พฤษภาคม 12, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ผู้ว่าปัตตานี แจงสร้างความเข้าใจ แนวทางปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์ ในวันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม 2563 และให้เป็นไปตามประกาศจุฬาราชมนตรี (ฉบับที่ 5/2563)

แชร์เลย

มะอายือมิง  สาและ  จ.ปัตตานี รายงาน.


( 8 พฤษภาคม 2563) นายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานี แจ้งว่า ตามที่สำนักจุฬาราชมนตรี ได้มีประกาศ เรื่อง มาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVD-19) ว่าด้วย การผ่อนปรนให้ปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) และแนวทางปฏิบัติ (ฉบับที่ 5/2563) ลงวันที่ 3 พฤษภาคม 2563 โดยให้คณะกรรมการอิสลามประจำจังหวัด ใช้ดุลยพินิจร่วมกับคณะกรรมการอิสลามประจำมัสยิด และขอคำปรึกษาจากผู้ว่าราชการจังหวัด ในฐานะประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัด และผู้กำกับการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉินจังหวัด เพื่อให้การการปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ผลการประชุมคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี ครั้งที่ 13/2563 เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2563 เห็นชอบ ให้มีการผ่อนปรนในการปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์ ตามประกาศของจุฬาราชมนตรี โดยกำหนดเวลาที่เหมาะสม คือ ตั้งแต่วันศุกร์ที่ 22 พฤษภาคม 2563 เป็นตันไป
ประธานกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี แจ้งอีกว่า ทั้งนี้จะขึ้นอยู่กับความพร้อมของมัสยิด ที่จะจัดการละหมาดวันศุกร์ ให้เกิดความเรียบร้อย โดยคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดปัตตานี ให้กรรมการมัสยิดพิจารณาว่า หากมีการไปร่วมละหมาดเกินจำนวนเครื่องหมายที่กำหนดไว้ในมัสยิด การเข้า- ออกมัสยิด และการบริหารเวลาละหมาดที่เหมาะสม ถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด ควรจะมีการจัดการอย่างไร เพื่อเป็นการเว้นระยะห่างทางสังคม และปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ทั้งนี้ ได้แจ้งแนวทางการปฏิบัติศาสนกิจละหมาด วันศุกร์ ดังนี้.
สำหรับมัสยิด
1. ให้กรรมการอิสลามประจำมัสยิด หรือหน่วยงานสาธารณสุข ในพื้นที่มาตรวจวัดอุณหภูมิก่อนเข้ามัสยิด
2. ให้จัดวางเจลล้างมือแอลกอฮอล์ไว้บริเวณประตูทางเข้ามัสยิด
3. งดใช้บ่อน้ำ (กอเลาะห์) หรืออ่างใหญ่ร่วมกัน
4. ให้ทำความสะอาดพื้นมัสยิดก่อนและหลังการละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์)
ทุกครั้ง และไม่เปิดเครื่องปรับอากาศ โดยให้เปิดหน้าต่างมัสยิด ผ้าม่าน เพื่อให้อากาศถ่ายเทได้สะดวก
5. ให้จัดทำเครื่องหมายจุดละหมาดที่สามารถระบุตำแหน่งได้โดยให้เว้นระยะห่าง ระหว่างแต่ละจุด 1.50 -2 เมตร
6. ให้ควบคุมทางเข้าออกมัสยิด และจัดระเบียบระยะห่างขณะเดินเข้าและเดินออกจากมัสยิดหลังเสร็จสิ้นการละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์)
สำหรับผู้เข้าร่วมปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์
1. ให้อาบน้ำละหมาดจากที่บ้าน
2. ให้ใช้ผ้าปูละหมาด (ผ้าซะญาดะห์) ส่วนตัว โดยนำมาจากบ้าน
3. ให้ล้างมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ที่มัสยิดจัดเตรียมไว้
4. ให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาของการปฏิบัติศาสนกิจ
5. งดการสลามด้วยการสัมผัสมือ การสวมกอด และการสัมผัสแก้ม โดยให้ยกมือพร้อมกล่าวสลามเท่านั้น
6. เด็กและสตรี ให้งดการร่วมละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) ที่มัสยิด
7. หากมีอาการไข้ ไอ เจ็บคอ มีน้ำมูก แม้จะมีอาการไม่มาก ให้งดการไปร่วม
ละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิด
การปฏิบัติศาสนกิจละหมาดวันศุกร์
1. ให้เว้นระยะห่างระหว่างแถวและในแถว 1.50-2 เมตร และให้ยืนตามจุด ที่มัสยิดได้จัดทำเครื่องหมายไว้
2. ให้กระชับเวลาในการละหมาดวันศุกร์ (ญุมอะห์) นับตั้งแต่อะซาน คุตบะห์
และละหมาดไม่เกิน 20 นาที
และยังคงให้งดการจัดกิจกรรมทางศาสนาและกิจกรรมอื่น ที่มีการรวมตัวกันเป็นกลุ่มทุกประเภทตลอดจนการเลี้ยงละศีลอด
ทั้งนี้ ได้แจ้งหนังสือจังหวัดปัตตานี ด่วนที่สุด ลงวันที่ 8 พฤษภาคม 2563 ถึงหัวหน้าส่วนราชการทุกส่วนราชการ หัวหน้าหน่วยงานรัฐวิสาหกิจ นายอำเภอทุกอำเภอ หน่วยงานสถานศึกษา องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานภาคเอกชน ได้รับทราบและถือปฏิบัติ ตามแนวทางของจุฬาราชมนตรี

 506 total views,  4 views today

You may have missed