เมษายน 25, 2024

spmc สื่อเพื่อสันติ สรรค์สร้างสังคม

ควันหลงหลังบอลไทยแพ้มาเลเซียจากเเฟนบอลชาวใต้

แชร์เลย
อุสตาซอับดุชชะกูร บินชาฟิอีย์ (อับดุลสุโก ดินอะ)
(14 พฤศจิกายน 2562)  เป็นอีกวันหนึ่งที่วงการฟุตบอลไทยต้องจารึกเป็นประวัติศาสตร์ว่าบอลไทยแพ้มาเลเซีย1-2 ที่สนามบูกิต ยาลีล ประเทศมาเลเซียซึ่งไทยก็ไม่เคยมาชนะสนามนี้เลยสักครั้ง
ในวันดังกล่าวบรรยากาศก่อนเเข่งหน้าสนามคึกคักมากซึ่งความเป็นจริงก่อนหน้านี้หนึ่งอาทิตย์สื่อไทยเกือบทุกช่อง และสื่อออนไลน์เกาะติดบอลคู่นี้มาตลอด
สำหรับแฟนฟุตบอลชาวใต้แล้วอาจจะโชคดีกว่าพี่น้องชาวไทยจากภูมิภาคอื่นๆเพราะพวกเขา(ที่ชอบฟุตบอลเป็นชีวิตจิตวิญญาณ)มีโอกาสเดินทางไปดูถึงขอบสนามหลายช่องทาง ไม่ว่ารถยนต์ส่วนตัว รถตู้(เหมา)รถยนต์รับจ้าง รถประจำทาง เเละเครื่องบิน สำหรับรถยนต์นั้นทั้งส่วนตัวเเละเหมารถตู้ไปเขาจะใช้เส้นทางด่านสะเดา ด่านปาดังเบซาร์ ด่านประกอบนาทวี จังหวัดสงขลา ด่านเบตง จังหวัดยะลา ด่านสุไหงโกลก ด่านตากใบจังหวัดนราธิวาสและด่านวังประจันจังหวัดสตูล สำหรับรถประจำทางถ้าไม่ใช่มาจากหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา พวกเขาจะขึ้นรถประจำทางที่สถานีขนส่ง Changloon ชายแดนสะเดา หรือสถานีขนส่งKuatabaru ชายแดนประเทศไทยกับรัฐเคดาห์และกลันตันมาเลเซีย ไปกัวลาลัมเปอร์ ตามลำดับ ในขณะที่บางคน บางกลุ่มแฟนบอล จะขึ้นรถไฟความเร็วสูงที่ปาดังเบซาร์ อำเภอสะเดาไปกัวลาลัมเปอร์ แต่ก็มีไม่น้อยควักเงิน.ื้อตั๋วเครื่องบินสามเส้นทาง หาดใหญ่ -กัวลาลัมเปอร์ Alorstar ,Kedah Malaysia หรือ Kuatabaru Kelantan บินตรงไปกัวลาลัมเปอร์ (สายการบินภายในประเทศมาเลเซียซึ่งจะราคาถูกกว่า)
สำหรับ ญาติๆ เพื่อนผู้เขียนชาวจะนะ กว่าร้อยชีวิต ก็เหมารถตู้ กับขับรถส่วนตัว ขับจากจะนะ ถึงด่านสะเดา ประมาณ 100 กิโลเมตร เมื่อผ่านด่าน Bukit Kayu Hitam ,Kedah ,Malaysia ก็ขับตามถนนไฮเวย์ซึ่งมาตรฐานมากๆกว่า 450 กิโลเมตร ก็ถึงสนามแข่งขันบูกิต ยาลีล โดยใช้เวลา ไม่เกิน 7-8 ชั่วโมง ซึ่งถ้าออกจากบ้านประมาณตี2-3 ก็ทันเพราะก่อนหน้านี้พวกเขาก็ซื้อตั๋วออนไลน์เรียบร้อย
กล่าวโดยสรุปแฟนฟุตบอลชาวไทยประมาณ 3 พันกว่าคน 2 พันคนน่าจะมาจากภาคใต้ของไทยจากหลากหลายเส้นทางที่กล่าวมาข้างต้น โดยที่เหลือจะมาจากนักศึกษาไทยที่เรียนที่มาเลเซีย คนงานไทยที่ทำงานที่มาเลเซีย และแฟนฟุตบอลขาประจำจากส่วนกลางกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
นายสมาน ฟุตบอล แฟนฟุตบอลชาวจะนะ ที่อุตส่าห์เหมารถจากจะนะจังหวัดสงขลา กล่าวกับผู้เขียนหลังจบเกมส์การแข่งขันว่า “ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรกที่มาเชียร์ทีมชาติไทยถึงสนามบูกิต ยาลีลโดยหวังลึกๆว่า ภายใต้การนำของโค้ชอาชิโน๊ะว่าจะควำ้มาเลเซียถึงถิ่นเป็นครั้งแรก พอเห็นชนาธิปยิงเข้าตาข่ายมาเลเซียภายใน7นาทียิ่งมั่นใจใหญ่ว่าไทยน่าจะชนะได้แน่แต่พอมาเลเซียตีเสมอได้ภายใน30นาทีจากการพลาดบอลของกองหลังอย่างโด้ “ทริสตองโด” ทั้งที่กองหลังไทยมีสี่คนกองหน้ามาเลเซียยืนอยู่คนเดียว แปเข้าประตูอย่างง่าย หัวใจเริ่มหวั่น และสุดท้ายกองหลังก็พลาดอีก เพียงเริ่มต้นเวลาในครึ่งหลังไม่กี่นาที โดนยิงนำเป็น2-1 หลังจากนั้นทีมชาติไทยก็ยังเล่นไม่ดี คนที่น่าจะถอดออกมากที่สุดคือโด้แต่โค้ชกลับถอดออกก่อนหมดเวลาไม่ถึง 5 นาทีจะทำอะไรได้ อย่างไรก็แล้วแต่ผมและพรรคพวกก็ยังเชียร์ไทยอยู่และเป็นกำลังใจกับนักฟุตบอลทุกคน ทีมงานทุกท่านให้ไปถอดบทเรียนครั้งนี้นำไปแก้ไข โดยเฉพาะกับนัดพบกับเวียดนาม(หมายเหตุเขียนรายงานเรื่องนี้ก่อนทีมชาติไทยไทยแข่งกับเวียดนาม) ให้คิดนัดต่อนัด เเล้วมันจะดีเองและหวังว่า(ลึกๆแม้จะหวั่นอยู่)ไทยจะได้เข้ารอบไม่ว่าแชมป์กลุ่มหรือที่สองที่มีคะเเนนดี1/4”
อับดุลเลาะ สาอุ รองนายกองค์บริหารส่วนตำบลตลิ่งชัน อำเภอจะนะ จังหวัดสงขลาที่เหมารถไปชมแมทช์นี้ด้วยให้ทัศนะที่สอดคล้องกับคอบอลไทยว่า “นิชิโนะพลาดที่เปลี่ยนกองหลังมากเกินไปถึงสามตำแหน่ง”
เมื่อทีมชาติไทยชนะยูเออีนัดที่ผ่านมาคนที่ได้รับการยกย่องมากที่สุดคือโค้ชซามุไร “นิชิโนะ”ดังนั้นในนัดนี้เขาต้องรับผิดชอบเต็มแม้ปัจจัยครั้งนี้ที่เเพ้มีหลายประการ โดยเฉพาะการวางแผนที่ดีของโค้ชมาเลเซีย ที่ประกบติด ชนาธิปให้เล่นไม่ออก กองกลางอย่างสหรัฐทำเกมส์ไม่ได้กองหลังไทยช้ากองหน้ามาเลเซียถึงแม้เล็กแต่เร็วและคล่องแม้เเต่เรื่องเล็กๆน้อยๆเสื้อนักเตะมาเลเซียทุกคนไม่ปักชื่อซึ่งอายทำให้ฝังไทยจำพวกเขาไม่ได้
อย่างไรก็แล้วแต่แฟนบอลชาวไทยร่วมเก็บขยะที่สนามหลังแข่งขันซึ่งเป็นภาพที่ถูกแชร์และสื่อมาเลเซียนำไปลงจนทำให้ภาพลักษณ์ไทยดีในสายตาชาวมาเลเซีย
//////////////////////////

 886 total views,  2 views today

You may have missed