Betong news รายงาน..
จัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 จังหวัดยะลา ส่วนหน้า ในพื้นที่อำเภอเบตงและ อำเภอธารโต ติดตามการแก้ไขปัญหาการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่อำเภอเบตง หลังพบมีผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นและเสียชีวิตแล้ว 1 ราย ขณะที่เจ้าหน้าที่สามารถคัดกรองกลุ่มเสี่ยงได้ 70 % แล้ว เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19
(30 เม.ย.64) ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเบตง จังหวัดยะลา นายวรเชษฐ พรมโอภาษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานการประชุมศูนย์บริหารสถานการณ์ โควิด-19 จังหวัดยะลา ส่วนหน้า ในพื้นที่อำเภอเบตงและอำเภอธารโต พร้อมด้วยนายพลรัช รองเลื่อน ปลัดจังหวัดยะลา นายเอก ยังอภัย ณ สงขลา นายอำเภอเบตง และคณะทำงานศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 จังหวัดยะลา ส่วนหน้า ในพื้นที่อำเภอเบตงและ อำเภอธารโต เข้าร่วมประชุม เพื่อติดตามการแก้ไขปัญหาการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในพื้นที่อำเภอเบตง หลังพบว่า อ.เบตง มีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น พบผู้ 13 ราย และเสียชีวิต 1 ราย
นายวรเชษฐ พรมโอภาษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวว่า ตามที่ได้เกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติตเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ระลอกใหม่ และมีการแพร่กระจายขยายเป็นวงกว้างไปในหลายพื้นที่ของประเทศไทยอย่างรวดเร็ว และมีรายงานยอดผู้ติดเชื้อในแต่ละวันเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในส่วนพื้นที่อำเภอเบตง จังหวัดยะลาพบว่ามีผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้น จึงจำเป็นต้องเฝ้าระวังสถานการณ์และควบคุมการแพร่ระบาตในพื้นที่รวมถึงพื้นที่ที่ติดต่อเพื่อให้การป้องกันและควบคุมการระบาตของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ในระดับพื้นที่อำเภอเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ในฐานะผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน จึงได้กำหนดจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 จังหวัดยะลา ส่วนหน้า ในพื้นที่อำเภอเบตงและ อำเภอธารโต ขึ้น เพื่อบูรณาการการปฏิบัติหน้าที่ สนับสนุน และติดตามการแก้ไขปัญหาการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ตามนโยบายศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 จังหวัดยะลา และนโยบายศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาตของโรคติตเชื้อไวรัสโคโรน 2019 (โควิด-19) (ศบค) พร้อมรายงานการปฏิบัติหน้าที่ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลาทราบทุกระยะและปฏิบัติหน้าที่อื่นๆ ตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลามอบหมาย
รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา กล่าวอีกว่า สถานการณ์แพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ อ.เบตง มีแน้วโน้มที่ดีขึ้น จากการบูรณาการของทุกฝ่าย พร้อมสร้างความเชื่อมั่นให้กับพี่น้องประชาชนในการที่จะหยุดเชื้อให้ได้ โดยมีบุคลากรทางสาธารณสุขได้ร่วมการคัดกรองเพื่อค้นหาการติดเชื้อในกลุ่มเสี่ยงจากสถานที่เสี่ยงในพื้นที่ ซึ่งตอนนี้สามารถคัดกรองได้ 70 % แล้ว ซึ่งทาง ศปก.อ.เบตง ได้เร่งค้นหาผู้ที่ติดเชื้อให้ได้มากที่สุด เพื่อหยุดยั้งการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากนั้นจะต้องเพิ่มมาตรการเข้มข้นในพื้นที่เพื่อมิให้มีการระบาดซ้ำ จากการประเมินสถานการ์หากไม่พบผู้ติดเชื้อเพิ่ม คาดว่าสามารถคลี่คลายได้ในอีกไม่กี่วัน
ส่วนมาตรการห้ามบุคคลออกจากเคหะสถาน ตั้งแต่ 22.00 – 04.00 น. เริ่มมาตรการเข้มข้น ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม เพื่อลดการแพร่ระบาดในพื้นที่จังหวัดยะลา กลับเข้าไปสู่ครัวเรือน และครอบครัว หากพบมีการกระทำผิดทางเจ้าหน้าที่มีความจำเป็นต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด และจริงจัง เพื่อภาพรวมในพื้นที่จังหวัดยะลาของเรา
จากนั้นรองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา พร้อมคณะ ได้ตรวจความพร้อมของการจัดตั้งศูนย์สังเกตอาการอย่างใกล้ชิด หรือโรงพยาบาลสนามเบตง ณ สถานีขนส่งเทศบาลเมืองเบตง ถนนมหามงคลทางเลี่ยงเมือง เพื่อรองรับผู้ป่วยกลุ่มไม่มีอาการ และอาการน้อย ซึ่งโรงพยาบาลสนามเบตงสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 70 เตียง ซึ่งขณะนี้ได้เตรียมไว้รองรับมี 25 เตียง และเตียงกระดาษรองรับอีก130 เตียง นอกจากนี้ได้ดำเนินการระบบบําบัดน้ําเสีย ระบบไฟ และกำลังติดตั้งผ้าใบกันสาด อยู่ระหว่างดําเนินการ คาดว่าจะดําเนินการเสร็จภายในสัปดาห์หน้า ส่วนอัตรากําลังที่ดูแลผู้ป่วยประกอบด้วย แพทย์ 1 คน พยาบาล 2 คน เภสัชกร 1คน คนงาน 1 คน จากโรงพยาบาลเบตง และ สสอ.เบตง มีการจัดเวร 2 เวร ต่อวัน ผลัดละ12 ชม. โดยจะมีหน่วยความมั่นคงในพื้นที่ ดูแลรักษาความปลอดภัยตลอด 24 ชม. ขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่เร่งสอบสวนโรค ค้นหาเชิงรุก เพื่อนำผู้ที่มีความเสี่ยงสูง และผู้ติดเชื้อเข้าสู่กระบวนการรักษา ที่โรงพยาบาลสนามต่อไป
4,122 total views, 2 views today
More Stories
เลขาฯ รมต.ยุติธรรม ชี้ มหกรรมแก้หนี้ ปลดหนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้สิน 242 ล้าน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ วิทยาลัยการอาชีพเบตง
เทศบาลเมืองปัตตานีจัดกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี