บูรณาการปฎิบัติร่วมกันจับกุมบุหรี่เถื่อนที่ตากใบ 143,500 ซอง มูลค่ากว่า 6 ล้านบาท เตรียมขยายผลขบวนการ ตัดวงจรการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนทุกประเภท

เมื่อวันที่ 6 มีนาคม 2565  ที่ ท่าเทียบเรือบ้านเจ๊ะเห หมู่2 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส พลตรี เฉลิมพร  ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส พร้อมด้วย พันตำรวจเอก นราวี บินแวอารง ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรตากใบ และส่วนที่เกี่ยวข้อง เดินทางลงพื้นที่บูรณาการปฎิบัติร่วมกันจับกุมบุหรี่เถื่อน โดยเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2565 เวลา 21.30 น. ที่ผ่าน ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีเรือสปีดโบ๊ท ขนสิ่งผิดกฏหมายมาจอด ที่ท่าเทียบเรือ บ้านเจ๊ะเห หมู่ 2 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส หลังได้รับแจ้ง เจ้าหน้าที่ส่วนที่เกี่ยวข้อง จึงสนติกำลังเข้าตรวจสอบเป็นเรือสปีดโบ๊ท จำนวน 2 ลำ ซึ่งจอดเทียบริมตลิ่ง หลังจากการตรวจสอบภายในเรือพบ กระสอบสีเขียว โดยภายในบรรจุบุหรี่ ต่างประเทศ ยี่ห้อ U2 จำนวน 287 ลัง ซึ่งภายใน 1 ลัง บรรจุ 50 แถว (143,500 ซอง) โดยเจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการตรวจยึดของกลางดังกล่าวทั้งหมด ไว้ ณ สถานีตำรวจภูธรตากใบ เพื่อนำส่งด่านศุลกากรตากใบดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

ด้านพันตำรวจเอก นราวี บินแวอารง ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรตากใบ กล่าวว่า ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้กำหนดให้มีการระดมกวาดล้างอาชญากรรมทั่วประเทศ ประกอบกับนโยบายของ พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 และพลตำรวจโท นันทเดช ย้อยนวล ผู้บัญชาการตำรวจภาค 9 ให้มีการดำเนินการ ป้องกันและปราบปรามปัญหาภัยแทรกซ้อน สิ่งผิดกฎหมาย ในพื้นที่จังหวัดชายแดนใต้นั้น สถานีตำรวจภูธรตากใบ โดยเมื่อวันที่ 5 มีนาคม 2565 เวลา 21.30 น. ที่ผ่าน ได้รับแจ้งจากแหล่งข่าวว่ามีเรือสปีดโบ๊ท ขนสิ่งผิดกฏหมายมาจอด ที่ท่าเทียบเรือ บ้านเจ๊ะเห หมู่ 2 ตำบลเจ๊ะเห อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส จึงได้บูรณาการกำลัง 3 ฝ่าย ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส ตำรวจภูธรนราธิวาส เจ้าหน้าที่ตำรวจน้ำตากใบ ตำรวจตะเวนชายแดนที่ 447 ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ด่านศุลกากรตากใบ บังคับใช้กฎหมายเข้าตรวจสอบเรือดังกล่าว ผลจากการตรวจสอบ พบบุหรี่ต่างประเทศ ยี่ห้อ U2 จำนวน 287 ลัง โดยพันตำรวจเอก นราวี บินแวอารง ผู้กำกับสถานีตำรวจภูธรตากใบ เผยว่า คาดว่าบุหรี่ต่างประเทศ ดังกล่าว ลำเลียง ทางน้ำ ด้วยเรือสปีดโบ๊ทมาจากประเทศเวียดนาม เพื่อนำไปจำหน่ายยังประเทศที่ 3 โดยคาดว่า สถานที่พบเรือดังกล่าว ใช้เป็นจุดพัก ก่อนนำไปส่งประเทศเพื่อนบ้าน และหากนำไปจำหน่ายประเทศที่ 3 คาดว่า มูลค่าประมาณ 6,457,500 บาท โดยในขณะเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าตรวจสอบเรือสปีดโบ๊ท ทั้ง 2 ลำ ไม่ปรากฏว่ามีผู้ใดแสดงตนเป็นเจ้าของเรือ โดยเจ้าหน้าที่จึงได้ดำเนินการตรวจยึดของกลางดังกล่าวทั้งหมด นำส่งพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรตากใบ ได้ดำเนินกรรมวิธีตามกฎหมาย

ทางด้านพลตรี เฉลิมพร  ขำเขียว ผู้บัญชาการกองพลทหารราบที่ 15 / ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจนราธิวาส กล่าวว่า เป็นไปตามนโยบายของ พลเอก ณรงค์พันธ์ จิตต์แก้วแท้ ผู้บัญชาการทหารบก และ พลโทเกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4 /ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4
ซึ่งได้เน้นย้ำเรื่องการสกัดกั้นตามแนวชายแดนพยายามทำทุกวิถีทางในการเพิ่มเติมกำลังในการป้องกันชายแดนให้มากขึ้นรวมทั้งการใช้เครื่องมือยุทโธปกรณ์พิเศษในการเข้าตรวจตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อสกัดกั้นตามแนวชายแดน
ไทย – มาเลเซีย ป้องกันการลักลอบหลบหนีเข้าเมือง การกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดนทุกประเภท ป้องกันภัยแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นเพื่อตัดวงจรการกระทำผิด รวมไปถึงการลักลอบนำสิ่งผิดกฎหมายเข้ามายังประเทศไทย เป็นการการนำเครื่องมือ ยุทโธปกรณ์พิเศษ ทางทหารที่มีอยู่ ใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สินของพี่น้องประชาชนในพื้นที่ต่อไป

ทั้งนี้พี่น้องประชาชนสามารถแจ้งเบาะแสเกี่ยวข้องกับการกระทำผิดกฎหมายตามแนวชายแดน โดยสามารถแจ้งข้อมูลให้กับหน่วยทหารในพื้นที่ หรือโทรผ่านสายด่วน 191 และสายด่วนความมั่นคง 1341 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง

 10,583 total views,  2 views today