(27 มกราคม 2565) 10.00 น. ที่ห้องประชุม 1 กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ค่ายสิรินธร ตำบลเขาตูม อำเภอยะรัง จังหวัดปัตตานี พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 จัดกิจกรรม “พบปะผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อชี้แจงนโยบาย รับฟังความคิดเห็น และข้อเสนอ ร่วมกันขับเคลื่อนการแก้ปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ให้เกิดสันติสุขอย่างยั่งยืน โดยมี พลโท อุทิศ อนันตนานนท์ แม่ทัพน้อยที่ 4 / ผู้อำนวยการสำนักอำนวยการข่าวกรอง กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, พลตรี กรกฎ ภู่โชติ รองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า, ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ (ปัตตานี ยะลา นราธิวาส สงขลา สตูล) และ ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนระดับอำเภอ 37 อำเภอ (3 จังหวัด และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา) เข้าร่วมฯ
จากนั้น แม่ทัพภาคที่ 4 และคณะฯ ได้ให้การต้อนรับ คณะจากมูลนิธิประสานงานตาดีกา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นำโดย นายอับดุลรอนิง ดิงสาแม (เจะฆูรอนิง) รองประธานมูลนิธิศูนย์ประสานงานตาดีกา 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เพื่อพบปะพูดคุยหารือสร้างการมีส่วนร่วมในแนวทางการป้องกันและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องแก่เยาวชนในพื้นที่ ตลอดจนประสานความร่วมมือขยายโอกาสทางการศึกษาทั้ง 5 จังหวัดให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน เกิดการหนุนเสริมสร้างสันติสุขในพื้นที่
พลโท ศานติ ศกุนตนาค แม่ทัพภาคที่ 4 / ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 กล่าวว่า “จากการปฎิบัติงานของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ที่ผ่านมานั้น ได้ปฏิบัติงานตามกรอบนโยบายของรัฐ โดยน้อมนำยุทธศาสตร์พระราชทาน “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” และหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแนวทางในการร่วมกันพัฒนาพื้นที่ เพื่อให้ประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น การจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการเสริมสร้างความเข้าใจถึงแนวนโยบายแห่งรัฐและลดปัญหาความไม่เข้าใจในการดำเนินงานของภาครัฐในพื้นที่ รวมถึงการสานสัมพันธ์ให้มีความแน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น นำไปสู่ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันในการที่จะแก้ไขปัญหาและพัฒนาในพื้นที่ควบคู่กันไป
ทั้งนี้ ในการร่วมกันแก้ไขปัญหาในพื้นที่นั้น หากจะให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า นอกจากจะให้ความสำคัญเรื่องการแก้ไขปัญหายาเสพติดแล้ว จะให้ความสำคัญเรื่องการศึกษาด้วยเช่นกัน เพราะการศึกษาถือเป็นรากฐานที่สำคัญของเยาวชนทุกคน อยากเห็นสถานศึกษาได้เปิดโอกาสให้เยาวชนแสดงความสามารถในการพูด และสอดแทรกวิชาการพูด การใช้ภาษาให้ถูกต้อง”
สำหรับกิจกรรม “พบปะผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้” นั้น กองอำนวยรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า จัดขึ้น เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้บริหารสถานศึกษาผู้ที่มีบทบาทสำคัญในการปลูกฝัง อบรม สั่งสอนเยาวชนของชาติ เพื่อให้น้องๆ เยาวชนเติบโตเป็นบุคลากรที่ดีของสังคมและประเทศชาติต่อไปในอนาคต ตลอดจนเพื่อให้ผู้บริหารสถานศึกษาได้รับทราบนโยบายการแก้ไขปัญหาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ของ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า เพื่อวางกรอบนโยบายด้านการศึกษาให้สามารถดำเนินการคู่ขนานกับงานด้านความมั่นคงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อีกทั้งเปิดรับฟังความคิดเห็น ปัญหา และข้อเสนอแนะ ที่ต้องการให้ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า สนับสนุนแก้ไขปัญหาจากผู้บริหารสถานศึกษา ทุกระดับ เพื่อส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน อันเป็นการขับเคลื่อนงานร่วมกันในทุกมิติ เพื่อให้เกิดความรัก ความเข้าใจ ความสามัคคีของชุมชนและสังคม อันเป็นการร่วมกันสร้างสันติสุขให้เกิดขึ้นในพื้นที่ได้อย่างยั่งยืน
แม่ทัพภาคที่ 4 ยังกล่าวอีกว่า ใกล้ถึงถึงเดือนศิลอด หรือเดือนรอมฎอนของชาวไทยมุสลิม และมุสลิมทั่วโลก ที่ชาวมุสลิมต้องถือศิลอด อีกประมาณ 1 เดือนเศษ อยากให้ทุกฝ่าย จับมือกันและคิด สร้างสภาวะแวดล้อม สร้างความสงบสุข “รอมฎอนสันติ” ไม่มีเหตุรุนแรง หรือก่อเหตุรุนแรง ในเดือนอันประเสริฐ ซึ่งเดือนรอมฎอน พี่น้องประชาชนพี่น้องประชาชน จะได้ประกอบพิธีกรรมทางศาสนา และประกอบความดีงามได้อย่างสงบสุข ปราศจากเหตุความรุนแรง จึงอยากให้ทุกฝ่าย ไม่จะเป็นภาครัฐ และประชาชน หรือผู้เห็นต่างเห็นความสำคัญ ทำให้เกิด “เดือนรอมฎอนสันติ” เพื่อประชาชนและพื้นที่ต่อไป
65,164 total views, 65 views today
More Stories
ด่วน ! INC ออกแถลงการณ์ ต่อรัฐบาล ยกเลิกใช้ พรก.ฉุกเฉิน จังหวัดชายแดนภาคใต้ หนุนพูดคุยโต๊ะเจรจาสันติภาพ (มีคลิปแถลง)
กลุ่มพลังมวลชน ผู้นำศาสนา นักเรียน นักศึกษา รวมกว่า 500 คน ”รวมพลังต่อต้านความรุนแรง” ทุกรูปแบบ หน้าแฟลตตำรวจนราธิวาสจุดเกิดเหตุบอมบ์
#35 องค์กรมุสลิมในนาม “ องค์กรเครือข่ายคัดค้านกฎหมายและระเบียบปฏิบัติที่ขัดกับหลักศีลธรรม (อคศ.)”สนับสนุน “การฟ้องเพิกถอนประกาศกัญชาเสรี”