อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ) รายงาน..
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานี
เสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
(15 เมษายน 2563) บาบอนัสรูดีน กะจินายกสมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม(ปอเนาะ) จังหวัดสงขลาและคณะเสนอให้สามผู้นำมุสลิมประกาศร่วมกับจุฬาราชมนตรีเพื่อความเอกภาพในมาตราการรอมฎอน โดยท่านให้ทัศนะว่า “ดูสถิติคนติดCovid-19 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ใต้ทั้งหมดแบ่งเป็น 3 กลุ่ม หนึ่งส่วนหนึ่งของดะวะห์ที่กลับจากมาเลเซีย สองส่วนหนึ่งของดะวะห์ที่กลับจากอินโดนีเซีย และกลุ่มที่สาม ผู้ที่ติดจากการสัมผัสจากกลุ่มที่หนึ่ง ซึ่งต้องยอมรับว่าในแง่ระบาดวิทยากลุ่มที่สองคุมได้ เพราะทุกภาคส่วนได้บทเรียนจากกลุ่มที่หนึ่งซึ่งตอนนั้นรัฐยังรับมือไม่ดีกอร์ปกับผู้ที่กลับมาบางส่วนขาดความตระหนักหรือถึงขั้นประมาท(อาจด้วยไม่ทราบถึงผิดภัยของโรคนี้ แม้ทางรัฐจะใช้มาตราการเข้มช่วงหลัง สำนักจุฬาราชมนตรีประกาศมาตรการต่างๆเกี่ยวกับการปฏิบัติศาสนกิจ แต่ยังมีบางส่วน บางคนไม่ตออัต(ปฏิบัติตาม) ไม่ปฏิบัติตามยังไม่พอแต่กลับกล่าวหาจุฬาราชมนตรี สิ่งที่หนักใจในแง่ระบาดวิทยาวันนี้คือ กลุ่มคนที่สามที่คุมยากและกระจายทั่ว กระจายทั่วยังไม่พอแต่มันไปที่ไหนบ้างนี้ซิ อันเป็นผลให้สำนักจุฬาราชมนตรีประกาศฉบับที่สี่ ที่ส่งผลกับวิถีชีวิตเดือนรอมฎอนประมาณ 6 ข้อซึ่งไม่เคยปรากฎมาก่อน ในหน้าประวัติศาสตร์วิถีชีวิตช่วงรอมฎอนของคนชายแดนภาคใต้และมุสลิมไทยรวมทั้งมุสลิมทั่วโลก
สมาคมโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลามจังหวัดสงขลา ทราบดีว่า การจะให้คนมุสลิมทุกคนพร้อมใจปฏิบัติทุกข้อตามจุฬาราชมนตรีได้ประกาศฉบับที่4 มิใช่งานง่ายๆประกาศสามฉบับ น่าจะเป็นเครื่องยืนยันว่า ยังคงมีคนพร้อมฝ่าฝืน ดังนั้น ทางสมาคมจึงขอเสนอ ว่า เป็นไปได้ไหมวัน ที่จะประกาศดูเดือนเพื่อกำหนดวันที่1 ของเดือนรอมฎอนขอให้ผู้นำมุสลิม 3 คนอันเป็นสัญลักษณ์ทางจิตวิญญาณประกาศคู่กับจุฬาราชมนตรี หนึ่งคือบาบออิสมาอีล เสอร์ปันยัง ดร.อิสมาอีลลุตฟี จะปะกียาและอามีรสูงสุดของกลุ่มดะวะห์ตับลีฆ พร้อมประกาศว่าใครไม่ตออัต(ปฏิบัติตาม)คำสั่งจุฬาราชมนตรีนั้นเป็นบาป ในขณะเดียวกันให้ตัวแทนสมาคมจันทร์เสี้ยวเพื่อการแพทย์และสาธารณสุขอาจจะเป็นหมออารีฟีน ไทยปาทานหรือหมอกิฟลัน ดอเลาะหรือหมอฟะฮฺมี ตาเละ สรุปภาพรวมทางการแพทย์และระบาดวิทยา ว่าทำไมจึงต้องขอความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ปฏิบัติตามสำนักจุฬาราชมนตรีอย่างเคร่งครัด หวังว่าหากทำได้ดังนี้ อินชาอัลลอฮฺมุสลิมจะเป็นแบบอย่างหมดข้อครหาทางสังคมอย่างทุกวันนี้
ส่วนมาตรการอื่นๆก็เป็นหน้าที่ของรัฐ แล้วเราจะได้สุขสันต์วันอีดได้อย่างปกติ”
หมายเหตุ
หนทาง ประกาศจากสำนักจุฬาราชมนตรี
เกี่ยวกับ “การปฏิบัติศาสนกิจในเดือนรอมาฎอน”
สรุปได้ดังนี้
1.ให้กำหนดคนดูดวงจันทร์ ไม่ให้บุคคลทั่วไปไปดูเพื่อป้องกันการรวมตัว
2.ถือศีลอดได้ตามปกติ โดยให้หลีกเลี่ยงการถมน้ำลายตามที่ต่างๆ
3.งดการจัดเลี้ยงละศีลอด
4.ระมัดระวังการรับประทานอาหารในครอบครัว
5.งดรวมตัวที่มัสยิด เช่น อิอตีกาฟ ละหมาดตารอแวะห์ ฯลฯ
6.จ่ายซากาตล่วงหน้าได้ ตั้งแต่เริ่มเดือนรอมาฎอน
7.เรื่องรายอให้รอประกาศอีกครั้งหนึ่ง
สองวิเคราะห์การระบาดCovid โดยหมอฟะฮฺมี
https://www.facebook.com/578389439/posts/10157622120789440/?d=n
713 total views, 2 views today
More Stories
นายกสมาคมกีฬานราฯ และภาคประชาชนชาวนราธิวาส ส่งสารวอน นายกเศรษฐาฯ สร้างต่อสนามกีฬานราธิวาสทิ้งงาน 10 ปีร้าง ไร้เหลียวแล คนชายแดนใต้
คืบหน้าดราม่างานประกวดมิสไชน่าปัตตานี สาวประเภทสองรุดให้ปากคำเพิ่ม พร้อมเอาความถึงที่สุด
ปธ.สมาพันธ์ไทยพุทธ จ.ยะลา ร่วมเครือข่ายไทยพุทธกว่า 200 คน ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯยะลา ส่งต่อ รมว.ยุติธรรม ไม่เห็นด้วยกับยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน จชต.