชร์เลย

Akram Afif ซาล่าแห่งกาตาร์กับกาตาร์เวย์ที่มาดามแป้ง “นวลพรรณ ล่ำซำ”นายกสมาคมฟุตบอลไทยคนใหม่น่าจะสามารถนำมาเป็นบทเรียนนอกจากเจแปนเวย์

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)

Shukur2003@yahoo.co.uk

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

Akram Afif ซาล่าแห่งกาตาร์คว้ารางวัลดาวซัลโวและนักเตะยอดเยี่ยม MVPประจำทัวร์นาเมนต์ เอเชียน คัพ 2023 ได้รับการสวมเสื้อคลุมสีดำ Bisht เหมือนกับลิโอเนล เมสซี่ ดาวดัง ทีมชาติอาร์เจนตินา ได้สวมใส่ ก่อนที่จะรับถ้วยแชมป์ ฟุตบอลโลก 2022 ความสำเร็จของเขาและทีมชาติกาตาร์ ซึ่งผู้เชี่ยวชาญด้านฟุตบอลนานาชาติสะท้อนตรงกันว่าความสำเร็จของกาตาร์ทั้งสองสมัยไม่ว่า แชมป์ 2019และปีนี้ เป็นผลผลิตของ กาตาร์เวย์ที่ทุ่มทุนงบอย่างมหาศาล ทำงานอย่างเป็นระบบมั่นคงยาวนานอย่างมืออาชีพ ในขณะที่มาดามแป้ง “นวลพรรณ ล่ำซำ”นายกสมาคมฟุตบอลไทยคนใหม่ก็น่าจะสามารถนำมาเป็นบทเรียนได้เช่นกันนอกจากเจแปนเวย์ที่กำลังจะขับเคลื่อน
#Akram Afif ซาล่าแห่งกาตาร์

Akram Afif คว้ารางวัลดาวซัลโวไปครอง หลังจากกดไป 8 ประตู จาก 7 นัดที่ลงสนามโดยเฉพาะสังหารจุดโทษแฮตทริค ชนะจอร์แดนเพื่อนประเทศอาหรับ 3-1 พาประเทศกาตาร์คว้าแชมป์ เอเชียน คัพ เป็นสมัยที่ 2 ติดต่อกันโดย กาตาร์ ถือเป็นทีมที่ 5 ที่คว้าแชมป์ เอเชียน คัพ 2 สมัยติดต่อกัน ถัดจาก เกาหลีใต้ (1956, 1960), อิหร่าน (1968, 1972), ซาอุดีอาระเบีย (1984, 1988), ญี่ปุ่น (2000, 2004)

Akram Afif สื่อไทยถือว่าเขาคือโม ซาล่าแห่งกาตาร์ด้วยลีลาและหน้าตา
Akram Afif ซาล่าแห่งกาตาร์นั้นคนไทยอ่านว่า

“อัคราม อาฟิฟ” ความเป็นจริงภาษา อาหรับ أكرم عفيف อ่านว่า อักรอม อะฟีฟ มีชื่อเต็มว่า อักรอมฮาซัน อะฟีฟ เกิดที่กรุงโดฮา ประเทศกาตาร์ อายุ 27 ปี อันเนื่องมาจากเกิดเมื่อ 17 พฤศจิกายน 1996 มีส่วนสูง 1.76 เมตร นำ้หนัก 70 กก. สถานะไม่ได้เพราะแต่งงานแล้วมีปี 2022 ปัจจุบันเล่นให้กับสโมสร อัลสัด ประเทศกาตาร์ โดยมีสถิติลงเล่นให้สโมสร 126 นัด ซัดไป 83 ประตู ในขณะที่ในนามทีมชาติกาตาร์นั้นเขาลงเล่น ไป 87 นัดซัดไป 29 ประตู

แม้เขาจะเปันนักเตะทีมชาติกาตาร์ เกิดที่กาตาร์ แต่ความเป็นจริงทั้งพ่อและเเม่ของเขาเดิมมิใช่คนที่นี่

สำหรับพ่อของเขาเป็นคนสัญชาติแทนซาเนียก่อนหน้าที่จะได้รับสัญชาติกาตาร์แต่เกิดที่ประเทศโซมาเลีย ส่วนแม่นางฟาอีซะห์เดิมเป็นชาว(อาหรับ)เยเมน

– พ่อเป็นนักฟุตบอลลงเล่นในลีกกาตาร์ ก่อนจะรับงานคุมทีมในลีกกาตาร์ จนได้รับสัญชาติกาตาร์ในที่สุด

– ในช่วงระหว่างปี 2012-15 เคยไปเล่นในสเปน กับ เซบีญ่า และบียาร์เรอัล (ชุดเยาวชน)

– เคยลงเล่นในลีกเบลเยี่ยมกับ Eupen โดยทำ 9 ประตู 4 แอสซิสต์ จาก 42 นัด

– เป็นนักเตะกาตาร์คนแรกในประวัติศาสตร์ที่เซ็นสัญญากับทีมใน ลาลีกา โดยเป็นการย้ายไปร่วมกับ บียาร์เรอัล

– เคยลงเล่นใน ลาลีกา กับ สปอร์ติ้ง กิฆอน (ยืมตัวจาก บียาร์เรอัล) โดยลงสนามทั้งหมด 9 นัดในลีก เป็นเวลา 229 นาที จบลงด้วยการทำประตู และแอสซิสต์ไม่ได้เลย

#กาตาร์เวย์อีกหนึ่งเบื้องหลังความสำเร็จของกาตาร์ตั้งแต่แชมป์ 2019 ที่มาดามแป้ง “นวลพรรณ ล่ำซำ”นายกสมาคมฟุตบอลไทยคนใหม่น่าจะสามารถนำมาเป็นบทเรียนนอกจากเจแปนเวย์

ผู้เชี่ยวชาญด้านฟุตบอลนานาชาติสะท้อนตรงกันว่าความสำเร็จของกาตาร์ทั้งสองสมัยไม่ว่า แชมป์ 2019และปีนี้ จะเรียกว่า กาตาร์เวย์ที่มาดามแป้ง “นวลพรรณ ล่ำซำ”นายกสมาคมฟุตบอลไทยคนใหม่น่าจะสามารถนำมาเป็นบทเรียนนอกจากเจแปนเวย์ หนึ่งในนั้นก็คือการตั้งสถาบัน Aspire Academy ที่ทุ่มทุนงบอย่างมหาศาล ทำงานอย่างเป็นระบบมั่นคงยาวนานอย่างมืออาชีพ ที่รัฐบาลหนุนเต็มที่ตั้งแต่ปี 2004 ภายใต้การบริหารของชัยค์ยาสซิม บิน ฮัมมาด ซึ่ง ได้งบประมาณจากกลุ่มเชื้อพระวงศ์ของประเทศและลงทุนสร้างศูนย์ฝึกที่มีมูลค่าถึง 1,300 ล้านเหรียญสหรัฐฯ (ราว 4 หมื่นล้านบาท)ซึ่งปี 2007 พวกเขายังเคยแพ้ไทยมาแล้วถึง 0-2 ในเกมอุ่นเครื่องก่อนถึงเอเชี่ยนคัพปี 2007 เรียกได้ว่าไม่มีทีมใดกลัวกาตาร์เมื่อได้เจอสถาบันการกีฬาของกาตาร์ชื่อ Aspire Academy มีเป้าหมายผลิตนักกีฬาของกาตาร์ให้มีฝีมือระดับโลกโดยเฉพาะฟุตบอลที่มุ่งเน้นที่การฝึกเด็ก เยาวชนและพัฒนาต่อยอดสู่จุดสูงสุด หากพิจารณาด้วยจำนวนประชากรเพียง 2.7 ล้านคนและกีฬามิใช่วิถีวัฒนธรรมของคนที่นี่ จึงเป็นเรื่องยากที่จะเชื่อว่ากาตาร์จะผงาดขึ้นทัดเทียมกับมหาอำนาจเอเชียเช่นญี่ปุ่น อิหร่านและเกาหลีใต้หลังจากนี้เชื่อว่าจะมีรุ่นน้องที่มีพรสวรรค์อย่างอะฟีฟอีกหลายๆคน ในทีมชาติชุด U 23 ,20, 19 ,17 เมื่อกลับไปดูจุดประสงค์การสร้างและการทำงานอย่างเป็นระบบมืออาชีพของสถาบัน Aspire Academy นั้นมีแนวทางที่ชัดเจนมาก นั่นคือการค้นหาและพัฒนาความเป็นเลิศด้านกีฬาให้กับประเทศ เงินกว่า 4 หมื่นล้านบาทถูกเปลี่ยนเป็น สนามซ้อมที่สามารถจุคนดูได้ 5,000 คนถึง 7 สนาม, สระว่ายน้ำ,ห้องประชุมและห้องเรียน อีกทั้งให้ความสำคัญจิตวิญญาณด้านศาสนาคือมัสยิดอันเป็นศูนย์รวมใจตลอดห้าเวลา ไปจนถึงศูนย์วิทยาศาสตร์การกีฬาที่ล้ำสมัยที่สุดระดับเดียวกับที่สโมสรชั้นนำของโลกอย่าง เรอัล มาดริด, แมนฯ ยูไนเต็ด และ บาเยิร์น มิวนิค มี แม้แต่นักเตะอย่าง ยาย่า ตูเร่, ดิดิเย่ร์ ดร็อกบา, นาบิล เบนทาเล็บ และ โซฟียาน บูฟาล ยังเคยมาใช้บริการเพื่อฟื้นฟูสภาพร่างกายของพวกเขามาแล้ว อุปกรณ์ที่ครบครันก็ต้องอยู่ควบคู่กับคนที่ใช้งานมันได้อย่างคุ้มค่า เงินของ กาตาร์ บวกกับการเอาจริงในการพัฒนา พวกเขาจัดการดึงเอาเหล่าผู้มีความรู้ที่เกี่ยวข้องกับกีฬาไม่ว่าเรื่องของศาสตร์และศิลป์ ทั้งเวชศาสตร์การกีฬา, แพทย์, ฟิตเนส, โค้ชมือทอง แม้ผู้นำศาสนาที่ให้กำลังใจด้านจิตวิญญาณและผู้อำนวยการศูนย์ฝึกที่ดึงเอา อิบัน บราโว่ ที่เป็นอดีตไดเร็กเตอร์ของ เรอัล มาดริด มาจัดการ แม้แต่ทีมสเก๊าท์นำโดยโจเซป โคโลเมอร์ แมวมองผูเคยนำ ลิโอเนล เมสซี่ ส่งมอบให้ บาร์เซโลน่า เพื่อช่วยมองหาเด็กๆ เข้ามาศูนย์ฝึก โดยในช่วง 7 ปีหลังก่อตั้ง สถาบันได้ ส่งสเก๊าท์ไปแต่ละประเทศโดยไม่คำนึงถึงชนชั้นทางสังคม และ เศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งประเทศโดยเฉพาะเด็กๆด้อยโอกาสที่ยากจนจากประเทศมุสลิมเช่นจากทวีปแอฟริกาหรือประเทศอาหรับที่ยากจนบางประเทศเช่นเซเนกัล แคแมรูน ไนจีเรีย กาน่า และอัลจีเรีย สำหรับการส่งสเก๊าท์ไปที่นั้นเพื่อดูการเล่นฟุตบอลผ่านสายตาพวกเขากว่า 3.5 ล้านคน นั่นคือจำนวนมากกว่าประชากรในประเทศ กาตาร์ เสียอีก จากหลักแสนหลักล้านจะถูกคัดเหลือเพียงหลักร้อย หลัก สิบ นั่นหมายความว่าเด็กๆ ในระดับหัวกะทิจะเป็นสมาชิกของพวกเขา ซึ่งแลกมากับข้อเสนออย่างงาม ด้วยการให้ที่พักฟรี, การศึกษาฟรี พร้อมมีเงินส่งให้ครอบครัวของเด็กๆ อีกประมาณ 5,000 ดอลล่าร์ต่อเดือน พวกเขาต้องการเพชรที่อยู่ในตมขึ้นมาขัดสีฉวีวรรณให้เปล่งประกาย ขอแค่มีแวว พวกเขาพร้อมออกค่าใช้จ่ายทุกอย่างเพื่อดึงตัวเยาวชนอายุ 8-19 ปี เข้ามาเป็นส่วนหนึ่งในการล่าฝันที่ยิ่งใหญ่ของทั้งประเทศ
นอกจากนี้ยังมั่นคงมุ่งมั่นใช้หรือนำปรัชญาการเล่นแบบสเปนที่แน่นอน ต่อบอลสวย รุกอย่างน่ากลัวแบบอะฟีฟ โดยใช้ผู้ฝึกสอนสเปน และผู้บริหารที่มาจาก บาร์เซโลน่า ดังนั้นจึงไม่แปลกจึงเห็นเป็นรูปธรรมของการสร้างเยาวชนของสถาบัน Aspire Academy

ดังนั้นแนวคิดกาตาร์เวย์ตามวิถี สถาบัน Aspire Academy บางประการหรือหลายประการ(แม้จะไม่ใช่ทั้งหมด)น่าจะเป็นบทเรียนในการเป็นโมเดลที่สามารถนำมาปรับใช้กับศูนย์ฝึกฟุตบอลแห่งชาติแบบครบวงจร ที่ จ.สมุทรปราการ เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2567 ที่ผ่านมา โดย “บิ๊กอ๊อด” พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง อดีตนายกสมาคมกีฬาฟุตบอลแห่งประเทศไทยฯ และต่อยอดโดยมาดามแป้ง “นวลพรรณ ล่ำซำ”นายกสมาคมฟุตบอลไทยคนใหม่
หมายเหตุเรียบเรียงจาก
1. https://www.soccersuck.com/boards/topic/2406951
2. https://thaipublica.org/2022/11/pridi329/
3. https://almontag.com/اللاعب-القطري-أكرم-عفيف-ويكيبيديا/
4. https://www.gco.gov.qa/ar/focus/sport/
5. แอสไปร์ อคาเดมี่ : ขุมพลังแห่งกาตาร์ที่คัดเด็กหัวกะทิทั่วโลกมาฝึกแบบเดียวกับ ‘เมสซี่’
จาก The Main Stand
6. https://www.aspirezone.qa/sportseducation.aspx?lang=ar
7. https://www.aljazeera.net/sport/2007/4/19/أسباير-تعلن-مشروعا-لاكتشاف-الموهوبين

หมายเหตุเครดิต ภาพจาก AFC ASAIN Cup Page และแอสไปร์ อคาเดมี่