มีนาคม 28, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

#เกาะติดCovid-19: ดะวะฮ์ตับลีฆมีเรื่องดีมากกว่าที่เราคิด

แชร์เลย

อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์
(อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk http://www.oknation.net/blog/shukur

ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตาปรานี
เสมอ มวลการสรรเสริญมอบแด่อัลลอฮฺผู้ทรงอภิบาลแห่งสากลโลก ขอความสันติสุขแด่ศาสนทูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน

ปัจจุบันปฏิเสธไม่ได้ว่าสังคมค่อนข้างมองในแง่ลบต่อขบวนการเคลื่อนไหวฟื้นฟูสังคมมุสลิม “ดะวะฮตับลีฆ” อาจจะเป็นเพราะผู้ที ติดเชื้อ Covid-19 ชายแดนภาคใต้ส่วนใหญ่ มาจากกลุ่มคนที่กลับจากการชุมนุมการเผยแผ่ศาสนาจากมาเลเซียดังที่เป็นข่าวทางหน้าสื่อ แต่คนที่ติดเชื้อในประเทศไทยก็ไม่ใช่มาจากตับลีฆทั้งหมด กอร์ปมีแค่บางคนเท่านั้นไม่ยอมรับในข้อแนะนำทางการ แพทย์
อย่างไรก็แล้วแต่มีการทำความเข้าใจร่วมกันจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะสมาคจันทร์เสี้ยว ่ สำนักจุฬาราชมนตรี สำนักงานคณะกรรมการอิสลามีประจำจังหวัด สภาอุลามาอ์ปตานีดารุสลาม และบรรดาแกนนำดะวะห์ตับลีฆ จนสุดท้ายก็มีคำสั่งจากผู้นำกลุ่มตับลีฆแห่งประเทศไทยให้ปฏิบัติตามคำสั่งจุฬาราชมนตรี
บาบอมุฮัมมัด อาดัม หนึ่งในแกนนำกล่าวต่อผู้เขียนว่า “เรามีการประชุมร่วมตามที่ผู้เขียนได้กล่าว ไม่เพียงผู้นำกลุ่มดะวะฮตับลีฆแห่งประเทศไทยเท่านั้นให้ปฏิบัติตามสำนักจุฬาราชมนตรีแต่ผู้นำเราระดับโลกที่อินเดียก็ทำหนังสือทุกองค์กรทั่วโลกที่ขับเคลื่อนงานดะวฮนี้ให้ปฏิบัติอย่างเคร่งครัดตามผู้นำประเทศนั้นๆ”

คำว่า “ดะวะฮฺตับลีฆ” เป็นคำที่เริ่มใช้โดยท่านเมาลานาอิลยาสผู้ก่อตั้งกลุ่มดะวะฮฺตับลีฆอันหมายถึงกลุ่มทีทำงานเชิญชวนมวลมนุษย์สู่พระองค์อัลลอฮฺ และเผยแผ่สารของพระองค์อีกด้วย กลุ่มดะวะฮฺตับลีฆเกิดขึ้นครั้งแรกในเขตเมวาต ประเทศอินเดีย เมื่อปี พ.ศ.2477 โดยอาศัยความรู้และประสบการณ์จากนักวิชาการมุสลิมดิวบานที่ได้รับแนวคิดซูฟีจากตอรีเกาะฮฺกอดิริยะฮฺ ชิชติยะฮฺและนักชบันดียะฮฺ ผ่านท่าน ซาฮฺวลียยุลลอฮฺ อัลดะฮฺลาวี และโรงเรียนดารุลอุลูม ณ เมืองดิวบาน จากนั้นกลุ่มดะวะฮฺตับลีฆก็ได้แพร่หลายสู่ประเทศต่างๆมากมาย ในปี พ.ศ.2508 กลุ่มดะวะฮฺตับลีฆก็เริ่มเข้าสู่จังหวัดนราธิวาส และในปี พ.ศ.2536 กลุ่มดะวะฮฺตับลีฆก็ได้สร้างมัสยิด อัลนูร-ศูนย์มัรกัสกลุ่มดะวะฮฺตับลีฆในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ จังหวัดยะลา


ผลงานการปฏิรูปวิถีชีวิตมุสลิมชายแดนภาคใต้ที่เห็นได้ชัดในอดีตที่ผ่านมาปฏิเสธไม่ได้ว่ามาจากกลุ่มนี้ไม่ว่าการปฏิบัติศาสนกิจเรื่องละหมาดรวมที่มัสยิด การแต่งกายที่ถูกต้องตามหลักศาสนาโดยเฉพาะสตรี การสามารถผลิตบุคคลากรที่จำอัลกุรอานนับร้อย นับพันคน เป็นต้น
ดังนั้นสังคมเราต้องไม่เหมารวม ไม่ตีตรา และอาจต้องร่วมปฏิรูปกระบวนจัดการเรียนรู้หลักศาสนาโดยเฉพาะในเรื่องหลักศรัทธาต่ออัลลอฮ์ หลักกอดอกอดัร(การกำหนดสภาวะการณ์ )หลักการมอบหมายต่อพระองค์ การบูรณาการร่วมระหว่างศาสนากับการแพทย์ซึ่งไม่เฉพาะกลุ่มดะวะฮ์แต่ในสังคมมุสลิมทั้งหมดให้เหมาะสมกับคำว่า ปตานีคือระเบียงมักกะห์(ด้านศาสนา)
นี่ไม่นับรวมข่าวลือการกินไข่ 7 ฟองก่อนพระอาทิตย์เพื่อแก้ Covid-19 ของวันนี้อีก(26 มีนาคม 2563) เรียกได้ว่าสังคมเราเลือกเชื่อข่าวลือ ข่าวปฏิหาร หรือบอมอฮาตูมากกว่าบอมอเกอร์ดา(แพทย์แผนปัจจุบัน)ที่อธิบายเป็นเดือนๆก็ไม่ฟัง

หมายเหตุ

#เพื่อแต่ละคนได้เข้าใจขบวนการนี้มากขึ้นมีวิทยานิพนธ์เพื่อนผู้เขียน(ดร.มะสาการี อาแดเพื่อนร่วมป.โทอิสลามศึกษารหัส42)สามารถอ่านได้ใน
1.ฉบับย่อยวิทยานิพนธ์
http://kaekae.oas.psu.ac.th/ojs/rlej/include/getdoc.php?id=4598&article=1626&mode=pdf
2.ฉบับเล่มสมบูรณ์
https://soreda.oas.psu.ac.th/show_detail.php?research_id=117

 1,323 total views,  2 views today