หมอหมัดจะนะ “โควิดรอบใหม่เสมือน “สะเก็ดไฟ”

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขจงมีแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัดและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

นายแพทย์หมัด หีมเหม จากโรงพยาบาลจะนะ
25 ธันวาคม 2563 ณ มัสยิดกลางจะนะจังหวัดสงขลา นายแพทย์หมัด หีมเหม จากโรงพยาบาลจะนะ ได้อธิบายสถานการณ์โควิด -19 รอบใหม่ของประเทศไทยที่กำลังขยายวงกว้างเปรียบเสมือน สะเก็ดไฟ จากแรงงานต่างประเทศ หรือข้ามชาติ จากเมียนมา ที่ตลาดค้ากุ้ง กลางมหาชัยสมุทรสาคร อันเป็นตลาดกลางใหญ่ที่คนทั่วทุกภาคจากประเทศรวมทั้งภาคใต้เดินทางไปซื้อขายอาหารทะเล ซึ่งมีโอกาสสูงที่จะถูกส่งต่อ ในแต่ละจังหวัด โดยท่านตั้งข้อสังเกตว่าให้ดูสถิติ 2 อาทิตย์หลังจากนี้ว่า ประเทศไทยจะคุมอยู่หรือไม่ แต่ก็อยู่ที่ความร่วมมือของประชาชนที่จะปฏิบัติตามมาตรการทางสาธารณสุขและมุสลิมเราที่จะปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามประกาศสำนักจุฬาราชมนตรี

สำหรับสถานการณ์ล่าสุดศบค. เผยผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่( 30 ธ.ค.) เพิ่มพรวดถึง 250 ราย ติดเชื้อในประเทศ 241 ราย ชี้ต้องจับตากลุ่มก้อนใหญ่อีก 227 ราย ซึ่งอยู่ระหว่างการสอบสวนโรคและเชื่อมโยงกับสถานบันเทิง สถานที่ชุมชน และอาชีพเสี่ยง ส่วนจังหวัดที่ติดเชื้อเพิ่มอีก 3 จังหวัด รวมติดเชื้อกระจายไป 48 จังหวัดแล้ว

(นายแพทย์กษิดิษ ศรีสง่า ผู้อำนวยการแผนกผู้ป่วยอาหรับ รพ กรุงเทพ ฯ)

นายแพทย์ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษก ศบค. รายงานตัวเลขสถานการณ์ผู้ติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันว่า “มีผู้ติดเชื้อรายใหม่วันนี้ 250 ราย เป็นจำนวน 239 ราย ติดเชื้อในประเทศ (แรงงานเมียนมา) เป็นการคัดกรองเชิงรุก 2 ราย และอยู่ในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 8 ราย รวมเป็น 250 ราย”(ภาคใต้ทุกจังหวัดยกเว้นปัตตานี พัทลุงพังงา ชุมพรและยะลา)
นายแพทย์กษิดิษ ศรีสง่า ผู้อำนวยการแผนกผู้ป่วยอาหรับ รพ กรุงเทพ ฯ “ตัวเลขที่น่าติดตามและจะชี้เป็นชี้ตายคือตัวเลขของคนไทยที่สามารถเดินทางไปได้ทั่วประเทศไทย และทำให้เกิดการติดกันในประเทศ ซึ่งตัวเลขนี้จะปกปิดไม่ได้ และสามารถจะแพร่กระจายไปยังคนไทยอื่นๆได้อีก แต่อย่างไรก็ตามมีข้อที่ดีอยู่อย่างหนึ่งคือมันยังสอบสวนได้ว่ามาจากไหน ดังนั้นแสดงว่าพวกที่เป็นนี้คือรุ่นแรกๆที่ไปบุกเบิกเอาเชื้อโรคมาจากแหล่งของมันมา เนื่องจากสถานการณ์ตอนนั้นมันอาจจะสบายๆเลยไม่ได้ป้องกันเต็มที่ แต่มันยังไม่ถึงกับแพร่กระจายจนคุมไม่ได้ และหาต้นตอไม่เจอ หนนี้คือการระบาดครั้งที่หนักสุดของประเทศไทย แม้จะดูน่ากลัว แต่ก็ไม่ถึงกับหมดหวังเสียทีเดียว เพียงแต่เราต้องใช้ท่าไม้ตายที่เราได้ฝึกกันมาแล้วในช่วงเมษาปีนี้ จากการระบาดเล็กๆจากสนามมวยเมื่อคราวก่อน นั่นคือ การใส่หน้ากากตลอดเวลา ล้างมือทุกๆครั้งก่อนที่จะมาจับโดนใบหน้า และทุกๆครั้งหลังจากที่ไปจับอะไรมา อยู่ห่างๆกันให้มากไว้ งดเว้นการไปในที่ชุมนุมมากๆ ที่น่าชื่นใจคือ เมื่อผมไปละหมาดวันศุกร์ที่ผ่านมาที่ศูนย์กลางอิสลามแห่งประเทศไทย เห็นการร่วมมือกันอย่างพร้อมเพรียงชัดเจนมีการใส่หน้ากากทุกคน มีการล้างมือทุกคน มีการเว้นระยะห่างตามจุดเกือบทุกคนคุตบะห์สั้นมากๆ ผิดปกติของอาจารย์ซาฟีอีเลย ช่วยกันทำให้เต็มที่ และที่เหลือ มอบหมายความสำเร็จต่อพระผู้เป็นเจ้าครับ “
อย่างไรก็แล้วแต่ที่ดีที่สุดสำหรับทุกคนอยู่บ้านหยุดกิจกรรมนอกบ้านจนกว่าสถานการณ์ปกติ(นอกจากมาตราการที่กล่าวมาแล้ว)สอดคล้องกับ ทัศนะรศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์
คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย(โปรดอ่านเพิ่มเติมใน(https://www.matichon.co.th/local/news_2506942)

หมายเหตุฟังคลิปหมอหมัดฉบับเต็มใน
https://www.facebook.com/1245604111/posts/10224853197617654/?d=n

 6,555 total views,  11 views today