ศอ.บต.ร่วมกับกระทรวงแรงงาน เคลื่อนย้ายแรงงานพื้นที่ จชต.อย่างเป็นระบบ เพื่อไปทำงานที่บริษัทแคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ จ.เพชรบุรี ช่วยลดปัญหาการว่างงานจากสถานการณ์ COVID – 19

แชร์เลย

พารีดะ อาลีซู รายงาน..

(8 ธ.ค. 63) ที่สถานีรถไฟตันหยงมัส อำเภอระแงะ จังหวัดนราธิวาส นายมหะหมัดตอเพต หะยีด๊ะ ผู้ประสานงานของ ศอ.บต. พร้อมด้วยนางพารีดะ อาลีซ คณะกรรมการคุ้มครองสิทธิมนุษยชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาส นายรพี มามะ กองเลขาคณะประสานงานระดับพื้นที่ กอ.รมน.ภาค 4 ส่วนหน้า และทีมงาน ร่วมอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ที่จะเดินทางไปทำงานที่บริษัทแคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) จ.เพชรบุรี ซึ่งมีจำนวน 56 คน โดยมีครอบครัวของผู้ที่กำลังจะเดินทางไปทำงานมาส่ง พร้อมช่วยกัน นำสัมภาระต่างๆมาเตรียมความพร้อมก่อนการเดินทางด้วยรถไฟ

สำหรับในช่วงสถานการณ์ COVID – 19 ได้ส่งผลกระทบต่อแรงงานไทยในต่างประเทศที่ต้องเดินทางกลับมายังในประเทศไทย โดยเฉพาะแรงงานไทยในประเทศมาเลเซีย ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาการว่างงาน กระทรวงแรงงาน และ ศอ.บต. จึงได้จัดโครงการเคลื่อนย้ายแรงงานจากจังหวัดชายแดนใต้มาทำงานนอกพื้นที่ ประกอบกับบริษัทต่างๆก็เกิดปัญหาขาดแคลนแรงงานอีกด้วย จึงมีการประสานไปยังบริษัทที่สนใจเข้าร่วมโครงการ Co – Payment ซึ่งบริษัทแคล-คอมพ์ อีเล็คโทรนิคส์ ฯ ได้เข้าร่วมโครงการดังกล่าว จึงนับเป็นโอกาสของแรงงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่จะได้มีโอกาสมีงานทำ มีรายได้ และส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจเพื่อช่วยลดปัญหาการขาดแคลนแรงงานต่างด้าว ซึ่งบริษัทดังกล่าวมีค่าตอบแทนและสวัสดิการ โดยให้ค่าแรงตามกฎหมายวันละ 320 บาท โอที ประกันสังคม ตรวจสุขภาพประจำปี และมีวันหยุดพักผ่อนประจำปี รวมทั้งมีการจัดอาหารฮาลาล ห้องละหมาด ที่เหมาะกับผู้นับถือศาสนาอิสลาม ไว้บริการอีกด้วย และสามารถเดินทางกลับบ้านได้สะดวกมากกว่าการไปทำงานในต่างประเทศ

ด้าน นางสาวยัสมี บาเยาะกาเซะ ผู้ร่วมเดินทางไปทำงานในครั้งนี้ กล่าวว่า มีรายได้ไม่เพียงพอจึงต้องหางานเสริม เพื่อที่จะเลี้ยงดูสมาชิกในครอบครัวจำเป็นต้องไปทำงานไกลบ้าน ก่อนหน้านี้ทำอาชีพรับจ้างทั่วไป รายได้น้อย ไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่าย ยิ่งในช่วงสถานการณ์ COVID – 19 ได้ส่งผลกระทบต่อการทำงาน เมื่อเห็นแผ่นปลิวการรับสมัครงานผ่าน Facebook จึงเกิดความสนใจและมาร่วมสมัครงานในครั้งนี้ด้วย