พฤษภาคม 5, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ปัญหาวัยรุ่น “กรณีไล่ฟัน กลางเมืองยะลา” ท่ามกลางไฟใต้

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน


จากข่าวดังเดือนปลายเดือนมกราคม ปี นี้ คือวัยรุ่นยกพวกไล่ฟันคู่อริและผู้บริสุทธิ์ กลางเมืองยะลา” กำลังเป็นปัญหาซำ้เติมปัญหาไฟใต้ตลอด 17 ปีที่และโควิดที่ทุกภาคส่วนกำลังร่วมด้วยช่วยกันในการแก้ไขปัญหา

# กรณีไล่ฟัน “กลางเมืองยะลา” กล่าวคือ
เมื่อวันที่ 27 ม.ค. 64 เวลา ประมาณ 22.20 น.
ภายใต้อำนวยการ ของ พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา พ.ต.อ.นราวี บินแวอารง ผกก.สภ.เมืองยะลา ให้ พ.ต.ท.ธัญ ศิริขันธ์ รองผกก.ป.สภ.เมืองยะลา พร้อมด้วย มว.ตชด 4102 ด่านจุดตรวจขุนไวย์ นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และเครือข่ายภาคประชาชน ออกตรวจสอบกลุ่มวัยรุ่น ที่ชอบมั่วสุม และจับกลุ่ม สร้างความเดือดร้อน ให้กับประชาชน ตามสถานที่จุดเสี่ยง ภายในเขตเทศบาลนครยะลา ตามแผนพิทักษ์ยะลา 64 ตามวันเวลาเกิดเหตุ ได้รับแจ้งจากเครือข่ายภาคประชาชน ว่ามีการรวมกลุ่ม ของกลุ่มวัยรุ่น เป็นจำนวนมาก บริเวณถนนเลียบแม่น้ำ ฝั่งจารู ตลาดเก่า

พ.ต.ท.ธัญ ศิริขันธ์ รองผกก.ป.สภ.เมืองยะลา จึงสั่งการให้ มว.ตชด 4102 ด่านตรวจขุนไวย์ เจ้าหน้าที่ตำรวจ และเครือข่ายภาคประชาชน ในระแวกใกล้เคียง ได้เข้าไปทำการตรวจสอบ เมื่อเจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าวไปถึง กลุ่มวัยรุ่นได้แยกย้ายหลบหนี ในทันที เจ้าหน้าที่ชุดดังกล่าว ได้ทำการตรวจสอบบริเวณพื้นที่จุดรวมตัว พบ สิ่งเทียมคล้ายอาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก จึงได้แจ้งให้ พ.ต.ท.ธัญ ฯ ทราบ ซึ่งในขณะนั้น ได้เดินทาง มาพร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ส่วนนึง พอดี จึงได้ทำการไล่ติดตาม กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวไปอย่างกระชั้นชิด เมื่อไปถึง บริเวณสวนมิ่งเมือง 2 ถนนเลียบบึงแบเมาะ ได้พบกับกลุ่มวัยรุ่นดังกล่าว นั่งรวมกลุ่มกัน นับได้ 27 คน พ.ต.ท.ธัญ ฯ จึงได้สนธิกำลัง เพื่อเข้าทำการตรวจสอบกลุ่มวัยรุ่น ดังกล่าว ผลการตรวจสอบ พบอาวุธมีด สปาต้า จำนวน 2 เล่ม ซุกซ่อน บริเวณม้านั่ง ซึ่งเป็นจุดที่กลุ่มวัยรุ่นดังกล่าวนั่งรวมกลุ่มกันอยู่ จากนั้นจึงได้ ทำการเชิญกลุ่มวัยรุ่น ทั้งหมด มาทำการตรวจสอบประวัติ และ ดำเนินคดีในส่วนที่เกี่ยวข้อง

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ได้จับกุมเยาวชนได้อีกใน 2 จุดด้วยกันคือ จุดที่ 1.บริเวณถนนเลียบแม่น้ำ ฝั่งจารู ตลาดเก่า ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา สิ่งเทียมอาวุธปืน จำนวน 1 กระบอก
จุดที่ 2.บริเวณสวนมิ่งเมือง 2 ถนนเลียบบึงแบเมาะ ต.สะเตง อ.เมืองยะลา จ.ยะลา อาวุธมีด สปาต้า จำนวน 2 เล่ม

เจ้าหน้าที่จึงได้นำตัวเยาวชนทั้งหมด มายังสถานีตำรวจภูธรเมืองยะลา เพื่อทำการดำเนินการตามกฏหมาย พร้อมตรวจยึด รถจักรยานยนต์ ไว้ทั้งหมด 8 คัน ได้ประสาน บิดามารดา ผู้ปกครอง เพื่อมาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป/.
#สาเหตุและทางออก
หากดูผลการศึกษาของกรมสุขภาพจิต มองต่อเรื่องนี้ว่ามาจากสาเหตุ หลายปัจจัย ดั่งที่
นายแพทย์เกียรติภูมิ วงศ์รจิต อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวว่า “จากสถานการณ์ในสังคมปัจจุบันจะเห็นได้ว่า ปัญหาพฤติกรรมความรุนแรงของวัยรุ่นที่ปรากฎเป็นข่าวทางสื่อต่างๆ มีออกมาเรื่อยๆ และมีแนวโน้ม ทวีความรุนแรงมากยิ่งขึ้น เช่น การทะเลาะวิวาทกับผู้อื่นโดยใช้กำลัง การพกพาอาวุธ การทำลายทรัพย์สิน การรวมกลุ่ม ยกพวกตีกัน การทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนถึงแก่ชีวิต ฯลฯ นำมาซึ่งปัญหาและผลกระทบทั้งต่อตนเองและผู้อื่นตามมาอีกมากมาย ซึ่งปัจจัยที่ส่งผลต่อการเกิดพฤติกรรมความรุนแรงและในเด็กและเยาวชนนั้น มักเกิดจากหลายปัจจัย ทั้งด้านสภาพแวดล้อม การเลี้ยงดู ครอบครัว เพื่อน โรงเรียน เศรษฐกิจ และสังคม ซึ่งมีทั้งที่เป็นปัจจัยเสี่ยง ปัจจัยด้านบวกหรือปัจจัยป้องกัน และผลกระทบของแต่ละปัจจัย ยังขึ้นอยู่กับจังหวะเวลาที่เกิดขึ้น ระยะเวลา และความรุนแรงด้วย “(โปรดดู https://www.thaihealth.or.th/Content/48962-4%20เทคนิค%20แก้ไขปัญหาลูกวัยรุ่น%20สลายพฤติกรรมรุนแรง.html)


ในขณะที่สำนักข่าวอิศราลงสำรวจพื้นที่เชิงลึกสะท่อนว่า “ความอยุติธรรม ความขัดแย้งพุทธ-มุสลิมจากปัญหาไฟใต้มีส่วนไม่น้อยที่ทำให้ปัญหานี้บานปลาย”(อ่านข่าวเชิงลึกเรื่องนี้ใน https://www.isranews.org/article/south-news/special-talk/95530-gangteens.html)
ดังนั้นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืนจะต้องเริ่มตั้งแต่ระดับบุคคล ครอบครัว โรงเรียน สถาบันศาสนา (พุทธ-มุสลิม)ชุมชน ประชาสังคม และสื่อบูรณาการกับภาครัฐโดยเฉพาะหน่วยความมั่นคงในส่วกระบวนการยุติธรรมที่สามารถตรวจสอบได้ เป็นธรรม โปร่งใส อันเป็นที่พึ่งในเชิงประจักษ์
ในขณะที่รักชาติ สุวรรณ์ประธานสภาประชาสังคมชายแดนใต้ และประธานเครือข่ายชาวพุทธเพื่อสันติภาพเสนอแนะวิธีการแก้ปัญหาเช่น “

.
1.ควร เปิดพื้นที่ในการแสดงออกของกลุ่มเหล่านี้ด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็น เด็กแว๊น หรือใดๆ สุดแล้วแต่ ควรเป็นพื้นที่ให้เยาวชนได้แสดงออกได้
.
2. สารวัตรนักเรียน ควรมีการนำมาใช้ แต่ไม่ควรใช้ครู อาจารย์ มาเป็นสารวัตรนักเรียน จากการที่ได้มีโอกาสศึกษาดูงาน เขาใช้เจ้าหน้าที่ตำรวจเป็นสารวัตรนักเรียน เพื่อเข้าไปแก้ไขปัญหาให้กับเด็กและเยาวชน #ย้ำนะครับแก้ไขปัญหาให้กับเด็กและเยาวชน เพราะฉะนั้นการใช้กำลัง ใช้อาวุธกับเด็กและเยาวชนจึงไม่ควรเกิดขึ้น
.
3.ในยะลาเองมีองค์กรภาคประชาสังคม หรือ NGOs เยอะ ควรประสานมือกันแก้ปัญหาโดยมีภาครัฐเข้าร่วมด้วย
.
4.การทำงานด้านเด็กและเยาวชน การประณาม การด่า การอคติ ไม่ควรเกิดแก่นักกิจกรรมที่ทำงานทางด้านปกป้องสิทธิ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เกี่ยวกับเด็กและเยาวชน ต่างประเทศเราจะโทรศัพท์เพื่อถ่ายภาพเด็กและเยาวชน ไม่ได้เป็นอันขาด หากไม่ได้รับอนุญาต ถือเป็นมารยาททางสังคมของประเทศนั้นๆ

 4,674 total views,  2 views today

You may have missed