โดย อาจารย์โชคชัย วงษ์ตานี ..
หัวข้อข่าว
Love your neighbour: Islam, Judaism and Christianity come together over COVID-19
(
(https://www.weforum.org/agenda/2020/04/religions-covid-19-coronavirus-collaboration/)
รักเพื่อนบ้านของคุณ: อิสลาม ยูดายและคริสต์
มารวมตัวกันที่ COVID-19
ข้อเสนอที่น่าสนใจของข่าวนี้
•ผู้นำศรัทธาชนจากศาสนาคริสต์ ยูดายและอิสลามสนับสนุนความพยายามของรัฐบาลในการควบคุม coronavirus
•ชายหนุ่มและหญิงสาวแห่งศรัทธา สามารถจัดหาความรู้ทางดิจิทัล เพื่อสร้างการสื่อสารที่ดีในช่วงวิกฤต
•การอภิปรายเกิดขึ้นเกี่ยวกับวิธีที่ศาสนิกทั้งสามศาสนาสามารถร่วมมือกันในการริเริ่มการกุศล
การระบาดทั่วโลกของ COVID-19 นั้นต้องการวิธีการที่ครอบคลุมทั่วทั้งสังคมในทันที เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของไวรัส ในช่วงเวลาแห่งความไม่แน่นอนนี้ผู้นำทางความเชื่อความศรัทธาเช่นตัวเราเองได้หันไปหาตำราทางศาสนาและเทววิทยาเพื่อการปรอบประโลม/สร้างขวัญกำลังใจให้กับชุมชนและสนับสนุน ส่งเสริมการปฏิบัติที่ปลอดภัย
รวมทั้งยังมีเนื้อหา/หัวข้อข่าวที่ว่าด้วย
Lessons from the Abrahamic faiths
บทเรียนจากหลักความเชื่อ/ความศรัทธาของอับบราฮัมมิก
(Abrahamic หมายถึง 3 ศาสนาที่มีต้นกำเนิดจากศาสดาที่เป็นผู้สืบเชื้อสายจากศาสดาอับราฮัม/นบีอิบรอฮีม)
ในขณะที่บางคนอาจจะระมัดระวังในการติดตามข่าวสารเชิงป้องกัน ที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 โดยหน่วยงานรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศ ผู้ดำเนินการ/รับผิดชอบ/ทำหน้าที่ส่งเสริมด้านความเชื่อ ความศรัทธาควรใช้คำสอนทางศาสนา เพื่อย้ำถึงความสำคัญของมาตรการเหล่านี้เพื่อให้ความปลอดภัยแก่ชุมชน หลักความศรัทธาของของกลุ่มอับบราฮัมมิก (Abrahamic) ทุกศาสนามีคำสอนที่ยอมรับในเรื่องการให้ความสำคัญต่อการดำเนินการเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นและช่วยรักษาชีวิตของผู้คน
•พระคัมภีร์ไบเบิลสนับสนุนให้ผู้นับถือมีหลักคำสอนที่ว่า “จงแสดงความเชื่อของคุณ นอกเหนือจากงานของคุณ และฉันจะแสดงความเชื่อของฉันตามงานของฉัน”
•พระคัมภีร์กุรอ่านได้บอกเราว่า:“ ถ้าใครช่วยชีวิตหนึ่งให้อยู่รอด จะเป็นเหมือนว่าเขาช่วยชีวิตมนุษย์ทั้งมวล”
•ในศาสนายูดายมีหลักคำสอนที่ว่า “การรักษาชีวิตมนุษย์มีความสำคัญมากกว่าบัญญัติอื่น ๆ ทั้งหมด” ตามที่เน้นไว้ในคัมภีร์ตัลมุด
ในการทำความเข้าใจหลักคำสอนเหล่านี้ จะเน้นความสำคัญที่มีวิธีการดำเนินการอย่างไรให้ชุมชนสามารถได้รับการสนับสนุนให้เกิดการปฏิบัติตามมาตรการที่ดำเนินการโดยรัฐบาลและฝึกการรักษาระยะห่างทางสังคม(social distancing ) เพื่อการปกป้องตนเอง
รวมทั้งหัวข้อข่าว
‘Cooperate to combat the disease’
‘ร่วมมือเพื่อต่อสู้กับโรคระบาด’
ซึ่งก็น่าสนใจเช่นเดียวกัน
ปล.
– หากปรับประยุกต์วิธีการจากเนื้อหาข่าวนี้มาใช้กับสังคมไทยของเรา จะหมายถึงมุสลิม คริสต์ ฮินดูและพุทธศาสนิกชน ที่เราต้องหันหน้ามาร่วมมือกันมากยิ่งขึ้นในการร่วมแก้ปัญหาโควิดที่กำลังแพร่ระบาดด้วยวิธีการที่ดีงามและเหมาะสม
-ประโยชน์ของข่าวนี้คงให้ข้อคิดที่ดีว่า “คงมิใช่เวลาที่มาวิพากษ์ ต่อว่ากันว่าใครทำไม่ถูก แต่ชั่วโมงนี้ ทุกศาสนิกและมนุษยชาติต้องการความร่วมมือ ร่วมสู้กับวิกฤตด้วยกัน ใช้ทั้งความรู้ทางศาสนา สังคมศาสตร์ วิทยาศาสตร์และการแพทย์ไปพร้อมๆกัน”
602 total views, 2 views today
More Stories
SEC ภาคใต้กับSEA สงขลา-ปัตตานี
สู่พรบ.สันติภาพ เพื่อประกันกระบวนการสันติภาพชายแดนใต้
ฮัจญ์ไทยในภารกิจทูตสันติภาพใน 3 ภารกิจ จชต.