อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด และสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
จากที่สื่อโซเชี่ยลถล่มผู้อำนวยการสช.หนองจิก อย่างหนัก (พอเข้าใจได้)หลังจาก
วันนี้ 16/9/63 ศาลจังหวัดปัตตานีพิพากษาลงโทษจำเลย หมายเลขคดีอ.ดำ 813/2562 นายมูหัมมัดรอมลี เจะยะ โรงเรียนอัลอูลูมุลอิสลามมียะห์ ตำบลบ่อทอง อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานี (บาบอรอมลี ชือมา) ศาลพิพากษาจำคุก 2 เดือน ปรับ 8,000 บาท โทษจำคุกให้รอการลงอาญา 2 ปี
จากเหตุ
วันที่ 18/6/62 สช.หนองจิกแจ้งความร้องทุกข์ แก่เจ้าหน้าที่ตำรวจ “ข้อหาเปิดปอเนาะ โดยไม่มีใบอนุญาต”
วันที่ 24/6/62 พนักงานสอบสวน แจ้งข้อหา จัดตั้งโรงเรียนนอกระบบโดยไม่ได้รับอนุญาต
วันที่ 11/10/62 พนักงานอัยการได้ยื่นฟ้องต่อศาลจังหวัดปัตตานี
แต่เพื่อความเป็นธรรมที่สช.อาจจะน้ำท่วมปากไม่ออกมาชี้แจง ผู้เขียนขอเล่าเหตุการณ์สถานศึกษาศาสนา ไม่ว่าปอเนาะหรือโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาช่วงไฟใต้ภายใต้กฎหมายพิเศษ และผู้เขียนอยู่ใน timeline ตลอด (โปรดดู
บทเรียนการต่อสู้ด้านสิทธิมนุษยชน ของเครือข่ายโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามภาคใต้
https://www.publicpostonline.net/26227)
ดังนั้นสำหรับผู้เขียนสช.หนองจิก จังหวัดปัตตานีเป็นแค่แพะรับบาป กรณีสั่งปิดปอเนาะ
นี่คือส่วนหนึ่งบทสะท้อนเพื่อนผู้บริหาร(ขอสงวนนาม)
“ห้วงปี 61 ฝ่ายความมั่นคง โดยแม่ทัพภาค 4 ยุคนั้นและไฟเขียวจากคนที่ได้แต่ตอบว่า “ไม่รู้ๆ” ให้เข้าตรวจสอบโรงเรียนเอกชน/ปอเนาะอย่างเข้มข้น ประเดิมกันที่โรงเรียนบากง พยายามเจาะประเด็นเรื่องกฏระเบียบและเรื่องเงินอุดหนุน แถมยังพยายามโยงว่าการทุจริตเงินอุดหนุนถูกนำใช้เป็นท่อน้ำเลี้ยงแก่ขบวนการฯ
ข้อกล่าวหาอันฉกาจฉกรรจ์ตามที่ปรากฏในสื่อตอนนั้นก็คือโรงเรียนเอกชนลงขันจ่ายเงินทอนร้อยล้านแก่เจ้าหน้าที่ สช. ปัตตานี (ทั้งจังหวัดและอำเภอ) เพื่อจะได้ทุจริตเรื่องเงินอุดหนุนและผ่อนปรนกฏระเบียบต่างๆ จนโรงเรียนเอกชน/ปอเนาะผุดขึ้นเหมือนดอกเห็ด โรงเรียนรัฐแทบว่างเปล่าไม่มีนักเรียน
DSI ใช้กฏหมายพิเศษเข้าตรวจค้นบ้านพักของ ผอ.สช จังหวัด ปัตตานี(เพิ่งจะเห็นว่าเป็นพุทธก็มีสิทธิโดน พรก.เหมือนกัน) เจอบัญชีธนาคารที่มีตัวเลขหมุนเวียนร้อยล้าน… นั่นไงว่าแล้ว !!!! สื่อในสังกัดฝ่ายความมั่นคงก็ประโคมข่าวกันครึกโครม ผอ.คนนั้นถูกย้ายไปประจำส่วนกลางอยู่หลายเดือน จนแก้ข้อกล่าวหาได้ว่าเป็นบัญชีเก่าสมัยที่ทำงานที่สงขลา เกี่ยวข้องกับสหกรณ์ออมทรัพย์ครู ตอนพ้นข้อครหา ย้ายกลับมาที่เดิม สื่อที่เคยประโคมข่าวนี้กลับเงียบสนิท
หลังจากนั้น เหมือนว่าฝ่ายความมั่นคงจะเสนอให้ยุบหน่วยงาน สช.ในพี้นที่ เพื่อให้โรงเรียนเอกชน/ปอเนาะกลับไปสังกัดเขตพื้นที่ฯ จนข้าราชการในสังกัดต้องดีเฟนด์กันอุตหลุด การปฏิบัติงานอะไรที่เกี่ยวข้องกับโรงเรียนเอกชน/ปอเนาะต้องอ่านตามระเบียบทีละบรรทัดเปะๆ ลามไปถึงหลักสูตรการสอน ถึงขั้นนับชั่วโมงว่าทำไมสอนศาสนาเท่านั้น สามัญเท่านี้ ฯลฯ จะเอาผิดให้ได้ เจ้าหน้าที่ สช. เครียดกันหมด
…. เมื่อเกิดกรณีระเบิดที่บ่อทอง จังหวัดปัตตานีและฝ่ายความมั่นคงสงสัยว่าคนร้ายหนีเข้าปอเนาะชือมา อำเภอหนองจิก จังหวัดปัตตานีจึงเข้าไปตรวจสอบแต่ไม่พบว่าเกี่ยวข้อง กลับเจอว่าไม่มีใบอนุญาตจัดตั้งปอเนาะ จึงเอาเรื่องนี้มาเป็นประเด็นแทน
ผอ.สช. หนองจิก ในฐานะต้นสังกัด (ซึ่งโดนเต็มๆจากกรณีโรงเรียนบากงมาแล้วดอกหนึ่ง) จึงรีบไปแจ้งร้องทุกข์เพื่อให้เจ้าหน้าที่แจ้งความตาม พรบ.โรงเรียนเอกชน เพราะตัวเองกำลังจะโดนฝ่ายความมั่นคง ง้างดาบฟันด้วยข้อหาปล่อยปละละเลย ที่ผ่านมา เคสแบบนี้ถ้าเกิดที่ส่วนอื่นของประเทศ หากพบว่ามีโรงเรียนสอนพิเศษนอกระบบ (โรงเรียนติว สอนดนตรี สอนมวย ฯลฯ) เปิดโดยไม่ได้รับอนุญาตให้ถูกต้อง ก็แค่สั่งให้ไปจดทะเบียนเสียให้ถูกต้อง เพราะไม่ได้ยุ่งยากอะไร
เมื่อผู้อ่านอ่านสิ่งที่ผมเขียน ก็เป็นสิทธิ์ผู้อ่านที่จะตัดสินว่า “สช.หนองจิกแค่แพะรับบาป กรณีสั่งปิดปอเนาะ?”
ส่วนกฎระเบียบใดของสช.ที่ไม่สอดคล้องในการหนุนเสริมการศึกษาการจัดการเรียนรู้ที่เป็นทางเลือกของชุมชนก็ต้องแก้ไข โดยเฉพาะบาบอ(โต๊ะครู)ที่เปรียบเสมือนผู้สานต่องานศาสนา ที่รับมรดกการเผยแผ่ศาสนา จากท่านศาสดา ถ้าท่านเกิดทำไปแล้วผิดกฎหมายอันเนื่องมาจากมิได้ตั้งใจ เราก็ต้องร่วมด้วยช่วยเหลือท่านทุกวิธีทาง สำหรับทางแก้ที่ถาวรจะต้องปฏิรูปเชิงโครงสร้างให้หน่วยงานรัฐจัดการศึกษาเพื่อความมั่นคงของมนุษย์
“การศึกษาชายแดนใต้ต้องเพื่อความมั่นคงของมนุษย์แล้วความมั่นคงของรัฐก็จะตามมา ข้อเสนอแนะก่อนได้เลขาสมช.คนใหม่/อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ http://spmcnews.com/?p=33199”
ปล. การตรวจสอบโรงเรียนเอกชน/ปอเนาะอย่างเข้มข้น เริ่มผ่อนคลายลงหลังเกิดกรณีร้องเรียนต่อแม่ทัพคนใหม่ตามข่าวนี้
“ออกแถลงการณ์โต้ข่าวใส่ร้ายโรงเรียนเอกชน “ทุจริตเงินอุดหนุน” ร้องแม่ทัพภาค 4 ย้าย “พล.ต.จตุพรฯ” ออกนอกพื้นที่ สร้างความสับสนวุ่นวาย” https://siamrath.co.th/n/73690
หมายเหตุ
บทความ:ปอเนาะกับการก่อร้ายชายแดนภาคใต้
https://prachatai.com/journal/2007/03/12156
1,228 total views, 2 views today
More Stories
ด่วน ! INC ออกแถลงการณ์ ต่อรัฐบาล ยกเลิกใช้ พรก.ฉุกเฉิน จังหวัดชายแดนภาคใต้ หนุนพูดคุยโต๊ะเจรจาสันติภาพ (มีคลิปแถลง)
แม่ทัพภาคที่ 4 พบปะผู้บริหารทางการศึกษาเอกชน,ผู้บริหารมูลนิธิตาดีกา แดนใต้ ร่วมหารือแก้ปัญหาพื้นที่เพื่อสันติสุข เน้นย้ำ ใกล้ถึงถึงเดือนศิลอด ขอทุกฝ่ายจับมือ “รอมฎอนสันติ” ไม่เกิดเหตุรุนแรง เดือนอันประเสริฐ
กลุ่มพลังมวลชน ผู้นำศาสนา นักเรียน นักศึกษา รวมกว่า 500 คน ”รวมพลังต่อต้านความรุนแรง” ทุกรูปแบบ หน้าแฟลตตำรวจนราธิวาสจุดเกิดเหตุบอมบ์