พฤศจิกายน 26, 2024

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

สหภาพยุโรป (อียู)เปิด 2 โครงการ 90 ล้าน รับมือและฟื้นฟู ผลกระทบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในจังหวัดชายแดนภาคใต้

แชร์เลย

วันพฤหัสบดีที่ 6 สิงหาคม 2563 ที่บ้านหมอปัตตานีภิรมย์ ตำบลอาเนาะรูอำเภอเมืองจังหวัดปัตตานี นายเปียร์ก้า ตาปิโอลา เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย เป็นประธานเปิดและแถลงการสนับสนุนโครงการรับมือและฟื้นฟูผลกระทบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทย ด้วยงบประมาณ 2.6 ล้านยูโร หรือประมาณ 90 ล้านบาท จำนวนสองโครงการ เพื่อเพิ่มความสามารถและการมีส่วนร่วมของภาคประชาสังคมของไทย ที่จะช่วยลดผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ที่มีต่อสุขภาพ สังคม และเศรษฐกิจของกลุ่มประชากรเปราะบางที่สุดในประเทศ ทั้งสองโครงการมีระยะเวลาการดำเนินงานเป็นเวลา 2 ปี และปฎิบัติงานโดยภาคีขององค์กรภาคประชาสังคมในประเทศไทย
น.ส. ธิดารัตน์ ธนานันท์ หัวหน้าผู้ประสานงานอาวุโส องค์การช่วยเหลือเด็ก ประจำประเทศไทย สำนักงานปัตตานีกล่าวว่า
โครงการรับมือและฟื้นฟูผลกระทบเนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในประเทศไทยของอียู มีส่วนประกอบหลัก 3 ด้าน ได้แก่ ความช่วยเหลือเร่งด่วนแก่ครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบจากการระบาด การฟื้นฟูด้านเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนโดยการพัฒนาการดำรงชีพของชุมชนที่ได้ผลกระทบให้ดีขึ้น และการสร้างความสามารถในการยืดหยุ่นของชุมชนในการรับมือวิกฤตที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต

“การแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบตามมาอย่างใหญ่หลวง ทั้งในระยะสั้น กลาง และยาว ผลกระทบที่ว่านี้มีทั้งปัญหาด้านสาธารณสุขและการให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรม ไปจนถึงความเปลี่ยนแปลงเชิงโครงสร้างทางสังคมและเศรษฐกิจ ซึ่งยังไม่สามารถประเมินได้อย่างชัดเจน”
เกี่ยวกับสหภาพยุโรป

สหภาพยุโรป (อียู) เป็นการรวมตัวในลักษณะสหภาพทางเศรษฐกิจและการเมืองของประเทศในทวีปยุโรป มีสมาชิกในปัจจุบันจำนวน 27 ประเทศ ประเทศสมาชิกได้ร่วมกันสร้างภูมิภาคที่มีความมั่นคง เป็นประชาธิปไตย และมีการพัฒนาที่ยั่งยืน นอกจากนี้ ยังรักษาความหลากหลายทางวัฒนธรรมของประเทศสมาชิก เปิดกว้างในการยอมรับซึ่งกันและกัน และเคารพเสรีภาพของประชาชน ในปี 2555 (ค.ศ. 2012) สหภาพยุโรปได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ เนื่องจากเป็นองค์กรที่ธำรงไว้ซึ่งสันติภาพ ความสมานฉันท์ ประชาธิปไตย และสิทธิมนุษยชนในยุโรป
สหภาพยุโรปเป็นสมาคมทางการค้าที่ใหญ่ที่สุดในโลก รวมถึงเป็นแหล่งทุนและเป้าหมายที่ใหญ่ที่สุดของการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ นอกจากนี้สหภาพยุโรปและประเทศสมาชิกยังเป็นผู้ให้ความช่วยเหลือเพื่อการพัฒนาอย่างเป็นทางการ (Official Development Assistance) รายใหญ่ที่สุดในโลก โดยที่มูลค่าการให้ความช่วยเหลือรวมกันเกินครึ่งหนึ่งของยอดรวมทั้งโลก
นาย เปียร์ก้า ตาปิโอลา เอกอัครราชทูตสหภาพยุโรปประจำประเทศไทย กล่าว “สิ่งที่แน่ชัดในตอนนี้คือ ทุกภาคส่วนจำเป็นต้องร่วมกันรับมือกับผลลัพธ์เชิงลบที่จะตามมา ในฐานะที่สหภาพยุโรปเป็นหุ้นส่วนการพัฒนาในประเทศไทยมาเป็นระยะเวลายาวนาน เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนองค์กรภาคประชาสังคมในการรับมือกับวิกฤตครั้งนี้ โดยจะไม่ทิ้งผู้ใดไว้ข้างหลัง ผมยินดีอย่างยิ่งที่การร่วมมือกันของเราจะช่วยให้การดำเนินโครงการเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ก่อให้เกิดประโยชน์ที่แท้จริงต่อกลุ่มประชากรเปราะบางทั่วประเทศ”

องค์กรหลักในการดำเนินงานของโครงการระดับประเทศคือองค์การแอ็คชั่นเอดประเทศไทย โดยร่วมกับองค์กรภาคี ซึ่งได้แก่มูลนิธิชุมชนไท มูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ และมูลนิธิชีววิถี โดยมีพื้นที่ในการปฏิบัติงานในเกือบ 40 จังหวัด และจะทำงานกับภาคส่วนที่ได้รับผลกระทบ เช่น แรงงานข้ามชาติ และแรงงานนอกระบบ เด็ก และประชาชนชายขอบ ซึ่งครึ่งหนึ่งของผู้ที่ได้รับผลกระทบนี้เป็นผู้หญิง
นาย เทาฮีด ฟาริด ผู้อำนวยการองค์การแอ็คชั่นเอดประเทศไทย กล่าวว่า “เรามาร่วมมือกันเพื่อช่วยเหลือชุมชนต่างๆ ที่ต้องการความช่วยเหลือแตกต่างกัน ทั้งในช่วงวิกฤตจากการระบาดของโรค และหลังจากนั้น โครงการที่จะดำเนินการครอบคลุมหลายภาคส่วน โดยจะมีการเตรียมชุมชนให้พร้อมรับมือกับความไม่แน่นอนที่จะเกิดขึ้น รวมถึงเตรียมการเพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมในระยะสั้น และระยะกลาง และมีมาตรการที่สามารถปรับให้ยืดหยุ่น เพื่อสามารถดำเนินงานในชุมชนชายขอบที่เปราะบางที่สุด”

องค์การช่วยเหลือเด็กได้ร่วมมือกับมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ และสมาคมนิสิตเก่าบัณฑิตอาสา มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ในการดำเนินงานโครงการในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ และ 4 อำเภอของจังหวัดสงขลา โดยมีกลุ่มเป้าหมายคือครัวเรือนที่ได้รับผลกระทบ กลุ่มเยาวชน และแรงงานอพยพคืนถิ่น โดยเน้นที่กลุ่มผู้หญิงเป็นสำคัญ

“มีความเสี่ยงอย่างยิ่งที่หลายครอบครัวที่ยากจนและเปราะบางในประเทศไทยจะไม่สามารถกลับมาดำเนินชีวิตอย่างปกติหลังจากวิกฤตโควิด-19”

นายประเสริฐ ทีปนาถ ผู้อำนวยการองค์การช่วยเหลือเด็ก กล่าว “เราต้องมั่นใจว่าบุคคลเหล่านี้จะมีความเข้มแข็ง และมีการเตรียมความพร้อมตั้งแต่ส่วนบุคคล ครอบครัวและชุมชน ให้สามารถรับมือ ป้องกัน และลดผลกระทบจากวิกฤตการณ์ทางด้านสาธารณสุข เศรษฐกิจ และสังคมที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต”

 1,083 total views,  2 views today

You may have missed