เลขาธิการ ศอ.บต.เสนอแผนในการพัฒนาสนามบินนราธิวาส และสนามบินเบตง จ.ยะลา ให้เป็นสนามบินนานาชาติ เปิดมิติของการท่องเที่ยว และการค้าชายแดน ตามนโยบายสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน

แชร์เลย

ทีมข่าว SPMC รายงาน..

พล.ร.ต.สมเกียรติ ผลประยูร เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ เปิดเผยว่า ได้มีแผนในการพัฒนาสนามบินนราธิวาส และสนามบินเบตง จ.ยะลา ให้เป็นสนามบินนานาชาติ เพราะปัจจุบันสนามบินนานาชาติมีแห่งเดียวที่ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ซึ่งผู้ที่อาศัยอยู่ใน จ.ยะลา และ นราธิวาส ต้องเสียเวลาเดินทางไปยังสนามบินหาดใหญ่ใช้เวลาค่อนวัน ต้องเสียเวลาและค่าใช้จ่ายที่มากขึ้นกว่าการเดินทางไปใช้สนามบินที่นราธิวาส ซึ่งหากปรับปรุงแล้วเสร็จ และมีการเพิ่มเที่ยวบิน ก็จะอำนวยความสะดวกให้กับประชาชนในพื้นที่ 3 จังหวัดมากขึ้น และสร้างมูลค่ากับการค้าชายแดน และธุรกิจการเดินทางการท่องเที่ยวเติบโตขึ้นด้วย ขณะนี้ถนนที่ใช้สัญจรไปยังสนามบินนราธิวาส อยู่ระหว่างการขยายเป็น 4 ช่องจราจร ซึ่งจะแล้วเสร็จในอีก 1 ปีข้างหน้า ถ้าถนนสายนี้ปรับปรุงแล้วเสร็จ จะทำให้การเดินทางของประชาชนใน อ.รามัน จ.ยะลา และ อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส ใช้เวลาเพียง 50 นาที และ 30 นาทีตามลำดับ ซึ่งจะเกิดความสะดวกในการเดินทาง จะทำให้มีการใช้สนามบินมากขึ้นอย่างแน่นอน ปัจจุบันเครื่องบินจากสนามบินนราธิวาส สามารถบินตรงไปยังกรุงมาดีนะ ประเทศซาอุดีอาระเบีย เพื่อไปส่งผู้แสวงบุญที่เดินทางไปนครเมกกะ ซึ่งหากมีการออกแบบปรับปรุงให้เป็นไปตามแผนที่วางไว้ ในปี 2564 สนามบินแห่งนี้จะยกฐานะเป็นสนามบินนานาชาติ การเดินทางของผู้แสวงบุญไปยังประเทศซาอุดีอาระเบีย ก็จะเป็นไปด้วยความสะดวกขึ้นด้วย

เลขาธิการศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ กล่าวอีกว่า ในส่วนของสนามบินเบตง ทางวิ่ง ทางขับ ลานจอดอากาศยาน ทางเข้าออกเครื่องบิน อาคารผู้โดยสาร สร้างเสร็จแล้ว ขณะนี้ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างหอบังคับการบิน รวมทั้งถนนจากสนามบินเข้าสู่ตัวเมืองอีก 10 กว่ากิโลเมตร ซึ่งเป็นเส้นทาง 2 เลน ก็จะมีการปรับให้กว้างขึ้นกว่าเดิม เพื่อความปลอดภัยและความสะดวกในการเดินทาง ซึ่งคาดว่าในเพือนมิถุนายน 2563 สนามบินเบตงจะให้บริการกับผู้โดยสาร และนักท่องเที่ยว เพื่อความสะดวก ซึ่งเชื่อว่านอกจากนักธุรกิจ นักท่องเที่ยวชาวไทยแล้ว ยังมีชาวมาเลเซียในรัฐที่อยู่ติดกับ อ.เบตง มาใช้บริการในการเดินทางเข้า กทม.ด้วย. โดยขณะนี้ อ.เบตง มีความเจริญเติบโตอย่างมาก จำนวนนักท่องเที่ยวจากปี 2561 เมื่อเทียบกับปี 2562 เพิ่มขึ้นกว่า 1 เท่าตัว สถานที่ท่องเที่ยวอย่างทะเลหมอกอัยเยอร์เวง บ่อน้ำร้อน สวนดอกไม้เมืองหนาว และอื่น ๆ มีนักท่องเที่ยวให้ความสนใจเดินทางมาเยือน ทำให้เกิดอาชีพใหม่ ๆ ขึ้นในพื้นที่ เช่น รถตู้ รถมินิบัส โฮมสเตย์ ร้านอาหาร ผลไม้ และอื่น ๆ ซึ่งเป็นการสร้างเศรษฐกิจในชุมชน เกิดการสร้างงานในชุมชน และสร้างคุณภาพชีวิต การอยู่ดีกินดีที่กระจายไปยังทุกชุมชนที่มีการท่องเที่ยว. และเชื่อว่า หลังจากที่สนามบินเบตงเปิดใช้ การเติบโตของ อ.เบตง จะเพิ่มขึ้นอย่างมาก เพราะวันนี้ขนาดการเดินทางมาเบตง ใช้เวลานาน ยังมีนักท่องเที่ยวชาวไทย และต่างประเทศเช่น มาเลเซีย–สิงคโปร์ อินโดนีเซีย เดินทางมาเยือนเบตง ค่อนข้างมาก ถ้าเปิดใช้สนามบินเมื่อไหร่ และผลักดันให้เป็น สนามบินนานาชาติ จะเป็นการเปิดเมืองเบตงในมิติของการท่องเที่ยว และการค้าชายแดน ซึ่งเป็นไปตามนโยบายสามเหลี่ยม มั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นเมืองต้นแบบการพัฒนาเพื่อพึ่งพาตนเองอย่างยั่งยืน