พฤษภาคม 1, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ไม่แปลกมาเลเซียเข้มงวดมาตราการกว่าไทยกรณีผ่อนปรน ละหมาดวันศุกร์และอื่นๆ

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) Shukur2003@yahoo.co.uk
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญ


(16พฤษภาคม 2563) ทางการมาเลเซียประกาศผ่อนปรนให้ให้ชาวมาเลเซียละหมาดวันศุกร์ ญามาอะห์ได้(ละหมาดญามาอะห์ที่ไทยยังไม่ได้) ละหมาดตะรอเวียะห์ และละหมาดอีดโดยกำหนดกฏเกณฑ์ไว้ดังนี้ (แปลโดย อาจารย์รุสนันท์ เจ๊ะโซ๊ะ)

 

1- จำนวนผู้ละหมาดจำกัดไว้ที่ 3-30 เท่านั้น ประกอบ เจ้าหน้าที่, AJK (คณะกรรมการ)มัสยิดและคนที่ลงทะเบียนเท่านั้น

2- ต้องตรวจอุณหภูมิของร่างกายก่อนและลงชื่อก่อนเข้ามัสยิด

3- ไม่อนุญาตให้คนอายุ 70 ปีขึ้นไป และอายุต่ำกว่า 15 ปี มาละหมาดที่มัสยิด

4- ไม่อนุญาตคนมีโรคประจำตัว (เบาหวาน ความดัน หัวใจ หอบหืด และอื่น ๆ) และมีอาการไข้ มาละหมาดที่มัสยิด

5- ไม่ให้มีการสลามด้วยการจับมือ

6- ห้ามรวมตัวกันและหลังละหมาดให้ออกจากมัสยิดทันที

7- ระยะห่างต้องไม่ต่ำกว่า 1 เมตร

8- ไม่อนุญาตให้เอี้ยะตีกาฟในมัสยิด

9- ให้เอาน้ำละหมาดจากบ้านมาเลยและให้สวมหน้ากากอนามัย
มาตราการเข้มงวดดังกล่าวไม่แปลกถ้าหากเราดูสถิติของจำนวนผู้ติดเชื้อของมาเลเซียเมื่อเทียบกับไทยในขณะเดียวกันการจำกัดจำนวนคน และระบุบุคคลที่สามารถละหมาดได้ก็มีผลมากๆในการบริหารจัดการ ไม่ทำให้ภาพจำนวนคนล้นมัสยิด ออหน้าประตูขณะเข้าและออกมัสยิด
สำหรับประเทศไทย วันนี้ 16 พฤษภาคม 2563
สำนักจุฬาราชมนตรี ก็ได้ประกาศ
เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ว่าด้วย การผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจละหมาดอีฎิ้ลฟิตร์
(ฉบับที่ 6/2563)ซึ่งยังคงมีความเกี่ยวข้องกับประกาศฉบับที่ 5/2563 ซึ่งจะต้องขออนุญาตจากประธานคณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัดปรึกษาผ่านผู้ว่าราชการจังหวัดเพื่ออนุญาต

https://bit.ly/3cFs2uP

หมายเหตุอ่านข่าวเพิ่มเติมใน
http://www.astroawani.com/berita-malaysia/solat-jumaat-terawih-dan-aidilfitri-ini-panduan-yang-perlu-anda-lakukan-242994

 842 total views,  2 views today

You may have missed