จันทร์เสี้ยวการแพทย์ เยี่ยม ครอบครัวไทย-จีน คลอดลูกระหว่างกลับไทย ด้าน นายกสมาคม ย่ำ เราช่วยเหลือทุกคนไม่เลือกปฏิบัติ และ ไม่แบ่งแยกศาสนา

(9 พ.ค.63) นายแพทย์ กิ๊ฟลัน ดอเลาะ นายกสมาคมจันทร์เสี้ยว การแพทย์ และสาธารณสุข นายรพี มามะ ที่ปรึกษา ศอ.บต./ผู้แทนสมาคมสื่อมวลชน จชต.นางพารีดะ อาลีซู คณะคุ้มครองสิทธิฯ สล.3 พร้อมทีมงาน ได้เข้าไป เยี่ยมให้ กำลังใจ คุณแม่ บุษกร พันธุ์วิชัย หญิงไทย ที่มีภูมิลำเนาจาก จังหวัด บุรีรัมย์ ได้กำเนิดลูกชาย ที่ โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เมื่อวันที่ 3 พ.ค.2563 ที่ผ่านมา

คุณแม่ บุษกร พันธุ์วิชัย เล่าว่า ตัวเอง เป็นคนจาก จังหวัดบุรีรัมย์ ได้ ตัดสินใจ เข้าไป ทำงาน ในประเทศมาเลเซีย เป็นเวลา 30 ปีแล้ว  โดย เมื่อ 30 ปีก่อน ได้ เข้าไป ทำงานในมาเลเซีย เริ่มตั้งแต่งาน คนเสริฟเบียร์ ,เป็นสาวร้านคาราโอเกะ และ เสริฟสวย ตามลำดับ

คุณแม่บุษกร เล่าต่อว่า ปัจจุบัน ได้ พบรักและแต๋งงาน กับ ชายหนุ่มมาเลเชีย ซึ่งมีอาชีพ ดูแลคนงานในโรงงานแห่งหนึ่ง ในมาเลเซีย ตั้งครรภ์ครั้งนี้ เป็นครรภ์ที่สองแล้ว ซึ่ง มีลูกคนโต ต่างบิดา 1 คน ปัจจุบัน อายุ 17 ปี แล้ว อาศัยอยู่กับ ครอบครัวใน จังหวัดบุรีรัมย์

คุณแม่บุษกร เล่าต่อว่า สาเหตุ ที่ ตัดสินใจ ขอความช่วยเหลือ มายัง เครือข่ายเฉพาะกิจช่วยเหลือคนไทยในมาเลเซียเพื่อช่วยประสาน เนื่องจาก ตน ไม่มี เงิน ที่ จะคลอดลูก ตามโครงการเอกชน ในประเทศมาเลเซีย เพราะ มีค่าใช้จ่ายสูงมาก จึงมาก

ภายหลังติดต่อกับ กรรมการเฉพาะกิจเพื่อช่วยเหลือคนไทยในมาเลเซีย สมาคมจันทร์เสี้ยว จึงได้วันที่กลับ คือ วันที่ 2 พฤษภาคม 2563 ที่ผ่านมา และ เมื่อถึงด่านสุไหงโกลก เนื่องจาก ตัวเอง ตั้งครรภ์ และ มีอาการเท้าบวม จึงถูกส่งมายังโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เพื่อกักตัวที่ นี้ และ ในวันที่ 3 ได้คลอดลูกชาย และ ได้ ตั้งชื่อลูก ว่า เด็กชาย ไช้เฉิงเฉิง ซึ่งเป็น นามสกุล ตามบิดา เชื้อสายจีน

ด้าน นายแพทย์กิ๊ฟลัน ดอเลาะ นายกสมาคมจันทร์เสี้ยวการแพทย์และสาธารณสุข กล่าวว่า สมาคมได้ ตั้งกลุ่มกรรมการเฉพาะกิจ หลายกลุ่ม เพื่อมาทำงาน ช่วยเหลือ พี่น้องในช่วง การระบาดของโควิด 19 ในรูปแบบของ เอ็นจีโอ ซึ่งเราไดั ช่วยเหลือทุกคน ที่ ร้องขอการช่วยเหลือ โดยไม่เหลือปฎิบัติ เชื้อชาติและศาสนา ทุกคนที่ ร้องขอ เรายินดี ช่วยตามกำลังของทีมงานที่เรามี อย่างเต็มความสามารถ

วันนี้ ได้ มาเยี่ยม เคส ที่ ทางสมาคมรับไว้ประสานงานช่วยเหลือ และได้ คลอดลูก ที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก

เบื้องต้น สุขภาพของเด็กและคุณแม่ แข็งแรง ทั้งสองคน จะพักรักษาตัวอยู่ที่ โรงพยาบาล จนครบ เวลากักตัว คือ 14 วัน

และเมื่อครบ 14 วันแล้ว ทางเราจะฝากไปยัง หน่วยงาน ที่ เกี่ยวข้อง เพื่อเข้ามาให้ การช่วยเหลือ และ ดำเนินการต่อ เพื่อส่งตัว เคส ไปยังภูมิลำเนาต่อไป

นายแพทย์ กิ๊ฟลัน กล่าวต่อว่า จากการที่ คุยกับ เคส ทางคุณแม่ มีความประสงค์ที่ จะกลับไป ยังประเทศมาเลเซีย เนื่องจาก จะไป หา พ่อของลูก แต่ด้วยสภาวะการณ์ปัจจุบัน อาจจะไม่อำนวย ต่อการข้ามแดน ทางเคส ก็จึงจะกลับไปหาครอบครัว ที่ จังหวัด ปทุมธานี เนื่องจากคุณแม่ของเคส อยู่ในจังหวัดดังกล่าว จึงจะขอประสานไปยัง หน่วยงาน ที่เกี่ยวข้อง เพื่อส่งต่อเคส ไปสู่ จังหวัดดังกล่าวภายหลังสิ้นสุด การกักตัว 14 วัน

นายแพทย์กิฟลัน กล่าวต่ออีกว่า สำหรับวันนี้ ได้ นำเงินช่วยเหลือ จาก ผู้มีจิตศรัทธาที่ได้ ร่วมบริจาค จำนวนหนึ่ง และได้ นำอุปกรณ์เครื่องใช้ สำหรับเด็กอีก จำนวนหนึ่ง ที่ ทางพี่น้องได้ ร่วมกัน บริจาคไว้ และ ขอขอบคุณทุกคนที่ได้ ร่วมกัน บริจาคในครั้งนี้ด้วย

 1,001 total views,  2 views today