โครงการส่งเสริมและสนับสนุน การท่องเที่ยวในเขตพื้นที่เมืองชายแดน ในกิจกรรมส่งเสริมและประชาสัมพันธ์ การตลาดท่องเที่ยว “FAN TRIP” ไทย-มาเลเซีย โดย การท่องเที่ยวและกีฬานราธิวาส ซึงมีนายณรงค์ สังข์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส ได้นำสื่อมวลชน ภาคธุรกิจการท่องเที่ยว จากส่วนกลางและภูมิภาค ของไทย และสื่อมวลชนและภาคผู้ประกอบการธุรกิจการท่องเที่ยว จากประเทศมาเลเซีย กว่า 80 ชีวิต มาท่องเที่ยวและเยี่ยมชม สถานที่และแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์และวัฒนธรรมในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส ในระหว่างวันที่ 23-25 มีนาคม 61
ที่ห้องอาหารมันตรา เขตเทศบาลเมืองนราธิวาส นางกรรณิกา ดำรงวงศ์ ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนราธิวาส นายรพี มามะ อุปนายกบริหารสมาคมสื่อมวลชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ เจ้าหน้าที่หน่วยงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานนราธิวาส ได้ร่วมการต้อนรับคณะฯ ทั้งนี้นางกรรณิกา ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวนราธิวาส ได้สยามบรรยายสรุป การเชื่อมโยงชายแดนระหว่างไทยและ มาเลเซีย และเมืองนราธิวาส ซึ่งถือเป็นเมืองมิตรประเทศ ในยุคสยาม และ มลายู ตั้งแต่อดีตกาล ถือคน 2 ประเทศเป็นพี่น้องกัน ที่ยาวนาน วัฒนธรรม บางอย่างจึงมีความคลายคลึงกัน โดยผู้ประกอบการ ได้ส่งเสริมการท่องเที่ยวแลกเปลี่ยนนักท่องเที่ยวใน 2 ประเทศ นักท่องเที่ยวมาเลเซีย มาเที่ยวบ้านเรา และคนไทยไปเที่ยวมาเลเซีย แต่นับปี 50-61 สถานการณ์ความไม่สงบเกิดขึ้นในพื้นที่ ทำให้ผู้ประกอบการพื้นที่ได้รับผลกระทบ เช่น กรณีผู้ใช้บริการต่อเดือน จาก 80-95 เปอร์เซ็นต์ ลดลงเหลือไม่ถึง 35 เปอร์เซ็น ทำให้ผู้ประกอบการต้องเปลี่ยนวิธีคิด และปรับกลยุทธการตลาด เพื่อความอยู่รอดของภาคธุรกิจในพื้นที่ โครงการสนับสนุนการท่องเที่ยวเมืองชายแดน ของการท่องเที่ยวเที่ยวกีฬานราธิวาส จึงมีความสำคัญ ในการส่งเสริมต่อยอด และสร้างความเข้าใจ กับผู้ประกอบการท่องเที่ยว พื้นที่ภูมิภาคอื่น และสื่อมวลชน ทั้ง 2 ประเทศที่ จะเป็นกระบอกเสียง เผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เข้าถึงประชาชน ทั้งในและต่างประเทศ ในการสร้างความมั่นใจให้เกิดขึ้น เพื่อส่งเสริมการท่องเที่ยวในพื้นทีได้เป็นอย่างดี
ต่อมาคณะทางผู้ประกอบการฯ และสื่อมวลชน ไทย-และมาเลเซีย ได้เดินทางไปเยี่ยมชม พิพิธภัณฑ์เมืองนราธิวาส ตั้งอยู่ทีศาลากลางหลังเก่า ถนนระแงะ มรรคา ต.บางนาค อ.เมืองนราธิวาส เพื่อรับทราบเรื่องราวประวัติศาสตร์ เมืองมะนารอ หรือ จังหวัดนราธิวาส ในปัจจุบัน จากนั้นคณะได้ไปเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์มรดกอิสลาม ณ.ศูนย์เรียนรู้ คัมภีร์อัลกุรอานโบราณ มากที่สุดในโลก ซึ่งตั้งอยู่ ในโรงเรียนสมานมิตรวิทยา อ.ยี่งอ จ.นราธิวาส เป็นสถานที่เก็บคำภีร์อัลกุรอาน เขียนด้วยมือ ตั้งแต่อายุ 200-1000 กว่าปี ซึ่งเป็นที่มีคำภีร์อัลกุรอานโบราณ มากที่สุดในโลก และเป็นที่สนใจของโลกมุสลิม ทีหลายประเทศมุสลิมได้ทำการพิสูจน์และยอมรับ พร้อมที่จะส่งเสริมให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นมรดกโลกแห่งอิสลามที่สุดแห่งหนึ่งในโลก
นอกจากนี้คณะฯ ได้ ไปเยี่ยมชมการทำเรือกอและจำลอง ผลิตภัณฑ์กระจูด ซึ่งเป็นอาชีพชาวบ้านในพื้นที่บ้านทอน ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส นับเป็นงานฝีมือ ของคนในชุมชน ที่นำจำหน่ายสิ้นค้า ให้กับคนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว เพื่อสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง ตลอดจนได้ไปสัมผัสวิถีชีวิต ที่ตลาดน้ำยะกัง 100 ปี ในเขตเทศบาลเมืองนราธิวาส เป็นการรวมตัวของคนในชุมชน ในการทำอาหาร คาวหวาน จัดจำหน่าย ในราคาถูกและเป็นธรรม ซึ่งชุมชนยะกัง เป็นตำนาน มีชื่อเสียงในการทำขนมคาว หวาน มาหลายช่วงอายุคน กว่า 100 ปี ตลาดน้ำยะกัง เปิดตลาดในทุกวันศุกร์และเสาร์ จะมีนักท่องเที่ยว จะเห็นบรรยากาศ การจัดจ่าย ซื้อของ เพื่อรับประทานอาหาร เป็นไปอย่างคึกคักตลอดทั้งวัน
ในส่วนโปรแกรมแหล่งเที่ยว นายณรงค์ สังข์ประสิทธิ์ ผู้อำนวยการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดนราธิวาส คณะฯจะมีการไปที่ อ.สุคริน เพื่อเยี่ยมชมวีถีชีวิต หมู่บ้านชาวอีสานที่เดียวในนราธิวาส สถานที่ล่องแก่ง และการทำกิจกรรมการร่อนทอง ที่สุคริน ตลอดจน ดูแหล่งสำคัญทางวัฒนธรรม และท่องเที่ยวสำคัญๆ จนจบ FAN TRIP ซึ่งเชื่อมั่นว่า โครงการนี้ จะเกิดประโยชน์ในการส่งเสริมการท่องเที่ยว และตลาดภาคธุรกิจการท่องเที่ยวในอนาคตได้เป็นอย่างดี
ภาพ มะดารี โตะลาลา บท.รพี มามะ บรรณาธิการข่าว
1,169 total views, 6 views today
More Stories
SEC ภาคใต้กับSEA สงขลา-ปัตตานี
สู่พรบ.สันติภาพ เพื่อประกันกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้
ฮัจญ์ไทยในภารกิจทูตสันติภาพใน 3 ภารกิจ จชต.