พฤศจิกายน 26, 2024

สื่อเพื่อสันติspmc

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ผู้ว่านราฯแถลงการณ์ ผู้เสียชีวิต 1 ราย ติดเชื้อโควิด 19 สุไหงโกลก ประวัติร่วมคณะฯ135 เผยแพร่ศาสนาที่มาเลเซีย พร้อมแจงคืบหน้า ตั้งโรงพยาบาล ภาคสนามโควิท 19

แชร์เลย

ทีมข่าว.บรรณาธิการ..

เย็น (27  มี.ค.63) ที่ศูนย์ EOC ณ.ห้องพระบารมี สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส   นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมด้วยนายบุญช่วย หอมยามเย็น ปลัดจังหวัดนราธิวาส นายแพทย์วิเศษ สิรินทรโสภณ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดนราธิวาส  และนายแพทย์อินทร์  จันแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก  ร่วมแถลงข่าวสถานการณ์โรคติดเชื้อไวรัส (COVID-19) จังหวัดนราธิวาส ครั้งที่ 3

นายเอกรัฐ หลีเส็น ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส กล่าวว่า ในส่วนจังหวัดนราธิวาส พบผู้ป่วยยืนยัน   8 ราย เสียชีวิต 1 ราย กลับบ้านแล้ว 2 ราย และกำลังรักษาตัวในโรงพยาบาล 5 ราย ซึ่งเป็นผู้ป่วยรวมถึงผู้สัมผัสผู้ป่วยที่ไปร่วมพิธีทางศาสนาที่ประเทศมาเลเซีย 7 ราย เป็นผู้ป่วยที่ไปร่วมพิธีทางศาสนาที่ประเทศอินโดนีเซีย 1 ราย และเป็นผู้ป่วยที่จำหน่ายออกจากโรงพยาบาลหาดใหญ่ 1 ราย    อาศัยในพื้นที่  ต.มาโมง อ.สุคิริน จำนวน 2 ราย , ต.ปาเสมัส อ.สุไหงโกลก  จำนวน 3 ราย , ต.แว้ง อ.แว้ง จำนวน 1 ราย  ,  ต.รือเสาะออก     อ.รือเสาะ จำนวน 1 ราย  และต.บูกิต อ.เจาะไอร้อง จำนวน 1 ราย   โดยผู้ป่วยทั้ง 8 ราย ได้รับการดูแลตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข ขณะนี้ไม่มีอาการ กลับบ้านแล้วจำนวน ๒ ราย มีอาการเล็กน้อยและอาการดีขึ้น5 ราย และมีอาการรุนแรงและเสียชีวิต 1 ราย  ซึ่งยืนยันผู้เสียชีวิตล่าสุด เป็นบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ 132 คนไทย ที่เดินทางไปร่วมเผยแพร่ศาสนา ดะวะห์ ณ มัสยิดศรีเปตาลิง ประเทศมาเลเซีย ที่ผ่านมา

พร้อมกันนี้เน้นย้ำในมาตรการการดำเนินการที่จังหวัดนราธิวาสกำหนด มีการประชาสัมพันธ์เชิงรุก สื่อสารให้พี่น้องประชาชนในเขตพื้นที่เสี่ยง ได้รับทราบและเข้าใจในมาตรการต่าง ๆ ซึ่งมีการกำหนดเส้นทางเข้า-ออก การจดบันทึกการเข้า-ออก เพื่อให้ทราบว่ามาจากพื้นที่เสี่ยงหรือไม่  รวมถึงการทำความสะอาดพื้นที่พักอาศัย การสวมหน้ากากอนามัย การล้างมือด้วยสบู่แอลกอฮอล์ เจลหรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค รวมถึงการเว้นระยะห่างกันระหว่างบุคคล ไม่น้อยกว่า 1 เมตร การตรวจตราสอดส่องในเขตพื้นที่เสี่ยงฯ ให้มีการดำเนินการตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ของโรคติดเชื้อ และการตักเตือนให้แก้ไขหรือดำเนินการให้เป็นไปตามมาตรการฯ หากยังไม่ให้ความร่วมมือ หรือฝ่าฝืนมาตรการฯ จะให้มีการตรวจสอบตัวบุคคลผู้กระทำการฝ่าฝืน บันทึกเหตุการณ์

ทั้งนี้จังหวัดประกาศแจ้งกำหนดพื้นที่เสี่ยงเพื่อควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส(COVID-19)   โดยห้ามผู้ใดเข้าไปหรือออกจากพื้นที่ ดังนี้ ตำบลรือเสาะออก อำเภอรือเสาะ, ตำบลแว้ง อำเภอแว้ง,ตำบลมาโมง อำเภอสุคิริน ,ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหงโก-ลก และตำบลบูกิต อำเภอเจาะไอร้องจังหวัดนราธิวาส  กำหนด 14  วัน ระหว่างวันที่ 26 มี.ค. -8 เม.ย. 2563 หากผู้ใดมีความจำเป็นจะต้องเข้าหรืออกจากพื้นที่เสี่ยงเพื่อควบคุมการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 ให้แจ้งต่อเจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่ ที่ได้รับมอบหมายจากนายอำเภอท้องที่ โดยใช้เส้นทางที่เจ้าพนักงานควบคุมโรคติดต่อในพื้นที่กำหนด และขอความร่วมมือประชาชนในพื้นที่จังหวัดนราธิวาสร่วมรับผิดชอบต่อตนเองและสังคม   ด้วยการ”อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ “เพื่อร่วมฝ่าวิกฤติของแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัส(COVID-19) ไปด้วยกัน

ขณะที่จังหวัดนราธิวาสจะมีการเปิดโรงพยาบาลสนาม (Cohort Hospital) รองรับการคัดกรองผู้ปวยโรคติดเชื้อไวรัส(COVID-19) และการเตรียมรับมือเมื่อพบผู้ป่วยจำนวนมาก ณ โรงพยาบาลกัลยานิวัฒนาการุณย์ ซึ่งสามารถรองรับผู้ป่วยอาการไม่รุนแรง ได้จำนวน 34 เตียง ห้องแยก 2 เตียง ผู้ปวยระดับรุนแรง จะส่งต่อเข้ารับการรักษา ณ โรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์ ห้องแยก 14 เตียง และถ้ามีจำนวนมากสามารถเปิดโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก รองรับเพิ่มเติมได้อีก ทั้งนี้ศูนย์ปฏิบัติการภาวะฉุกเฉิน (EOC) COVID-19 จังหวัดนราธิวาส เปิดบริการเปิดสายด่วน 1881 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อตอบข้อสงสัย และการสื่อสารกับประชาชนให้หลายช่องทางมากขึ้น

นายแพทย์ อินทร์ จันแดง ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสุไหงโก-ลก ได้กล่าวถึง ประวัติการดูแลรักษาผู้ป่วยวยที่เสียชีวิตจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในจังหวัดนราธิวาส ผู้ป่วยเป็นชายไทยอายุ 49 ปี อาชีพ รับจ้าง อยู่ตำบลปาเสมัส อำเภอสุไหโกลก จังหวัด นราธิวาส ผู้ป่วยมีนำหนักตัว 109 กิโลกรัม มี-ประวัติไปทำกิจกรรมทางศาสนาที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเชีย กลับเข้าประเทศ ไทยโดยรถยนต์ส่วนบุคคลเมื่อวันที่ 2 มีนาคม 2563 เริ่มมีอาการป่วย วันที่ 11 มีนาคม ๒๕๖๓ อาการคือ เป็นไข้หวัด และเข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลสุไหงโก-ลก เมื่อ 12 มีนาคม 2563 ต่อมาผลตรวจพบว่าติดเชื้อโรคไวรัสโคโรน 2019 และทำการรักษาตามแนวทางของกระทรวงสาธารณสุข จนวันที่ 26  มีนาคม 2563 เวลา 14.00 น.เริ่มมีอาการเหนื่อยหอบมากขึ้น ออกชิเจนในเลือด แพทย์ได้ใส่เครื่องช่วยหายใจ เพราะระบบหายใจล้มเหลว ที่สุดไม่สามารถยื้อและช่วยชีวิตได้ และเสียชีวิต วันที่ 27 มีนาคม 2563 เวลา 03.30 น.

ในส่วนการจัดการศพทีมสุขภาพได้ดำเนินการจัดการศพตามแนวทางที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด และห่อหุ้ม ศพด้วยถุงป้องกันเชื้อ และโรงพยาบาลนำส่งศพไปสุสานเพื่อประกอบพิธีทางศาสนา -ทีมแพทย์และทีมเยียวยาจิตใจทำความเข้าใจกับญาติ ซึ่งทุกคนมีความเข้าใจและปฏิบัติ แนวทางการป้องกันการติดเชื้อกระทรวงสาธารณสุข กับผู้ประกอบพิธีทางศาสนา ในการฝังศพตามประกาศจุฬาราชมนตรี  และ กันประชาชนออกห่าง ให้มาทำพิธีเท่าที่จำเป็นเพื่อลดโอกาสการติดเชื้อ ตามคำแนะนำของแพทย์

ลิงค์ แถลงการณ์ การเสียชีวิต 1 ราย จากการติดเชื้อ โควิด 19ิที่นราธิวาส

….     https://www.facebook.com/spmnews2019/videos/220918482326637/

 1,195 total views,  2 views today

You may have missed