โดย.โชคชัย วงษ์ตานี..
อะไรที่เราไม่เคยเจอในชีวิต ก็ต้องพร้อมที่จะเจอในช่วงเวลานี้หรือนับจากนี้ MashaAllah
ที่มาเลเซีย :
วันนี้ คุตบะฮวันศุกร์ใช้เวลาให้หลักคำสอนและข้อชี้แนะไม่ถึง 5 นาที(ไม่รวมดุอาร์) คอเต็บบรรยายว่า หลังจากปัญหาความอ่อนไหวในทางการเมือง การจัดตั้งรัฐบาลผ่านเข้าสู่ภาวะปกติ สิ่งที่เราต้องเผชิญต่อไป คือ การเผชิญหน้ากับโรคระบาดที่มนุษยชาติกำลังประสบ โดยทิ้งท้ายประมาณว่า ขอให้มุสลิมทุกคนรักษาความสะอาด ไม่อยู่ในที่ชุมนุมที่มีความเสี่ยง และขอดุอาร์จากพระเจ้าให้เรารอดปลอดภัยจากโรคระบาดในครั้งนี้ หลังจากนั้นอ่านคุตบะฮที่สองแล้ว ละหมาดเลย
– นับเป็นคุตบะฮและการละหมาดวันศุกร์ที่ใช้เวลาน้อยที่สุดเท่าที่ข้าพเจ้าเคยพบมา
ที่สิงคโปร์ :
เมื่อวานมีประกาศจาก MAJLIS UGAMA ISLAM SINGAPURA หรือ Muis หน่วยงานหลักในด้านการบริหารกิจการอิสลามของประเทศ สรุปความได้ว่า
“ได้มีการสั่งปิดมัสยิดชั่วคราวและการหยุดกิจกรรมทางศาสนา(บางกิจกรรมและบางที่)เพื่อป้องกันปัญหาที่เกิดขึ้นมากให้ที่สุด”
จากปลายเดือนที่แล้วจนถึงต้นเดือนที่ผ่านมา มีชาวสิงคโปร์กว่า 90 คน ได้เข้าร่วมกิจกรรมและเดินทางกลับมาจาก KL ถูกตรวจสอบว่าเป็นกลุ่มบวกสำหรับการเสี่ยงติดเชื้อ COVID-19 ทาง Muis ได้รับข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข (MOH) ว่ามีคนสิงคโปร์ที่เข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าวได้รับการตรวจเช็คและได้รับการทดสอบในเชิงบวก
Muis กำลังทำงานอย่างใกล้ชิดกับ MOH เพื่อช่วยเหลือในการติดตามและติดต่อผู้ที่ผ่านการตรวจเช็คดังกล่าวที่ถูกระบุเพื่อให้คำแนะนำและให้การติดตามเท่าที่จำเป็น
Muis เข้าใจว่าบุคคลเหล่านี้เป็นผู้ร่วมละหมาดประจำมัสยิดในท้องถิ่นหลายแห่ง และมีแนวโน้มที่จะแวะเวียนมามัสยิดต่างๆเหล่านี้ นับตั้งแต่กลับมาจาก KL ดังนั้นเพื่อป้องกันไม่ให้กลุ่มเสี่ยง COVID-19 เกิดการกระจัดกระจายไปในมัสยิดอื่นๆ Muis จะดำเนินการตามขั้นตอนต่อไปนี้:
– ตั้งแต่เวลา 13.00 น.ของวันที่ 12 มีค.Muir จะสั่งปิดมัสยิดสี่แห่ง – มัสยิด Muttaqin, มัสยิด Kassim, มัสยิด Hajjah Fatimah และมัสยิด Jamae Chulia จากการตรวจสอบของ Muis มัสยิดเหล่านี้เป็นมัสยิดที่มีผู้มีความเสี่ยงได้มาใช้ละหมาด
– วันที่ 13 มีค. นี้ มัสยิดทั้งหมดจะถูกปิดอย่างน้อย 5 วันสำหรับการฆ่าเชื้อโรค
-มัสยิดจะยกเลิกกิจกรรมการบรรยายธรรมและชั้นเรียนทางศาสนาและการศึกษาสำหรับเด็กอนุบาลตามมัสยิดเป็นเวลา 2 สัปดาห์ (13 มีนาคม ถึง 27 มีนาคม)
-กิจกรรมของชุมชน เช่นการมาร่วมกันละหมาด (ทุกวันและวันศุกร์) อาจเป็นการชุมนุมที่เป็นการส่งผ่านของไวรัสโดยเปิดเผย นำสู่การติดเชื้อของบุคคลได้
-คณะกรรมการ Fatwa ได้เผยแพร่ fatwa เกี่ยวกับการอนุญาตให้ปิดมัสยิดและระงับการชุมนุมเพื่อการละหมาดในวันศุกร์ ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็น เพื่อประโยชน์ด้านสุขภาพและความปลอดภัยของประชาชน
-องค์กรระหว่างประเทศหลายแห่งที่เกี่ยวข้องกับ COVID-19 บวกกับการเห็นพ้องร่วมกันของมุสลิมและคณะกรรมการ Fatwa ระบุว่า การละหมาดวันศุกร์ที่มัสยิดทุกแห่งในวันที่ 13 มีนาคม 2563 จะถูกระงับ ชาวมุสลิมควรละหมาดเที่ยง (Zuhur) แทนการละหมาดในที่ที่รวมคนจำนวนมาก
-ข้อความเทศนา/คุตบะฮในวันศุกร์จะถูกเผยแพร่ทางออนไลน์แทนการเทศนาที่มัสยิด เพื่อให้แน่ใจว่าชุมชนมุสลิมยังคงได้รับคำแนะนำทางศาสนาและการเตือน แม้ว่ามัสยิดจะถูกปิดชั่วคราวก็ตาม
-Muis เน้นว่าสิ่งเหล่านี้เป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อลดการแพร่กระจายของ COVID-19 ในมัสยิดของเราในเชิงรุก Muis ยังคงติดตามสถานการณ์และจะอัปเดตข้อมูลสถานการณ์ของชุมชนให้รับทราบ Muis แสวงหาการสนับสนุนและความเข้าใจของชุมชนมุสลิม
-สำหรับมาตรการที่นำมาปกครองเพื่อปกป้องสุขภาพของประชาชนและความเป็นอยู่ที่ดีของชุมชนทั้งหมดในสิงคโปร์ เป็นส่วนหนึ่งของความรับผิดชอบทางศาสนาและสังคมของเรา ที่เราจำเป็นจะทำเช่นนั้น
-Muis แนะนำให้ชุมชนรักษาแนวปฏิบัติที่ดีที่สุดในด้านสุขอนามัยและพฤติกรรมที่รับผิดชอบต่อสังคมในช่วงเวลานี้และหลีกเลี่ยงการจับมือกันทางกายภาพ เราควรจะยังคงมีความยืดหยุ่นทางจิตวิญญาณและสนับสนุนซึ่งกันและกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่อ่อนแอในชุมชนของเรา
………….
นับจากนี้ เราจะสลามกัน จะกอดกัน ถูกเนื้อต้องตัวกัน จะร่วมนั่งฟังการบรรยายธรรมทางศาสนา จะนั่งเรียนกันร่วมกับคนจำนวนมาก และจะรวมกันประกอบอิบาดัตที่มัสยิดและที่อื่นๆ เป็นสภาวะที่ต้องระวัง และไม่สามารถทำได้อย่างปกติที่เราเคยใช้ชีวิตในแบบเดิมๆ
วัลลอฮูอะลัม
ขอดุอาร์จากอัลลอฮทรงประทานความเมตตาและทรงคุ้มครองทุกท่านให้รอดพ้นจากบททดสอบ مصيب ที่เราต้องเผชิญร่วมกัน ด้วยความอดทน/ صبر และไม่สิ้นหวังต่อความเมตตาของพระองค์ อามีน
1,279 total views, 2 views today
More Stories
ด่วน ! INC ออกแถลงการณ์ ต่อรัฐบาล ยกเลิกใช้ พรก.ฉุกเฉิน จังหวัดชายแดนภาคใต้ หนุนพูดคุยโต๊ะเจรจาสันติภาพ (มีคลิปแถลง)
แม่ทัพภาคที่ 4 พบปะผู้บริหารทางการศึกษาเอกชน,ผู้บริหารมูลนิธิตาดีกา แดนใต้ ร่วมหารือแก้ปัญหาพื้นที่เพื่อสันติสุข เน้นย้ำ ใกล้ถึงถึงเดือนศิลอด ขอทุกฝ่ายจับมือ “รอมฎอนสันติ” ไม่เกิดเหตุรุนแรง เดือนอันประเสริฐ
กลุ่มพลังมวลชน ผู้นำศาสนา นักเรียน นักศึกษา รวมกว่า 500 คน ”รวมพลังต่อต้านความรุนแรง” ทุกรูปแบบ หน้าแฟลตตำรวจนราธิวาสจุดเกิดเหตุบอมบ์