ผบ.ตร.ลงพื้นที่ตรวจชายแดนไทย-มาเลย์ นำความห่วงใย บิ๊กตู่ ให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ เน้นยำ้ป้องกันลักลอบข้ามแดนแพร่โควิด-19

นูอารีซ๊ะ ยะยือริ  รายงาน..

วันที่ 9 เม.ย. 63 ที่ห้องประชุมด่านศุลกากร อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้รับคำสั่งการจาก พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เพื่อเดินทางมาให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ในการสกัดกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 และมอบอุปกรณ์ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 แก่เจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติหน้าที่บริเวณด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก พร้อมประชุมร่วมกับ พล.อ.สมพล ปานกุล ที่ปรึกษา ผอ.รมน.ภาค 4 นายไพโรจน์ จริตงาม รอง ผวจ.นราธิวาส นายรุ่งเรือง ธิมาบุตร นายอำเภอสุไหงโก-ลก นางสุชาดา พันธ์นรา นายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองนราธิวาส พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 นายจักกฤช อุเทนสุต นายด่านศุลกากรสุไหงโก-ลก พ.ต.อ.ศุภชาติ เวชพร ผกก.ตม.จว.นราธิวาส และเจ้าหน้าที่สาธทรณสุข อ.สุไหงโก-ลก รวมทั้งผู้ที่เกี่ยว จำนวน 30 คน ถึงแนวทางวิธีการเฝ้าระวัง การควบคุม และการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19

โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงที่เป็นคนไทยเดินทางไปทำงานในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย ที่ปัจจุบันยังคงมีการลักลอบข้ามแดนโดยผ่านช่องทางธรรมชาติอยู่อย่างต่อเนื่อง และเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมมาทำการเปรียบเทียบปรับ คนละ 800 บาท พร้อมทำการคัดกรองก่อนที่จะประสานเจ้าหน้าที่ในแต่ละจังหวัด เดินทางมารับตัวเพื่อกักดูอาการ 14 วัน ก่อนที่จะปล่อยตัวกลับบ้านพัก โดยสถิติ จ.นราธิวาส เจ้าหน้าที่ได้คัดกรองบุคคลซึ่งมีอาการไอและมีไข้สูง จำนวน 458 คน และได้นำสารคัดหลั่งส่งตรวจห้องแล็บ เพื่อหาเชื้อไวรัสโควิด 19 ผลการตรวจไม่พบเชื้อ 433 ราย พบเชื้อไวรัศโควิด 19 จำนวน 25 ราย โดยส่งตัวรักษาโรงพยาบาล 18 ราย อนุญาตให้กลับบ้าน 7 ราย ซึ่งในจำนวน 25 ราย ได้เสียชีวิต 1 ราย ที่เดินทางไปร่วมเผยศาสนา ณ มัสยิดศรีเปตาลิง ประเทศมาเลเซีย

โดยในที่ประชุม พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. ได้มีการกำชับให้เจ้าหน้าที่ทุกฝ่ายมีความเข้มงวดดูและสอดส่อง การลักลอบเข้าประเทศของกลุ่มคนไทยที่ตกค้างอยู่ในรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซียเป็นกรณีพิเศษ เนื่องจากถือว่าเป็นบุคคลที่เดินทางมาจากพื้นที่การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 หากสามารถเล็ดรอดเข้าประเทศมาได้ บุคคลกลุ่มนี้จะนำเชื้อไปแพร่ระบาดเป็นวงกว้าง จนเจ้าหน้าที่ยากต่อการควบคุม

ต่อมาหลังประชุมแล้วเสร็จ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. ได้เดินทางไปดูบรรยากาศบนสะพานด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก และพบว่า ภูมิประเทศเอื้อต่อการลักลอบข้ามแดนโดยง่าย จากสภาพน้ำที่เริ่มแห้งขอด จึงกำชับให้เจ้าหน้าที่ที่ถูกส่งตัวมาปฏิบัติหน้าที่ตามช่องทางข้ามธรรมชาติ เพิ่มความเข้มงวดในการสอดส่องดูแลเป็นกรณีพิเศษ ก่อนที่จะมีการมอบส่งมอบอุปกรณ์ในการป้องกันการติดเชื้อไวรัสโควิด 19 แก่ พล.ต.ท.รณศิลป์ ภู่สาระ ผบช.ภ.9 เพื่อส่งมอบต่อให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้อีกทอดหนึ่ง

และก่อนที่ พล.ต.อ.จักรทิพย์ ผบ.ตร. จะเดินทางกลับ ได้นั่งรถยนต์เดินทางไปยังอาคารศูนย์แสดงผลิตภัณฑ์ชุมชน จ.นราธิวาส ซึ่งตั้งอยู่บริเวณสี่แยกปากทางเข้าด่านพรมแดน อ.สุไหงโก-ลก ซึ่งใช้เป็นสถานที่กักตัวบุคคลกลุ่มเสี่ยงที่เดินทางข้ามแดนมาจากรัฐต่างๆของประเทศมาเลเซีย ซึ่งมีความพร้อมรองรับกักตัวบุคคลเพื่อดูอาการ 14 วัน โดยมีเจ้าหน้าที่สาธารณสุข อ.สุไหงโก-ลก ให้การดูแลเรื่องกิจวัตรประจำวันและให้การตรวจโรคอย่างเข้มงวด เมื่อปราศจากการติดเชื้อเจ้าหน้าที่ก็จะอนุญาตให้กลับภูมิลำเนา

ด้าน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่า การเดินทางมาครั้งนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยเจ้าหน้าที่เป็นอย่างมาก จึงให้ตนลงมาให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่ทุกคน และท่านเป็นห่วงในเรื่องของช่องทางข้ามธรรมชาติตามแนวพรมแดน ที่คนไทยในมาเลเซียมักจะแอบเล็ดรอดข้ามเข้ามาในประเทศ ที่อาจจะนำเชื้อไวรัสโควิด 19 เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศไทย จึงได้ย้ำให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้ง 3 ฝ่าย มีความเข้มงวดในการปฏิบัติหน้าที่ ส่วนคนไทยที่ตกค้างอยู่ในประเทศมาเลเซีย ทางรัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจอยู่ในระหว่างการดำเนินการช่วยเหลือตามขั้นตอน

 627 total views,  15 views today