#เกาะติดCovid-19 :ฟังข่าวอย่างรอบด้านก่อนจะวิจารณ์ (นักเลงคีย์บอร์ดสร้างความขัดแย้ง)

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)  Shukur2003@yahoo.co.uk

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานีเสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
إنا لله​ وإنا إليه راجعون اللهم اغفر له وارحمه وعافه واعف عنه

จากกรณีที่เกิดเหตุผู้โดยสารรถไฟเสียชีวิตอย่างกะทันหัน ระหว่างเดินทางไปสุไหงโกลก ต่อมาพบว่า ผลแล็บผู้โดยสารวัย 57 ปี มีเชื้อไวรัสโควิด-19 และพบคลิปที่ถูกกล่าวหาว่าไอใส่ผู้อื่นนั้น
ในช่วงเมื่อคืน (1/4/63)และวันนี้ทั้งวัน (2/4/63) มีการรายงานน่าจะทุกสำนักสื่อในประเทศไทยและเนื้อหาข่าวรวมทั้งคอมเมนท์นักเลง คีย์บอร์ดกล่าวร้ายเสียๆหายๆต่อชายผู้นี้อันส่งผลร้ายไม่เพียงต่อตัวเขา(แม้เสียชีวิตไปแล้ว)แต่ยังรวมถึงครอบครัวของเขา จนช่วงบ่ายของวันนี้(2/4/63)มีการแชร์ข้อมูลคนที่อ้างว่าเป็นเพื่อนเขาเรียกร้องความยุติธรรม เล่าประวัติเขาว่า เขามิใช่คนธรรมดา เพียงแต่แต่งและทำตัวธรรมดา

(โปรดดูความจริงอีกด้านของเปาะยาชายที่ถูกสังคมตัดสินหลังท่านเสียชีวิต
https://bit.ly/39A6j5k
)
และอีกคนเขียนถึงเขาโดยตั้งข้อสังเกตเหมือนกับ เพจ
Patani Notes ว่ามิใช่ความผิดของเขาเพราะเขาทำทุกขั้นตอนตามกระบวนการคัดกรองจากรัฐ ซึ่งตรงนี้น่าจะผิดที่กระบวนการคัดกรองของรัฐมากกว่า ?
กรณีติดเชื้อตายบนรถไฟจุดคำถามกับวิธีคัดกรองดีพอหรือยัง ?กล่าวคือ
“

เหตุจนท.คัดกรองวัดอุณหภูมิไม่พบว่าเป็นไข้ ขณะถูกตรวจไม่มีไอจาม แต่ขณะไม่ตรวจกลับทั้งไอและอาเจียนจนต่อมาเสียชีวิต ด้านกรมควบคุมโรคชี้ว่าต้องมีสาเหตุแทรกซ้อนทำให้ตายกระทันหัน จนท.เผยผ่านการคัดกรองทุกขั้นตอน ส่วนผู้ใช้โซเชียลมีเดียตั้งคำถามการวัดอุณหภูมิใช้ได้เสมอไปจริงหรือไม่ ส่วนตม.สั่งกักจนท. 6 คน การรถไฟกัก 11 ตามหาผู้โดยสารอีก 15 ส่วนที่ยังไม่ชัดคือผู้โดยสารไฟลท์เดียวกันอีก 279 คน
.
กรณีของการเสียชีวิตชายชาวสุไหงโกลกวัย 57 ปีบนรถไฟเมื่อ 31 มี.ค.ก่อให้เกิดคำถามกับระบบคัดกรองว่าวิธีที่ใช้อยู่ได้ผลแค่ไหน และการฝากความหวังกับระบบคัดกรองที่อาศัยอุณหภูมิเป็นหลักว่าใช้ได้จริงหรือไม่ ท่ามกลางข้อมูลที่เผยแพร่กันในระยะหลังว่า ผู้ติดเชื้อไม่จำเป็นต้องมีไข้หรือแสดงอาการ
.
ผู้โดยสารที่เสียชีวิตในรถไฟรายนี้โดยสารเครื่องบินมาจากปากีสถาน แล้วในวันเดียวกันนั่งรถไฟจากสถานีบางซื่อเพื่อจะไปสุไหงโกลก ข่าวระบุว่ามีอาการไอตั้งแต่ก่อนขึ้นรถ มีผู้ใช้โซเชียลมีเดียเผยแพร่คลิปที่เป็นภาพของเขาเดินไออยู่ในระหว่างช่องเข้าคิวซื้อตั๋วซึ่งไม่มีผู้โดยสารอื่น แต่มีชายหนุ่มคนหนึ่งอยู่และถูกเขาไอใส่ ซึ่งก็มีผู้ใช้โซเชียลมีเดียหลายรายตำหนิว่าเป็นการกระทำโดยเจตนา ข่าวจากหลายสื่อระบุว่าตลอดทางเขาไอ เพจทีมพีอาร์การรถไฟแห่งประเทศไทยระบุว่า เมื่อถึงสถานีหัวหินมีเจ้าหน้าที่คัดกรองได้ขึ้นตรวจ ระหว่างที่เจ้าหน้าที่คัดกรองตรวจผู้เสียชีวิตไม่มีไข้ มีอุณหภูมิ 36 องศา และไม่ไอ แต่เจ้าหน้าที่เสนอให้พักการเดินทาง ส่วนผู้ป่วยยืนยันจะเดินทางต่อ ในระหว่างที่เดินทางต่อกลับมีอาการแย่ลงไอและอาเจียน จนกระทั่งไปถึงสถานีทับทะแกจึงเข้าห้องน้ำและพบว่านอนเป็นลมและเสียชีวิตหน้าห้องน้ำ เจ้าหน้าที่กู้ภัยขึ้นไปช่วยเหลือ มีการนำศพส่งให้กับรพ.ชันสูตร และนำตัวอย่างส่งตรวจเชื้อโควิด19 พบต่อมาว่าติดเชื้อ
.
ผู้ป่วยรายนี้ผ่านระบบคัดกรองที่มีตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่องบินที่ปากีสถาน โดยในการขอเดินทางเข้าไทยได้ทำตามระบบที่กระทรวงต่างประเทศตั้งเงื่อนไขคือให้มีใบรับรองแพทย์ว่าสุขภาพอยู่ในขั้นสามารถเดินทางได้หรือที่เรียกว่า Fit to fly เป็นใบรับรองที่ออกโดยแพทย์ปากีสถาน แล้วจีงได้หนังสือรับรองจากสถานทูตไทย จึงนั่งเครื่องบินร่วมทางผู้โดยสารอื่นที่ส่วนใหญ่เป็นนักศึกษาไทยโดยเครื่องบินของสายการบินไทย เขาเดินทางผ่านสนามบินสุวรรณภูมิผ่านระบบคัดกรองของสนามบิน เดินทางไปซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีรถไฟชุมทางบางซื่อเมื่อ 29 มี.ค.วันเดียวกันกับที่มาถึง และวันรุ่งขึ้นเดินทางออกจากบางซื่อด้วยขบวนรถที่ 37 ตู้ที่ 4 เลขที่นั่ง 28 รถออกเวลา 18.13 น.ของวันที่ 30 มี.ค. การรถไฟแห่งประเทศไทยยืนยันว่ามีระบบคัดกรองผู้โดยสารก่อนขึ้นรถทุกครั้ง หากอุณหภูมิสูงกว่า 37.5 องศาจะให้หลีกเลี่ยงการเดินทาง
.
ส่วนการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ทำความสะอาดรถไฟขบวนดังกล่าวถึงสองครั้ง มีทั้งการพ่นยาและอบความร้อน นอกจากนั้นยังทำความสะอาดพ่นยาที่สถานีรถไฟบางซื่อและทับสะแก นอกจากนั้นส่งรายชื่อผู้โดยสารร่วมตู้โดยสาร 15 คนให้กับสาธารณสุขจังหวัดสงขลาเพื่อให้แจ้งผู้โดยสาร ในขณะที่กักตัวเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของการรถไฟรวมทั้งเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยเอกชนรวมทั้งสิ้น 11 ราย สิ่งที่ยังไม่ชัดเจนคือบุคคลที่ปรากฎในวิดีโอว่าโดนไอใส่หน้า จะมีการตามตัวได้อย่างไร
.
เพจข่าว The Reporters รายงานอ้างผู้บัญชาการสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองพล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวงระบุว่า ผู้โดยสารรายนี้เดินทางด้วยไฟลท์ TG 350 พร้อมผู้โดยสาร 279 คนซึ่งส่วนใหญ่เป็นนศ.และคนไทยที่อยากกลับบ้าน ขณะนี้ได้มีการกักตัวเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง 6 คน และอยู่ระหว่างตรวจสอบไทม์ไลน์เพื่อหาบุคคลทั้งหมดที่เกี่ยวข้อง พล.ต.ท.สมพงษ์ยืนยันว่า เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองตรวจหนังสือเดินทางผู้โดยสารทุกคน มีการสแกนด้วยเครื่องเทอร์โมสแกนของด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ มีกรมคสบคุมโรคเป็นผู้กำกับดูแล และในกรณีนี้ผู้โดยสารมีใบรับรองแพทย์และหนังสือรับรองจากสถานทูตตามระเบียบ
.
ด้านเวบข่าวไทยพีบีเอสรายงานอ้างนพ.ธนรักษ์ ศิริพัฒน์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรคกล่าวกับสื่อมวลชนว่า กรณีของผู้ป่วยรายนี้มีประวัติมีโรคประจำตัวโดยเฉพาะเบาหวานที่ไม่ได้มีการควบคุม และเสียชีวิตอย่างกระทันหัน จะต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมว่า ที่ทำให้เสียชีวิตในลักษณะเช่นนี้เป็นเพราะอะไรแน่
.
สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางด้วยเครื่องบินไฟลท์เดียวกัน 279 คน ส่วนมากเป็นนศ.ไทยจากปากีสถาน ซึ่งที่ผ่านมามีแผนการที่จนท.นำคนกลุ่มนี้ไปกักตัวมีสถานที่ให้เรียบร้อย แต่ในกรณีนี้ไม่ชัดว่ามีนศ.กี่รายและบุคคลทั่วไปเท่าไหร่
.
สำหรับในเรื่องไทม์ไลน์ของผู้เสียชีวิตนั้น ขณะนี้ที่ยังไม่ชัดเจนคือเมื่อเดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิแล้ว ก่อนที่จะไปซื้อตั๋วรถไฟที่สถานีบางซื่อ ชายผู้นี้เดินทางไปที่ไหนพบใครบ้าง
.
29 มี.ค. เวลา 06.00 น. เดินทางถึงสุวรรณภูมิ TG 350 มีผู้โดยสาร 279 คน
10.27 น. ซื้อตั๋วที่สถานีบางซื่อ กรุงเทพมหานคร
.
30 มี.ค. เวลา 15.32 น. โดยประมาณ โดยสารรถไฟสายบางซื่อ-สุไหงโกลก ขบวนรถที่ 37 คันที่ 4 เลขที่นั่ง 28
22.15 น.พบล้มหน้าห้องน้ำ รถหยุดที่สถานีทับสะแก เจ้าหน้าที่กู้ภัยนำส่งรพ.ทับสะแกพบเสียชีวิต
.
31 มี.ค. ผลการตรวจพบว่าติดเชื้อโควิด-19
.

(โปรดดู

https://www.facebook.com/1974596986168129/posts/2292787671015724/?d=n)
สำหรับทัศนะผู้เขียนมองว่าทุกคนพยายามเต็มที่ ทำเต็มความสามารถอาจเพราะคนมาก ภาระงานสูง อดหลับ อดนอน พักผ่อนไม่เพียงพอ ทุกคนผิดพลาดกันได้ แก้ไขได้เป็นกำลังใจทุกคน
อย่างไรก็แล้วแต่
หลังจากนั้นช่วงเย็น (2/4/63 ) ทราบว่าเหตุการณ์ดังกล่าว มีการยืนยันว่า ไม่มีการไอใส่ แต่เป็นการเข้ามาสอบถาม แต่เนื่องจากเสียงดัง จึงมีลักษณะตกใจเท่านั้น และไม่ได้มีการพูดคุยกัน เนื่องจากเป็นการพูดภาษาถิ่นที่ฟังไม่ออก
(โปรดดู

ข่าวมติชนและข่าวสดยืนยันว่าลุงมิได้ไอใส่ตามข่าวที่วิจารณ์ช่วงแรกตามคลิป
1.https://www.matichon.co.th/covid19/news_2117064
2.
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_3874852)

ที่สำคัญกว่านั้นวันนี้ช่วงค่ำ(2/4/63)ข่าวบอกว่าไม่ได้เสียชีวิตเพราะCovid-19
https://mgronline.com/qol/detail/9630000033979)
Ustaz Mazlan Muhammad กล่าวว่า “
ลุงอาจเป็นผู้ร้ายโดยกลุ่มที่มีจิตร้าย เพียงแค่คืนเดียว
แต่ลุงคือผู้ดีบนโลกนี้ และกำลังรับความดีงามในโลกอาคิเราะฮ์ตราบจนนิรันดร์

اللهم اغفرله وارحمه وعافه واعف عنه وأسكنه فسيح جناتك وتقبله من الشهداء المقربين إليك وارزق لأهله وذويه الصبر والسلوان”
สรุปแล้ว
ในภาวะที่เต็มไปด้วยการพาดหัวข่าว เอามันของบางสื่ออย่างขาดจรรยาบรรณไม่สนผลกระทบที่จะตามมาโดยเฉพาะช่วงCovid-19 และชายแดนภาคใต้
จึงอยากให้ทุกท่านกลับไปหาพระดำรัสของ
อัลลอฮ์ (พระเจ้า)ซึ่งได้ดำรัสในอัลกุรอานเมื่อ1,400 กว่าปี

ความว่า

” โอ้ศรัทธาชนทั้งหลาย ! หากคนชั่วนำข่าวใดๆ มาแจ้งแก่พวกเจ้า พวกเจ้าก็จงสอบสวนให้แน่ชัด หาไม่แล้วพวกเจ้าก็จะก่อเคราะห์กรรมแก่พวกหนึ่งโดยไม่รู้ตัว แล้วพวกเจ้าจะกลายเป็นผู้เสียใจในสิ่งที่พวกเจ้าได้กระทำไป ”

ดังนั้นเราต้องตรวจสอบข้อมูลข่าวสารที่ตัวเองได้รับจากบุคคลที่เรารับสารมาอย่างรอบด้าน
(ยิ่งหากไม่มั่นใจในความซื่อสัตย์ของเขา )จำเป็นต้องยิ่งต้องตรวจอย่างรอบด้าน รอบคอบ ฟังหลายๆ ช่องทาง อย่าด่วนสรุปเพราะถ้ารับข้อมูลข่าวสารโดยไม่มีการตรวจสอบ อย่างละเอียดถี่ถ้วน รอบด้าน ผลเสียที่จะตามมานั้นอาจมีอย่างมากมายโดยเฉพาะปัจจุบันที่ใครๆก็เป็นผู้รายงานข่าวได้ ทำข่าวได้ มีเครื่องไม้เครื่องมือมากมาย โลกโซเชี่ยลอยู่ที่ปลายนิ้วมือ บางทีด้วยข้อมูลที่ได้รับอาจจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจากความเข้าใจผิดนั้นอาจจะเป็นสาเหตุที่นำมาสู่ความแตกแยก ความขัดแย้ง ความเกลียดชัง การประณาม ไม่เพียงกระทบต่อตัวเขาแต่อาจจะลามไปถึงพ่อ แม่ ภรรยา ลูกๆ กลุ่มคนที่เขาสังกัด ทำงานด้วย เลยเถิดไปสู่เชื้อชาติ ศาสนาอย่างเหมารวม
#อ่านข่าวอย่างมีสติ รอบด้าน มีวิทยปัญญา
#ไม่ตีตราและเหมารวม

 535 total views,  2 views today