โดย อุสตาซอับดุชชะกูรฺ บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
Shukur2003@yahoo.co.uk, http://www.oknation.net/blog/shukur
ด้วยพระนามของอัลลอฮฺผู้ทรงเมตตากรุณาปรานีเสมอ ขอความสันติและความจำเริญแด่ศาสนฑูตมุฮัมมัด ผู้เจริญรอยตามท่านและสุขสวัสดีผู้อ่านทุกท่าน
หลังจากหลายประเทศแม้แต่มาเลเซียบางรัฐใกล้บ้านเราประกาศจากมุฟตี อนุโลมให้ทุกมัสยิดหยุดละหมาดรวมวันศุกร์ ทำให้มีเรื่องดราม่ามากมายในโลกโซเชี่ยล กล่าวหาต่างๆนานา โดยเฉพาะใช้คำว่า กลัวโรคมากกว่ากลัวอัลลอฮ์ บ้าง ไม่มอบหมายต่ออัลลอฮ์บ้าง(ตะวักกัลหรือตะวักกุ้ล) มีการทำคลิปที่มีการแชร์ต่อๆในทำนองดังกล่าว จึงขออยากจะช่วยชี้แจงว่าแต่ละเเห่ง แต่ละที่มีองค์กรด้านศาสนาที่จะทำหน้าที่ในการวินิจฉัย หลักการอิสลามกับปัญหาร่วมสมัยตลอดมา รวมทั้งมุสลิมไทยมีสำนักจุฬาราชมนตรีซึ่งโรคไวรัส โคโรนา COVID-19 ก็เช่นกัน ที่แต่ละประเทศโดยเฉพาะประเทศมุสลิมที่ประกาศไปแล้วต่อเรื่องนี้ไม่ว่า ตุรกี คูเวต ซาอุดีอาระเบียและมาเลเซีย โดยยึดหลักการอิสลามที่ว่า
– 1- มุสลิมจะต้องยึดเอาสาเหตุในการปกป้อง ป้องกัน
รักษาทางสุขภาพลานามัยตามแนวข้อปฏิบัติของหน่
วยงานที่เกี่ยวข้อง(เช่นกระทรวงสาธารณสุข,มหาดไทย)
นั้นเป็นหนึ่งในเรื่องคุณงามความดี (الاحسان)
ดั่งที่อัลลอฮทรงตรัสในอัลกุรอ่าน ที่ว่า :
” ولا تلقوا بأيديكم الى التهلكة وأحسنوا إن الله يحب
المحسنين ”
ความว่า : “สูเจ้าทั้งหลายอย่าได้นำตัวสูเจ้าสู่ความ
หายนะ และจงทำดีต่ออัลลอฮ แท้จรอัลลอฮทรงรัก
บรรดาผู้กระทำความดี”
2- การจะมอบหมายต่ออัลลอฮ์ต้องภายหลังจากการวางแผน ป้องกันและทำตามตามเงื่อนไขแห่งความสำเร็จอย่างสุดสามารถก่อน
การมอบหมายต่ออัลลอฮ์ในภาษาอาหรับเรียกว่าตะวักกัลหรือตะวักกุ้ล หมายถึง การปฏิบัติหน้าที่ ภารกิจ การทำงานด้วยความแน่วแน่ มีการวางแผนและใช้ความพยายาม ปฏิบัติตามปัจจัยสู่ความสำเร็จอย่างเต็มที่ หรือป้องกันเหตุร้ายต่างๆอย่างสุดความสามารถก่อนหลังจากนั้นจึงจะมอบหมายต่อพระองค์อัลลอฮ์โดยเชื่อว่า ถ้าหากในงานนั้นมีความดีงาม และเป็นไปตามพระประสงค์ของอัลลอฮ์ พระองค์ก็จะทำให้งานนั้นสำเร็จบรรลุผลสัมฤทธิ์
อิบนุรอญับได้ให้คำนิยามของตะวักกุ้ลว่า : ตะวักกุ้ล คือ ความซื่อสัตย์ของหัวใจที่พึ่งพาพระองค์อัลลอฮ์ ในการแสวงหาสิ่งที่เป็นประโยชน์ และป้องกันสิ่งที่เป็นอันตรายทั้งในเรื่องดุนยาและอาคีเราะฮ์ (โลกหน้า)และมอบหมายกิจการทั้งหมดแด่พระองค์ และการบรรลุซึ่งแก่นแท้ของอีหม่านว่า ไม่มีผู้ใดมีอำนาจที่จะให้ หรือ ห้าม และให้โทษหรือให้คุณใด ๆ นอกจากพระองค์เท่านั้น
พระองค์อัลลอฮ์ ตรัสความว่า
“เมื่อท่านตั้งมั่นแล้ว ท่านจงมอบหมายต่ออัลลอฮ์เถิด แท้จริงอัลลอฮ์ทรงรักผู้ที่มอบหมายต่อพระองค์ ”
(ซูเราะฮ์ อาลิอิมรอน โองการที่ 1)
ดังนั้นการป้องกันโรคตามคำแนะนำของแพทย์และผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆก่อนและมอบหมายต่อพระองค์จึงเป็นเรื่องที่มุสลิมต้องตระหนักและระมัดระวัง
3- มั่นของพรต่ออัลลอฮ์ควบคู่กับข้อหนึ่งและสอง
การขอพรเป็นสิ่งสำคัญในอิสลาม ท่านศาสดาให้ขอพรเช้าเย็น เรียกว่า อัซกัรนาบาวีย์ที่รวมถึงการพ้นภัยจากโรคภัยรวมทั้งCOVID-19 และให้สุขภาพดี
นอกจากนี้การขอพรมีทุกกิจกรรม จะเดิน จะวิ่ง จะออกจากบ้าน จะตื่นนอน จะรับประทานอาหารและอื่นๆ สามารถค้นหาในสื่อปัจจุบันได้ง่ายมากไม่ว่า YouTube หรือสื่ออื่นๆทางโซเชี่ยล
ก็ขอเป็นกำลังใจทุกหน่วยงานในประเทศไทยและชายแดนภาคใต้หลังสถานการณ์นับวันยิ่งเสี่ยง
เป็นที่ทราบกันดีว่า สถานการณ์หลังทางการไทยประกาศให้132 คนไทยที่ไปญามาอะห์ตับลีฆที่มาเลเซียเมื่อเดือนกุมภาพันธ์เข้าตรวจที่โรงพยาบาลและทุกภาคส่วนกำลังช่วยเหลือกัน
ไม่ว่าสำนักจุฬาราชมนตรี คณะกรรมการอิสลามนราธิวาส ศอ.บต.และหน่วยงานอื่นๆที่ชายแดนด้วยการประชาสัมพันธ์ทั้งภาษาไทยและมลายู
อีก มาตราการหนึ่งทีอยากเสนอ(ที่ยังไม่ทำและต้องรีบทำคือ)
เรียกร้องปิดสถานบันเทิงด่วนทั้งที่ก่อนหน้านี้ทุกหน่วยงานไม่ว่าการศึกษา รัฐแม้แต่ศาสนาออกมารณรงค์เข้มให้ปิดโรงเรียน งดกิจกรรมทุกประเภทเช่นประชุม สัมมนา และอื่นๆ ถ้าจะจัดจริงๆให้รมว.อนุญาต
หมายเหตุ
1. มติชน/ วอน132คนไทยที่กลับจากร่วมกิจกรรมศาสนาในมาเลย์ รีบพบแพทย์-รับผิดชอบสังคม/https://www.matichon.co.th/region/news_2054536
2.ข่าวช่อง7
https://news.ch7.com/detail/400578?fbclid=IwAR2UJwIj2QHrijXixo9nPyBRlL9KcVNP7VtcnJKGcyAc65KEluCr-PnxqYU
3. ปธ.กอจ.นราธิวาส กก.อิสลามแห่งประเทศไทย วอน132คนไทยที่กลับจากร่วมกิจกรรมศาสนาในมาเลย์รีบพบแพทย์และรับผิดชอบต่อสังคม ป้องกัน COVID 19/มะดารี โตะลาลา SPM news รายงาน.http://spmcnews.com/?p=26786
4. นายอำเภอเบตง ขอความร่วมมือผู้เดินทางร่วมงานดะวะห์ที่กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย แสดงความรับผิดชอบต่อสังคม ให้เข้าพบแพทย์ เกรงจะติดเชื้อโรคไวรัส COVID-19 จากกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยกัน/ทีมข่าว BETONG NEWS รายงาน..http://spmcnews.com/?p=26795
4. สำนักจุฬาราชมนตรีขอความร่วมมือสำรวจข้อมูลผู้เข้าร่วมงาน “Qudamak & Ulamak Malaysia 2020” ณ ประเทศมาเลเซีย เมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ – 2 มีนาคม 2563
ด้วยสำนักจุฬาราชมนตรีได้รับการประสานขอความร่วมมือจากกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ในการสำรวจผู้เข้าร่วมงาน “Qudamak & Ulamak Malaysia 2020” ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 27 กุมภาพันธ์ 2563 ถึง 2 มีนาคม 2563 ณ มัสยิดศรีเปตาลิง (Sri Petaling Mosque) กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย เนื่องจากจุดประสานงานกฎอนามัยระหว่างประเทศ ประเทศไทย ได้รับการรายงานจากจุดประสานงานกฎอนามัยระหว่างประเทศ ประเทศมาเลเซีย ว่า มีผู้เข้าร่วมงานดังกล่าวชาวบรูไน จำนวน 11 ราย และชาวมาเลเซีย จำนวน 1 ราย ยืนยันการติดเชื้อ COVID-19 ทั้งนี้ ข้อมูลได้ระบุว่า มีผู้เข้าร่วมงานในครั้งนี้จากประเทศไทย จำนวน 132 คน
ในการนี้ เนื่องจากในงานดังกล่าวไม่ได้มีการลงทะเบียนอย่างเป็นทางการ กรมควบคุมโรคจึงไม่สามารถติดตามผู้เข้าร่วมงานเพื่อมาคัดกรองการติดเชื้อ COVID-19 ได้ ดังนั้น สำนักจุฬาราชมนตรีจึงใคร่ขอความร่วมมือดำเนินการสำรวจข้อมูลผู้เข้าร่วมงานดังกล่าว ทั้งนี้ หากพบว่ามีผู้เข้าร่วมงานดังกล่าว ขอความกรุณาแจ้งให้บุคคลดังกล่าวได้ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและควบคุมโรค COVID-19 สำหรับผู้เดินทางกลับจากงาน “Qudamak & Ulamak Malaysia 2020” อย่างเคร่งครัด และขอความร่วมมือแจ้งรายชื่อบุคคลดังกล่าวมายังสำนักจุฬาราชมนตรีโดยด่วน เพื่อที่สำนักจุฬาราชมนตรีจะได้รายงานไปยังกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เพื่อดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
5.ส.ส.ณัฏฐ์ชนน ศรีก่อเกื้อ สงขลาเขต 7 พรรคภูมิใจไทย
รายงานว่า “วันนี้ผมเดินทางไปเยี่ยม ด่านสะเดา ด่านปาดังเบซาร์ อำเภอ สะเดา จังหวัด สงขลา 😍 มีความพร้อมในการคัดกรอง เข้าออกระหว่าง ด่านชายแดนได้อย่างดีเยี่ยม มีการสนธิกำลังจากหลายหน่วยงาน ให้พี่น้องชาวสงขลา เชื่อมั่นในการทำหน้าที่ได้เลย คับในการยับยั้ง Covid 19 “
703 total views, 4 views today
More Stories
นายกสมาคมกีฬานราฯ และภาคประชาชนชาวนราธิวาส ส่งสารวอน นายกเศรษฐาฯ สร้างต่อสนามกีฬานราธิวาสทิ้งงาน 10 ปีร้าง ไร้เหลียวแล คนชายแดนใต้
คืบหน้าดราม่างานประกวดมิสไชน่าปัตตานี สาวประเภทสองรุดให้ปากคำเพิ่ม พร้อมเอาความถึงที่สุด
ปธ.สมาพันธ์ไทยพุทธ จ.ยะลา ร่วมเครือข่ายไทยพุทธกว่า 200 คน ยื่นหนังสือถึงผู้ว่าฯยะลา ส่งต่อ รมว.ยุติธรรม ไม่เห็นด้วยกับยกเลิก พรก.ฉุกเฉิน จชต.