วัดโคกโก จัดกิจกรรม “รำวงแม่บ้าน”สร้างความสุข คลายความเครียด เด็ก ผู้ใหญ่ ผู้สูงวัย ร่วมงานคึกคัก

สุไลมาน ยุ รายงาน..

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำของวันเสาร์ (10ตค.63) ที่วัดโคกโก ม.4 ต.ลำภู อ.เมือง จ.นราธิวาส มีการจัดกิจกรรมรำวงแม่บ้าน ที่ชาวบ้าน บ้านโคกโก บ้านทุ่งงายร่วมกันจัดขึ้น มีประชาชนทั้งในพื้นที่และนอกพื้นที่มาร่วมกิจกรรมจำนวนมาก

“รำวงย้อนยุค” เกิดในช่วงรัชสมัยของจอมพล ป.พิบูลสงคราม ซึ่งเป็นการละเล่นของชาวบ้านในภาคกลางอย่าง จ.สระบุรี, อ่างทอง และชัยนาท ในช่วงหลังเก็บเกี่ยวข้าว เพราะพักผ่อนและคลายเหนื่อยล้าจากการทำนา ซึ่งเดิมทีจะเรียก “รำโทน” เพราะต้องใช้เครื่องดนตรีอย่าง “โทน” เป็นการให้จังหวะช้าๆ และเป็นเพลงสั้นๆ เล่นซ้ำไปซ้ำมา เช่น เพลงลามะลิลา, เพลงงามแสงเทียน เป็นต้น ต่อมาเมื่อท่านจอมพล ป.ได้เห็น ท่านจึงนำมาปรับโดยใส่รำวงมาตรฐาน การร่ายรำแบบไทยเข้าไป จึงออกมาเป็นศิลปะ “รำวง” กระทั่งเรียกขานกันว่า “รำวงย้อนยุค” ในปัจจุบัน

การจัดกิจกรรม “รำวงพื้นบ้าน” ขึ้นก็จะทำให้ผู้สูงวัยได้สังสรรค์ ตรงนี้จะช่วยคลายเหงาและลดความว้าเหว่ให้กับคนชราได้ค่อนข้างดี ที่สำคัญยังได้บริหารกล้ามเนื้อ เพราะการเต้นรำวงจำเป็นต้องเดินไปมา อีกทั้งมีการย่อเข่าตามจังหวะเพลงที่ไม่ได้เร็วมาก ตรงนี้จะช่วยเรื่องการทรงตัวเพื่อป้องกันการหกล้มในผู้สูงอายุ และได้บริหารข้อต่อและกล้ามเนื้อ อีกทั้งการได้ยกแขนก็ถือเป็นการบริหารร่างกายทุกส่วนเช่นกัน อีกทั้งการร้องรำที่ผู้สูงอายุคุ้นเคยในอดีตตั้งแต่เห็นปู่ย่าตายายร้องเล่นเต้นรำตั้งแต่เด็ก กระทั่งวัยสาวยันสูงอายุ สิ่งเหล่านี้เป็นความสุขใจและเป็นความอบอุ่น ทำให้คนแก่มีกำลังใจกับสิ่งที่ท่านคุ้นเคยเมื่อในอดีต”

ขณะบรรยากาศเป็นไปอย่างคึกคัก สนุกสนาน
ทั้งบรรดาลประชาชนที่มาร่วมชม และออกไปเต้นรำวง ตามจังหวะเพลง มีทั้งเด็ก ๆ และผู้ใหญ่ออกมาร่วมรำวงกันอย่างสนุกสนาน ช่วยสร้างรอยยิ้ม เสียงหัวเราะ ให้กัน

ซึ่งกิจกรรมนี้ นอกจากจะช่วยอนุรักษ์สืบทอดการรำวงย้อนยุคสมัยดั้งเดิมให้กับคนรุ่นต่อไปแล้ว ยังเป็นการสร้างความรักความสามัคคีของชาวชุมชน อีกทั้ง ยังเป็นการฟื้นฟูกิจกรรมงานวัดที่มีความเป็นมายาวนานหลายร้อยปี กระตุ้นจิตสำนึกให้ประชาชนเกิดความภาคภูมิใจในเอกลักษณ์ของวัฒนธรรมท้องถิ่น เกิดการอนุรักษ์และพัฒนามรดกทางวัฒนธรรมของชุมชน และของชาติอย่างยั่งยืน

ด้านการรักษาความปลอดภัย มีเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหาร ฝ่ายปกครอง ภาคประชาชน มาร่วมกันดูแลรัษาความปลอดภัยให้แก่ผู้มาร่วมงานอีกด้วย
/////////////////////////////////////

 1,076 total views,  2 views today