พฤษภาคม 2, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

การวิเคราะห์ 7 ข้อผลการประชุมกัวลาลัมเปอร์ซัมมิต 2019​ ครั้งที่1​ ใช่เป็นการรัฐประหารในองค์กร OIC หรือไม่

แชร์เลย

อับดุลเลาะ เบญญากาจ  รายงาน..

(22ธค.62)​ผู้สื่อข่าวรายงานผลการประชุมกัวลาลัมเปอร์ซัมมิต 2019​ครั้งที่1​จากผู้นำประเทศมุสลิมทั่วโลก​เพื่อสร้างสัมพันธ์และร่วมถกปัญหาประชาชาติมุสลิมทั่วโลกที่นับวันยิ่งมีความรุนแรง​จนเกิดการอพยพอาศัยไปยังประเทศที่ไม่ใช่ประเทศมุสลิมเป็นจำนวนมาก​จะเห็นได้ว่าคำกล่าวรายงานของ ดร​มหาเธร์​ มุฮัมมัด​ ประธานการประชุมได้กล่าว 🇲🇾 #เกาะติดกัวลาลัมเปอร์ซัมมิต_2019

คำกล่าวในพิธีเปิดประชุม KlSummit 2019 ของนายแพทย์มหาธีร์ มุฮัมมัด ประธานการประชุม

นายแพทย์มหาธีร์ มุฮัมมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวในพิธีเปิด KlSummit 2019 ที่มาเลเซียเป็นเจ้าภาพวานนี้ 19 ธันวาคม 2519 ว่า โลกมุสลิมอ่อนแอเกินไปจนไม่สามารถที่จะปกป้องประชาชาติอิสลามได้ และว่าเราไม่ได้มีเจตนาจะทอดทิ้งใครไว้ข้างหลัง เพียงแต่ในขั้นต้นต้องการเริ่มแบบเล็กๆก่อนเท่านั้น

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวอีกว่า การประชุมครั้งนี้ต้องการพิจารณาเกี่ยวกับสถานการณ์ของประชาชาติอิสลามในปัจจุบัน ไม่ใช่มาโต้แย้งเรื่องหลักการศาสนา

นายแพทย์มหาธีร์ มุฮัมมัด ย้ำว่า เราทั้งหลายต่างรู้ดีว่าเรามุสลิมประสบกับวิกฤติ ชาวมุสลิมต้องทิ้งบ้านเกิดเมืองนอนเพื่อไปยังประเทศที่ไม่ได้นับถือศาสนาอิสลาม

นอกจากนั้น โลกมุสลิมยังประสบกับปัญหาภายใน มีการกดขี่ข่มเหงต่อมุสลิมด้วยกัน ในการประชุมคราวนี้เราต้องการที่จะสร้างความชัดเจนว่าปัญหาต่างๆเหล่านี้เกิดขึ้นได้อย่างไร เราจะรับมือกับสงครามภายในนี้ได้อย่างไร ? จะรับมือกับวิกฤติและเยียวยาแก้ไขให้ดีขึ้นได้อย่างไร? จะรักษาชื่อเสียงเกียรติยศศาสนาของเราได้อย่างไร ? นายแพทย์มหาธีร์ มุฮัมมัด กล่าว

ไม่มีประเทศมุสลิมแม้แต่ประเทศเดียวที่เป็นประเทศเจริญแล้ว แม้ว่าจะมีทรัพยากรธรรมชาติมหาศาล แต่ก็ยังเป็นประเทศกำลังพัฒนา นายแพทย์มหาธีร์ มุฮัมมัดกล่าว

และว่า น่าเสียใจอย่างยิ่ง ที่ประเทศเหล่านี้ต่างอ่อนแอไม่สามารถปกป้องรักษาประชาชาติอิสลามได้

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียยังกล่าวว่า ปัจจุบันนี้อิสลามถูกมองว่าเท่ากับการก่อการร้าย

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียยังกล่าวว่า ในอดีต มุสลิมได้สถาปนาอารยธรรมที่มีความเจริญก้าวหน้า และเผยแพร่ศาสนาอิสลามไปทั่วโลก แต่วันนี้ โลกไม่ได้ยกย่องให้เกียรติเรา เพราะเราไม่ใช่เป็นผู้ส่งออกวิชาความรู้เหมือนในอดีต เราไม่มีบทบาทในอารยธรรมโลกปัจจุบัน

นายกรัฐมนตรีมาเลเซียกล่าวว่า การเสื่อมถอยของอารยธรรมอิสลามเริ่มต้นในราวกลางคริสต์ศตวรรษที่ 15 ในช่วงเวลานั้น สังคมมุสลิมต่างปฏิเสธที่จะเรียนวิชาความรู้ใดๆ นอกจากความรู้เกี่ยวกับศาสนาอิสลาม ทำให้นักวิชาการในยุคนั้นมัวแต่โต้แย้งเกี่ยวกับหลักการศาสนาที่มีความเห็นแตกต่างกัน กลายเป็นกลุ่มเป็นพวก จนกลายเป็นสงครามทางความคิด

นายแพทย์มหาธีร์ มุฮัมมัด กล่าวอีกว่า ในอัลกุรอาน อัลเลาะห์บอกว่าจะช่วยมุสลิม ต่อเมื่อมุสลิมทุ่มเทความพยายาม ไม่ใช่ก่อนหน้านั้น

และย้ำว่า นวัตกรรมใหม่ๆ ในรอบ 100 ปีนี้ไม่มีสิ่งใดที่นำเสนอคิดค้นโดยมุสลิม. เครื่องมือเครื่องใช้ที่เราใช้อยู่ในตอนนี้ทั้งหมดล้วนคิดค้นโดยผู้อื่น ซึ่งหมายความว่า เราต้องพึ่งพิงประเทศที่สามารถใช้ความรู้ความสามารถในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆและการพัฒนา
ทั้งที่เราทราบว่า บางๆ ประเทศล่มสลายหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ก็สามารถกลับมายืนได้อีกครั้งและพัฒนาตัวเอง ในขณะที่ประเทศมุสลิมส่วนใหญ่ไม่มีความสามารถแม้แต่ในด้านบริหาร อย่าว่าแต่ด้านการพัฒนา

นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวว่า นี้เป็นสิ่งที่ศาสนาของเราสอนหรือ? อิสลามคือต้นเหตุที่ทำให้เราเป็นแบบนี้หรือ ?

นายแพทย์มหาธีร์ มุฮัมมัด นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย กล่าวย้ำว่า นี่คือสิ่งที่เราจะมาแลกเปลี่ยนความเห็นกันในการประชุมครั้งนี้ เพื่อนำข้อเสนอแนะที่เห็นพ้องต้องกันนำไปสู่การปฏิบัติให้เห็นเป็นรูปธรรม สู่การริเริ่มที่ยิ่งใหญ่มากกว่าต่อไป

1. OIC คือสันนิบาตประเทศอิสลามเป็น 1 ใน3องค์กรอิสลามระดับโลก
2.OIC เป็นศูนย์รวมประเทศอิสลามของโลกทั้ง 3 นิกายคือสุหนี่ ชีอะและวาฮาบี แต่ในความเป็นจริงตลอดมานั้นซาอุมีบทบาทนำ และมีฐานะเป็นศูนย์กลางของวาฮาบี
3. หลังจากอียิปต์ซึ่งเป็นศูนย์กลางของสุหนี่อ่อนแอลงหลังแพ้สงคราม 6 วัน ซาอุก็มีบทบาทนำใน oicอย่างเด็ดขาด
4. ล่าสุดตุรกี ปากีสถานและมาเลเซียจับมือกันเพื่อเป็นศูนย์กลางการนำของของสุหนี่
5.เนื่องจากระยะที่ผ่านมาบทบาทของอิหร่านในโลกอิสลามสูงขึ้น ได้รับการยอมรับมากขึ้น ในขณะที่ซาอุ ถูกมองว่าเดินตามหลังสหรัฐ ไม่เป็นประโยชน์ต่ออิสลามอย่างแท้จริง จึงเกิดการแย่งชิงกันนำขึ้นใน OIC โดยพันธมิตรตุรกีปากีสถานและมาเลเซีย จะเป็นศูนย์การนำแทน
6.มีการจัดประชุมผู้นำสูงสุด ของทุกประเทศอิสลาม ของ OIC ขึ้นที่มาเลเซีย ซึ่งซาอุคิดว่า จะมีการหักหน้าซาอุฯในที่ประชุม เพื่อแย่งชิงกันนำ ดังนั้นซาอุฯจึงขัดขวางไม่ให้มีการประชุม และล็อบบี้จนปากีสถานถอนตัวไม่เข้าร่วมประชุม และได้ข่มขู่มาเลเซียให้ยกเลิกการจัดประชุมถึงขั้นทะเลาะกันอย่างรุนแรง แต่มาเลเซียไม่ยอมยกเลิก เดินหน้าจัดประชุมจนแล้วเสร็จเมื่อวานนี้
7. ผลการประชุมก็คือ OIC จะเป็นศูนย์กลางของประเทศอิสลามเพื่ออิสลามไม่ใช่เพื่อ ประเทศมหาอำนาจอื่น สรุปก็คือ ตุรกีอิหร่านและมาเลเซีย จะกลายเป็นศูนย์กลางการนำ ของ OIC และนี่ก็คือการพ่ายแพ้ ในการดำเนินนโยบายต่างประเทศของซาอุในโลกอิสลามครั้งสำคัญที่สุด
ในโอกาศนี้​รศ​ดร.อิสมาอีล​ลุตฟี จะปะกียา​ อธิการบดีมหาวิทยาลัยฟาฏอนีได้รับโอกาสเชิญร่วมประชุมในฐานะแขกผู้ทรงเกียตรนักวิชาการ​จึงเป็นที่น่าชื่นชมในฐานะคนไทยคนหนึ่งที่ได้รับการยอมรับของผู้นำมุสลิมโลก

////////////////////////////////////////

 1,470 total views,  2 views today

You may have missed