มีนาคม 28, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

กอ.รมน.ภาค 4 ชี้แจงความคืบหน้า เหตุคนร้ายก่อเหตุในพื้นที่ จังหวัดยะลา ในห้วงที่ผ่านมา ยันคุมตัว ผู้ก่อเหตุตามหลักฐาน ไร้คุกคาม ติง อย่าบิดเบือนข้อเท็จจริง จนสังคมเข้าใจผิด

แชร์เลย

เมื่อ 6มีนาคม 2561เวลา 1000 นาฬิกา ณ ศูนย์ประชาสัมพันธ์กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า พันเอก ปราโมทย์  พรหมอินทร์  โฆษกกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าเปิดเผยว่าตามที่ กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้า ได้บังคับใช้กฎหมายติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุรุนแรงที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุในห้วงที่ผ่านมา และภายหลังจากการดำเนินการได้มีความพยายามบิดเบือนข้อเท็จจริงกล่าวหาเจ้าหน้าที่เข้าคุกคามและละเมิดต่อหลังสิทธิมนุษยชนผ่านสื่อต่างๆ ทำให้สังคมเกิดความเข้าใจผิด ดังนั้น จึงขอชี้แจงความคืบหน้าคดีสำคัญในห้วง            ที่ผ่านมา ดังนี้

1.ความคืบหน้าทางคดีสำคัญ

1.1 เหตุคนร้ายร้ายเผารถทัวร์ ในพื้นที่ อำเภอบันนังสตา จังหวัดยะลา เมื่อ 17 ธันวาคม 2560  : ผลจากการรวบรวมพยานหลักฐาน และการบูรณาการงานด้านการข่าว สามารถขยายผลนำไปสู่การติดตามจับกุมผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง จำนวน 31 คน และวัตถุพยานที่ใช้ในการก่อเหตุได้หลายรายการ ผลจากการซักถามให้การสารภาพว่ามีส่วนร่วมกับการก่อเหตุ จำนวน 18 คน ออกหมาย ป.วิอาญา จำนวน 15 คน อยู่ในระหว่างดำเนินการ จำนวน 3 คน และปล่อยกลับภูมิลำเนา จำนวน 3 คน

1.2 เหตุคนร้ายลอบวางระเบิดภายในตลาดสดพิมลชัย อำเภอเมือง จังหวัดยะลาเมื่อ 12 มกราคม 2561 มีผู้เสียชีวิต 3 ราย และบาดเจ็บจำนวนมาก : ผลจากการรวบรวมวัตถุพยาน ตรวจสอบภาพจากกล้อง CCTV และ การแจ้งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ของแหล่งข่าวภาคประชาชนสามารถกำหนดตัวบุคคลเป้าหมายที่ร่วมก่อเหตุในครั้งนี้ในเบื้องต้นได้ จำนวน  6  คน ควบคุมตัวตามหมาย พรก.ฉุกเฉิน  จำนวน 5 คน และหลบหนี จำนวน 1 คน คือ นายอิสมาแอ  มูซอ เป็นเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยโรงเรียนธรรมวิทยา ซึ่งจะติดตามจับกุมเพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

  1. กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าให้ความสำคัญกับการบังคับใช้กฎหมายในทุกคดีด้วยความเสมอภาค และเป็นธรรมปฏิบัติด้วยความโปร่งใสในทุกขั้นตอนของการดำเนินการ ตั้งแต่การติดตามจับกุม การควบคุมตัวเพื่อซักถาม และการดำเนินคดีตามกฎหมาย ทั้งนี้ได้เปิดโอกาสให้ครอบครัว เครือญาติ ผู้นำ 4 เสาหลัก และองค์การต่างๆ เข้ามามีส่วนร่วมและตรวจสอบได้ในทุกกรณี อย่างไรก็ตามในห้วงที่ผ่านมา กลุ่มองค์กรจัดตั้งของกลุ่มคนร้าย และเครือข่ายแนวร่วมได้จงใจต่อต้านการบังคับใช้กฎหมายและบิดเบือนข้อเท็จจริง ดังเช่นกรณี เหตุการณ์คนร้ายเผารถทัวร์ และระเบิดภายในตลาดสดพิมลชัยโดยได้กล่าวหาว่า เจ้าหน้าที่เข้าไปละเมิดสิทธิ์ของผู้บริสุทธิ์ ทั้งๆ ที่บุคคลที่ถูกควบคุมตัวได้ให้การรับสารภาพว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุจริง จากพฤติกรรมที่ปรากฏดังกล่าวจะเห็นได้ว่า กลุ่มคนเหล่านี้คอยให้ความช่วยเหลือและสนับสนุนผู้ที่ใช้ความรุนแรงกับพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด  
  2. จากความพยายามในการบิดเบือนข้อเท็จจริงในช่วงที่ผ่านมาได้มีการเผยแพร่ผ่านสื่อสังคมออนไลน์รวมทั้ง สื่อมวลชนบางสำนัก ได้นำไปเสนอสู่การรับรู้อย่างกว้างขวาง ทำให้สังคมเกิดความสับสน ดังนั้น กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในภาค 4 ส่วนหน้าจึงขอความร่วมมือให้นำเสนอข้อมูลข่าวสารด้วยความระมัดระวังและใช้ดุลพินิจอย่างรอบด้าน เพื่อไม่ให้ตกเป็นเครื่องมือของกลุ่มผู้ไม่หวังดี และกลุ่มฉกฉวยโอกาสอื่นๆ เพราะอาจส่งผลกระทบต่อปัญหาความมั่นคงในพื้นที่ และทำให้เกิดความยุ่งยากในการแก้ไขปัญหามากยิ่งขึ้น

SPMCNEWS รายงาน

 755 total views,  2 views today