อาลีฟ มามะ รายงาน
》วันนี้ 13 พฤศจิกายน 2564
ณ วัดศรีพัฒนาราม (บ้านคล้า) ตำบลตาเซะ อำเภอเมือง จังหวัดยะลา พลโท เกรียงไกร ศรีรักษ์ แม่ทัพภาคที่ 4/ผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 เป็นประธานในพิธีทอดกฐินสามัคคี พร้อมด้วยคุณคนึงนิตย์ ศรีรักษ์ ประธานสมาคมแม่บ้านทหารบก สาขากองทัพภาคที่ 4 ซึ่งกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ส่วนราชการ และประชาชนผู้มีจิตศรัทธาในพื้นที่ร่วมกันจัดขึ้น เพื่อนำปัจจัยไปบูรณะปฏิสังขรณ์อุโบสถ อีกทั้งเป็นการสืบทอดประเพณีอันดีงามทางพระพุทธศาสนา ส่งเสริมความรักความสามัคคีของประชาชนในพื้นที่ โดยมี พระใบฎีกาธงไชย วิริโย เจ้าอาวาสวัดศรีพัฒนาราม เป็นประธานฝ่ายสงฆ์ พร้อมด้วยคณะผู้บังคับบัญชา, กำลังพล, ส่วนราชการ, พุทธศาสนิกชนในพื้นที่ และใกล้เคียงร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง โดยปัจจัยที่ได้จากบริวารกฐินครั้งนี้มียอดรวมทั้งสิ้น 1,704,435 บาท ซึ่งการทอดกฐินสามัคคีในครั้งนี้จัดขึ้นภายใต้มาตรการการป้องกันเชื้อไวรัสโควิด 19 อย่างเคร่งครัด
》โดยแม่ทัพภาคที่ 4 ได้พบปะ พูดคุยกับพุทธศาสนิกชนที่มาร่วมพิธี กล่าวว่า ” วันนี้เป็นอีกหนึ่งโอกาสดีที่ได้มาร่วมทำบุญทอดกฐินสามัคคี ซึ่งถือเป็นบุญใหญ่ของชาวพุทธ เป็นการสืบสานพระพุทธศาสนาให้คงอยู่กับชุมชน พื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อาจมีพี่น้องพุทธศาสนิกชนเป็นชนกลุ่มน้อย เราต้องอยู่กันด้วยความรัก ความสามัคคี ทุกศาสนาสอนให้คนเป็นคนดี ทุกคนต่างมีศรัทธาที่จะทำความดี การทำทาน ถือเป็นกิจหนึ่งของชาวพุทธ ทานคือการให้ และหากมีความพอเพียง มีเหลือ ก็สามารถเผื่อแผ่ไปยังพี่น้องคนอื่นที่ยากลำบากได้ ในส่วนของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า มีหน้าที่ดูแลพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ผ่านมาได้ให้หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ทำการสำรวจผู้ที่มีความยากลำบาก และเข้าทำการช่วยเหลือ เช่นโครงการ คนไทยไม่ทิ้งกัน สร้างที่พักอาศัย ช่วยเหลือดูแลให้ผู้เขาเหล่านั้นมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นทำควบคู่กับภาคเอกชน และพี่น้องประชาชน ซึ่งหากพี่น้องประชาชนในพื้นที่ใดประสบความยากลำบาก หรือความไม่ปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน สามารถแจ้งมายังหน่วยทหารในพื้นที่ หรือโทรศัพท์มาทางสายตรงแม่ทัพภาคที่ 4 โทร 061-173-2999 อย่างไรก็ตามต้องขอขอบคุณทุกส่วนที่ได้ร่วมกันสรรค์สร้างสิ่งที่เรียกว่า สภาวะแวดล้อมเพื่อทำให้จังหวัดชายแดนภาคใต้เกิดสันติสุขขึ้น ขอขอบคุณผู้นำศาสนาทั้งพุทธ และมุสลิมที่ได้ช่วยกันขับเคลื่อน และขัดเกลาให้ผู้คนเป็นคนดี เพื่อที่จะนำสันติสุขมาสู่พื้นที่อย่างยั่งยืนต่อไป”
》 ทั้งนี้วัดศรีพัฒนาราม (วัดบ้านคล้า) สังกัดคณะสงฆ์มหานิกาย มีที่ดินตั้งวัดเนื้อที่ 12 ไร่
เดิมเป็นวัดโบราณสร้างมานาน และไม่มีหลักฐานการก่อสร้างเพราะได้กลายมาเป็นวัดร้างมานาน ต่อมาประมาณ ปี พ.ศ 2470 ได้มีพระอธิการ ดำ ติสสโร มาอยู่จำพรรษา จึงได้มีการบูรณะปฎิสังขรณ์ ใหม่ เดิมมีนามว่า “ วัดบ้านคล้า” สำหรับนามวัดในปัจจุบันคือ วัดศรีพัฒนาราม เจ้าคณะจังหวัดยะลาในขณะนั้นคือ พระราชปัญญาเมธี เป็นผู้ตั้งนามวัดให้ ■■■
6,224 total views, 2 views today
More Stories
เลขาฯ รมต.ยุติธรรม ชี้ มหกรรมแก้หนี้ ปลดหนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้สิน 242 ล้าน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ วิทยาลัยการอาชีพเบตง
เทศบาลเมืองปัตตานีจัดกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี