ผู้ว่าปัตตานี เปิด.รพ.ภาคสนาม ขณะที่มูลนิธิเพื่อการแพทย์และสมาคมจันทร์เสี้ยวฯ มอบอุปกรณ์ทางการแพทย์แก่โรงพยาบาลสนามปัตตานี

ตูแวดานียา มือรีงิง รายงาน..

(14 เมษายน 2563  ) นายไกรศร วิศิษฐ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดปัตตานีได้เป็นประธานในพิธีเปิดอาคารโรงพยาบาลสนาม “ศูนย์ฟื้นฟูสู้โควิค จังหวัดปัตตานี” ตั้งอยู่ที่อาคารสำนักงานบริหารเขตพื้นที่อุตสาหกรรมจังหวัดปัตตานี ตำบลบานา อ.เมืองปัตตานี นายไกรศร กล่าวว่า อาคารแห่งนี้สามารถรองรองรับผู้ป่วยโควิคที่อาการไม่หนักและไม่มีโรคประจำตัวจำนวน 70-80 ราย ขณะนี้มีผู้ป่วยพักรักษาตัวทั้งหมด 25 รายเป็นชาย 19 ราย หญิง 5 รายและเด็ก 3 ขวบหนึ่งราย
เมื่อวานนี้เวลา 13.00 น.นายแพทย์อนันต์ชัย ไทยประทาน ประธานมูลนิธิเพื่อการแพทย์และสาธารณะกุศลและที่ปรึกษาสมาคมจันทร์เสี้ยวการแพทย์และสาธารณะสุขได้นำอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ได้รับการบริจาคมามอบให้กับโรงพยาบาลสนาม “ศูนย์ฟื้นฟูสู้โควิค จังหวัดปัตตานี”

นายแพทย์อนันต์ชัย กล่าวว่าส่วนหนึ่งก็คือมีองค์กรในกรุงเทพอย่างเช่นมูลนิธิหรือสมาคมที่เห็นจันทร์เสี้ยวทำงานด้านนี้อยู่ในภาคสนาม เช่นเสื้อชุด PPE ก็ได้จากมูลนิธิเพื่อการพัฒนาสังคม ของท่าน ดร.มนัส บริจาคผ่านองค์กรของท่านประมาณ 200 ตัว และก็แมส N95 หน้ากากอนามัย แว่นตา อแลกอฮอร์ เจล แล้วเงินที่จันทร์เสี้ยวรับการบริจาคมาตอนนี้มี 3 ล้านกว่า ก็ทยอยซื้อของอยู่ พอซื้อของแล้วเราก็จีบบริจาคตามโรงพยาบาลที่กำลังขาดอยู่เมือให้โรงพยาบาลครบแล้วเราก็จะลงไปที รพ.สต.แต่ถ้า รพ.สต ยังมีไม่พร้อมเราจะลงให้ครบเท่าที่ทำได้ ร่วมกับหน่วยงานราชการ เพราะราชการทำอยู่แล้ว แต่ว่าเราไปเสริมในช่วงที่มันวิกฤตเราเสริมไป แต่เมือไรทั้งสองทีมีเพียงพอแล้วเราก็จะลงไปถึงระดับ อสม.หรือระดับชุมชนเลย เงินแค่ 3 ล้านนิดเดียว น่าจะจบที่ รพ.สต น่าจะไม่ถึงชาวบ้าน แต่เราต้องรณรงค์ต่อผ่านสภาประชาสังคม มีองค์กร มี ยมท.มีอะไรองค์กรเยอะแยะที่กำลังทำอยู่ เช่นมหาลัยฟาตอนี กำลังทำอยู่เป็รถึงยังชีพเป็นอะไรที่จำเป็น ที่จะไปช่วยเขาอีกที

โดยทั้งนี้เรารับบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์กับวัสดุทางการแพทย์มากกว่า เพราะเราเป็นองค์กรด้านการแพทย์  “ตอนนี้เรามาอยู่ที่โรงพยาบาลสนามมีผู้ป่วยกว่า 20 ราย ต้องให้พี่น้องทราบว่าถ้าพี่น้องเชื่อมั่นในระบบสาธารณะสุขของไทยซึ่งดีมากอยู่แล้ว ขอให้พี่น้องเก็บตัวอย่ากับบ้านให้มากที่สุดลดการร่วมกลุ่ม ลดการเดินทาง อินซาอัลลอฮเราก็จะได้กลับมาเป็นภาวะปกติโดยเร็วเพราะตอนนี้อัตราการติดเชื้อรายใหม่ในประเทศไทยก็ลดลงมาก ถ้าพี่น้องคุมดีๆความหวังเราที่จะได้ละหมาดอีดร่วมกันก็อาจจะเป็นไปได้ หรือทายๆ รอมฏอนอาจจะได้ละหมาดร่วมกัน แต่ถี่น้องไม่ระวังกันปล่อยตัวตามสบายก็กลัวว่าพี่อาจจะต้องละหมาดตะรอเวียะที่บ้าน ละหมาดอีดเฉพาะในครอบครัวหรือเปล่า” นายแพทย์อนันต์ชัยกล่าว
ให้พี่น้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ ช่วยหมอโดยอยู่บ้านและหมอจะช่วยพี่น้องอยู่ที่โรงบาลเอง

 1,067 total views,  2 views today