ประเด็นร้อน!! ทั้งศาลปกครองและศาลจังหวัดนาทวี รับ “ชาวบ้าน ฟ้อง นายทุน เพื่อผดุง กฎหมายบ้านเมืองและพระเจ้า”นายกล้ามาก

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

(5 กุมภาพันธ์ 2564) ช่วงบ่าย ชาวบ้านจากอำเภอจะนะจังหวัดสงขลา 5 ราย พร้อมทนายความจากเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนภาคใต้ และนักศึกษาจากกลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม และประชาธิปไตย (Law Long Beach) ได้เดินทางไปศาลปกครองสงขลา เพื่อยื่นฟ้องเจ้าพนักงานที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาจะนะ เพื่อขอให้ศาลเพิกถอนคำสั่งสอบสวนเปรียบเทียบเพื่อออกโฉนดที่ดินให้แก่บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ซึ่งออกทับที่ดินทำกินของชาวบ้าน
กรณีนี้ สืบเนื่องมาจากการที่บริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) ได้ยื่นเรื่องขอออกโฉนดที่ดินในที่ดินซึ่งถือเอกสารสิทธิหนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3ก โดยในการเดินสำรวจเพื่อรังวัดสอบเขตที่ดินเพื่อออกโฉนดแทน น.ส.3ก ปรากฏว่าที่ดินดังกล่าวทับที่ทำกินที่ชาวบ้านครอบครองมาตั้งแต่บรรพบุรุษอยู่จำนวนหลายราย และมีชาวบ้านอย่างน้อย 5 ราย ได้คัดค้านการรังวัดออกโฉนดที่ดินดังกล่าว โดยให้เหตุผลว่าตนได้ครอบครองที่ดินดังกล่าวมาโดยตลอด บางรายถือครองต่อจากปู่มาสู่บิดาแล้วมาสู่ตน บางรายถือครองตกทอดจากผู้ครอบครองเดิมด้วยการซื้อขาย และแต่ละแปลงได้ถือครองมาก่อนปีหลายสิบปี ส่วนผู้มีชื่อในเอกสารสิทธิ น.ส.๓ก รวมทั้งบริษัท ทีพีไอฯ ไม่เคยเข้าครอบครองใช้ประโยชน์ในที่ดินที่ขอรังวัดนั้นแต่อย่างใด

อย่างไรก็ตาม เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2563 เจ้าพนักงานที่ดินได้แจ้งคำสั่งสอบสวนเปรียบเทียบในกรณีดังกล่าว โดยวินิจฉัยให้ออกโฉนดที่ดินให้แก่บริษัท ทีพีไอฯ
กลุ่มชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนจึงได้ปรึกษากับเครือข่ายจะนะรักษ์ถิ่น และทีมทนายความจากเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนภาคใต้ ซึ่งเมื่อประมาณต้นเดือนมกราคม 2564 ซึ่งจากการตรวจสอบพบว่า ที่ดินตาม น.ส.3ก เลขที่ 437 ทับที่ดินของชาวบ้าน 3 ราย ที่ดินตาม น.ส.3ก เลขที่ 438 ทับที่ดินของชาวบ้าน 5 ราย และที่ดินตาม น.ส.3ก เลขที่ 439 ทับที่ดินของชาวบ้าน 2 ราย คิดเป็นเนื้อที่ประมาณ 80 ไร่เศษ โดยมีข้อสังเกตว่า การออกเอกสารสิทธิ น.ส.3ก ข้างต้น อาศัยเพียงการเดินสำรวจเท่านั้น โดยที่ผู้มีชื่อในเอกสารสิทธิได้ซึ่งได้โอนต่อกันไปหลายทอดจนถึงบริษัททีพีไอฯนั้น ไม่เคยเข้าครอบครองทำประโยชน์ในความเป็นจริงแต่อย่างใด
ชาวบ้านซึ่งเป็นผู้ฟ้องคดีเห็นว่า ที่ดินดังกล่าวตนได้ครอบครองทำประโยชน์สืบต่อเนื่องกันมาไม่ขาดสาย การที่บริษัทฯ ไปยื่นขอรังวัดเพื่อออกโฉนดที่ดินโดยที่ไม่ได้เข้าครอบครองอยู่จริง และเจ้าพนักงานที่ดินออกคำสั่งให้ออกโฉนดที่ดินให้แก่บริษัท จึงเป็นการดำเนินกระบวนการสอบสวนเปรียบเทียบเพื่อออกคำสั่งที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ผู้ฟ้องคดีทั้งห้าจึงได้มาฟ้องคดีเพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนคำสั่งของเจ้าพนักงานที่ดินดังกล่าว
อนึ่งก่อนหน้านี้

1 ก.พ. 2564 ชาวบ้านกลุ่มนี้ พร้อมทนายความจากเครือข่ายนักกฎหมายสิทธิมนุษยชนภาคใต้ และนักศึกษาจากกลุ่มนักกฎหมายอาสาเพื่อสิทธิมนุษยชน สิ่งแวดล้อม และประชาธิปไตย (Law Long Beach) เช่นกันได้เดินทางไปยังศาลจังหวัดนาทวี เพื่อยื่นฟ้องบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กับพวก เพื่อขอให้ศาลมีคำพิพากษาเพิกถอนเอกสารสิทธิ หนังสือรับรองการทำประโยชน์ น.ส.3 ก. ออกทับที่ดินที่ทำกินมาก่อนการออกเอกสารสิทธิดังกล่าวเช่นกัน
ดังนั้นแสดงว่า พวกเขามีความกล้าหาญมากๆที่ ฟ้อง นายทุน อันส่งต่อถึงผู้มีอิทธิพลท้องถิ่น(ส่วนใหญ่ชาวบ้านรู้ว่าเป็นใคร)เพื่อผดุง กฎหมายบ้านเมืองและพระเจ้า”กฎหมายอิสลาม
สำหรับกรณีการคดโกงที่ดิน ดังกล่าว(หากเป็นความจริง)ไม่ว่าจะคดโกงในรูปแบบใดก็ตาม หลักกฎหมายอิสลามถือว่าเป็นสิ่งต้องห้าม (หะรอม) ทั้งสิ้น เช่น โกงที่ดินเขามา โกงโฉนด ย้ายหลักหิน โกงที่ดินมรดก ฯลฯ ล้วนเป็นบาปใหญ่หลวงนัก ซึ่งประเด็นนี้ท่านรสูลุลลอฮฺของเรา(ศาสนฑูต)พูดได้อย่างชัดเจนยิ่ง
ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า

وَلَعَنَ اللَّهُ مَنْ غَيَّرَ مَنَارَ الْأَرْضِ

“และพระองค์อัลลอฮฺทรงสาปแช่ง (งดความเมตตา) แก่บุคคลที่เปลี่ยนแปลง (หรือย้าย) หลักโฉนดที่ดิน” [หะดีษเศาะหี้หฺ, บันทึกโดยมุสลิม หะดีษที่ 4422]

ท่านรสูลุลลอฮฺกล่าวว่า

«مَنْ أَخَذَ شِبْرًا مِنَ الأَرْضِ ظُلْمًا، فَإِنَّهُ يُطَوَّقُهُ يَوْمَ القِيَامَةِ مِنْ سَبْعِ أَرَضِينَ»

“บุคคลใดโกงที่ดินเพียงแค่คืบเดียวในสภาพที่อธรรม (โกงคนอื่นเขามา) เช่นนี้แผ่นดินทั้งเจ็ดชั้นจะรัดคอของเขา [หมายถึงเขาต้องแบกที่ดินนั้นรวมถึงส่วนลึกของที่ดินนั้นถึงเจ็ดชั้น] ในวันแห่งการฟื้นคืนชีพ” [หะดีษเศาะหี้หฺ, บันทึกโดยบุคอรีย์ 3198 ]

หมายเหตุอ่านเพิ่มเติมใน
1. “ชาวบ้านจะนะ” ยื่นฟ้องศาลปกครอง เพิกถอนออกเอกสารสิทธิ “นิคมฯ จะนะ” ทับที่ชาวบ้าน

หลังพบที่ดินจังหวัดสงขลา สาขาจะนะ ออกคำสั่งสอบสวนเปรียบเทียบเพื่อออกโฉนดที่ดินให้ “ทีพีไอฯ” ที่ออกทับที่ดินทำกินของชาวบ้าน
.
📌 อ่านเนื้อหาทั้งหมดที่ https://theactive.net/news/20210205-5/
.

2.ศาลจังหวัดนาทวี รับฟ้องกรณี
“ชาวจะนะยื่นฟ้องบริษัท ทีพีไอ โพลีน เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) กับพวก เพิกถอนเอกสารสิทธิทับที่ทำกินในพื้นที่ อ.จะนะ จ.สงขลา มาก่อนการออกเอกสารสิทธิ ซึ่งเป็นที่ตั้งนิคมอุตสาหกรรมจะนะ”
(อ่านเพิ่มเติมใน