(24 มกราคม พ.ศ. 2561) ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า การติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุความไม่สงบกรณีคนร้ายก่อเหตุวางเพลิง เผารถยนต์โดยสารปรับอากาศของ บริษัท สยามเดินรถสาย (เบตง– กรุงเทพฯ) เหตุเกิดเมื่อ เวลา 14.20 น.17 ธ.ค. 60 ที่ผ่านมา บริเวณบ้านกาโสด ม. 5 ตำบลและอำเภอบันนังสตา จ.ยะลา ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องระดมสนธิกำลังเข้าปิดล้อมพื้นที่ดังกล่าวจำนวนหลายร้อยนาย เพื่อติดตามไล่ล่าคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดี
ซึ่งล่าสุด นายมายิ สามะแอ ผู้ใหญ่บ้านกาโสด ม.5 ต.บันนังสตา อ.บันนังสตา จ.ยะลา ให้เผยข้อมูลกับสื่อว่า ชาวบ้านในหลายหมู่บ้านของตำบลบันนังสตา จ.ยะลา ตกเป็นเป็นผู้ต้องสงสัยมีส่วนเกี่ยวข้องกับการก่อเหตุเผารถบัสดังกล่าวและถูกเจ้าหน้าที่เชิญตัวไปแล้วในฐานะผู้ต้องสงสัย จำนวน 42 คน ที่ยังอยู่ในการควบคุมของเจ้าหน้าที่ บางคนได้มีพยานยืนยันความบริสุทธิ์ ไม่ว่านายก อบต. กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และผู้นำศาสนา แต่กลับไม่ได้รับความเห็นใจ และทำเป็นไม่รู้ ไม่ชี้ อ้างเป็นคำสั่งของแม่ทัพ ยังเดียว จึงทำให้ทุกวันนี้ภาพลักษณ์ของเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจในพื้นที่นั้นเสียหายเป็นอย่างมาก ชาวบ้านเริ่มไม่เชื่อมั่น หวาดระแวง เห็นรถเจ้าหน้าที่เข้าออกในหมู่บ้านต่างตกใจ ไม่กล้าออกนอกบ้าน อาจนำสู่การไม่ให้ความร่วมมือในอนาคตได้ เท่ากับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่กลับมาอยู่ที่เดิม
“สิ่งเหล่านั้นที่เกิดขึ้น มันจึงทำให้เกิดผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของเจ้า หน้าที่ทีอยู่ในพื้นที่ ทหารมาบอกว่าผู้ใหญ่ช่วยสร้างความเข้าใจกับชาวบ้านด้วย บางคนที่เข้าใจก็เข้าเข้าใจ ส่วนบางคนที่ไม่เข้าใจเราก็ต้องพยายามช่วยทำให้เขาเข้าใจต่อไป”
จริงๆชาวบ้านที่เจ้าหน้าที่สงสัยนั้นน่าจะเชิญตัวไปดีๆก็ได้ชาวบ้านรู้เรื่องเขาไม่ทำอะไรเขาไม่หนีหรอกแต่นี่มาใช้กองกำลังเจ้าหน้าที่เป็น 100 นาย ถืออาวุธหนักครบมือ เหมือนจะออกไปรบ บางจุดมากกว่านั้น ชาวบ้านก็ตกใจเขาเลยกลัว เห็นเจ้าหน้าที่ก็ผวา ไม่กล้าไปทำงาน กลัวว่าจะถูกจับเพราะเห็นอยู่คนที่ไม่ได้ทำผิดอะไรก็ถูกจับ ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยใช้เวลานานมาก เจ้าหน้าที่หน่วยอื่นมาแค่ไม่กี่ชั่วโมงภาพดีๆที่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่ทำเสียหายไปหมด “ก็ไม่รู้ว่าจะต้องใช้เวลานานแค่ไหนกว่าชาวบ้านจะเข้าใจแล้วกลับมาให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่เหมือนเดิมอีก”
จากการพูดคุยกับชาวบ้านเมื่อคืน ข้อมูลล่าสุด ชาวบ้านที่นี้ถูกควบคุมตัว 42คน จากในพื้นที่บ้านบือซู บ้านสนามบิน บ้านมือเจาะ บ้านบันนังกูแว บ้านเจาะบันตัน และบ้านกูแด เป็นลูกบ้านของ ผู้ใหญ่เอง 12 คน ปล่อยตัวออกมาแล้ว 8คน ยังถูกควบคุมตัวอีก 4 คน คือ นายมูฮำมัด ยาโฮะ นายมะรูดิง อีแต ถูกควบคุมอยู่ที่ศูนย์ปฏิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ และ นายมะรอพี ตาแยะ นายบูคอรี กูโน ถูกควบคุมตัวอยู่ที่ค่ายวังพญา หน่วยเฉพาะกิจ 41 ต.พิเทน อ.รามัน จ.ยะลา และ ในจำนวน 4คนนี้ เจ้าหน้าที่ทหาร ในพื้นที่บอกว่า 3 คน คือ นายมะรูดิง อีแต นายมะรอพี ตาแยะ นายบูคอรี กูโน ให้การรับสารภาพ “ในจำนวน 4 คนนี้ ผมและชาวบ้านที่นี้ กล้ายืนยันได้ว่า นายมูฮำมัด ยาโฮะ เป็นคนดีไม่มีอะไร ทหารที่ ฉก.ในพื้นที่บอกว่า 3 คนที่ให้การสารภาพส่วน นายมูฮำมัด ยาโฮะ เดียวก็ได้กลับบ้านซึ่งเมื่อไหร่ก็ยังไม่รู้แต่พาไป ตั้งแต่ วันที่ 29 ธันวาคมแล้ว วันนี้ยังอยู่ที่ศูนย์ควบคุมของตำรวจ” ผมยืนยันกับเจ้าหน้าที่ตั้งแต่วันแรก ที่มีรายชื่อมาแล้วว่านายมูฮำมัด ยาโฮะไม่มีอะไร จากนั้น ก็ไปถามเจ้าตัวและครอบครัวแบบเปิดใจ เลย ถามตรงๆ ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องไม เข้าร่วมกับกลุ่มเหล่านี้ไม เคยเผายางไม คำตอบที่ได้เขายืนยันว่าเขาไม่เกี่ยวไม่ได้ทำอะไรทั้งนั้น ผมจึงมั่นใจยืนยันกับเจ้าหน้าที่หน่วยเฉพาะกิจในพื้นที่ไปอีก
“ตอนแรกเขาสงสัยเรื่องเงินที่เจอในบ้าน แต่ผมก็บอกไปว่าครอบครัวนี้เป็นครอบครัวมีฐานนะชาวบ้านให้เขาดูแลการเงินของมมัสยิดเขาไม่มีอะไรจริงๆแต่เจ้าหน้าที่ในพื้นที่บอกว่า เขาไม่รู้เรื่องหน่วยจากยะลาที่ยังต้องการสอบเดียวก็ได้กลับ”
ที่ผ่านมา บ้านกาโสกหมู่ 5 ตำบลบันนังสตา อ.บันนังสตา จังหวัดยะลา เคยเกิดเหตุการณ์มาหลายครั้ง มีบ้านแต่ไม่มากที่เจ้าหน้าที่จะเชิญตัวชาวบ้านในพื้นที่ ทุกครั้งที่เชิญตัวไปก็ออกมาแสดงความบริสุทธิ์ทุกครั้ง และ ในจำนวน 14 คน ที่ถูกออกหมายจับหลังเกิดเหตุ ก็ไม่มีชาวบ้านในพื้นที่ หมู่ 5 บ้านกาโสดเลย
“ปัญหาที่นี้ มีชาวบ้านอาศัยอยู่ 2500 คน 450 หลังคาเรือน อาศัยอยู่ในพื้นที่ 7 กิโลเมตร ถือว่ากว้างมากเคยเรียกร้องขอให้หน่วยที่เกี่ยวข้องแยกหมู่ แต่ก็ไม่มีความคืบหน้าอะไร เพราะ ที่นี้มีการอาศัยอยู่ของชาวบ้านเขาจะอยู่เป็นย่อมๆ ไม่กระจุก ยากต่อการดูแลถ้าสามารถแยกออกเป็น 2หมู่ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีสามารถเข้าถึงชาวบ้านได้ดีกว่านี้” หลังเกิดเหตุ มีข่าวว่า ผมจะถูกปลดเพราะ ต้องรับผิดชอบกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น นั้น ความจริงแล้วไม่ได้ถูกปลด ตอนนี้ยังเป็นผู้ใหญ่รับผิดชอบ ชาวบ้านกาโสดอีก
ด้าน นางฮามีดะห์ อาบู แม่ของ นายมูฮำมัด ยาโฮะ ผู้ต้องสงสัยเหตุลอบวางเพลิงรถบัส กล่าวว่า เจ้าหน้าที่มารับลูกชาย เทียงคืนของวันที่ 29 ธันวาคม ตอนเช้าเขาพาลูกชายมาค้นบ้าน หลายชั่วโมงก็ไม่ได้อะไร มีแต่บันทึกของมัสยิดกับเงินที่อยู่ในถุง ซึ่งเป็นของมัสยิด เขาคืนเงินให้แต่ไม่คืนสมุดบันทึกที่เป็นรายรับรายจ่ายของมัสยิดที่ต้องทำจดบันทึกทุกครั้งที่มีเงินเข้าและออกที่เป็นรายรับรายจ่ายของมัสยิด เจ้าหน้าที่ พาไปควบคุมที่ศูนย์ซักถามหนองจิก จ.ปัตตานี วันที่ 4มกราคม ถูกส่งไปยะลาจนถึงตอนนี้ยังอยู่ที่ยะลา อยู่ในความดูแลของตำรวจ “ก็ไม่รู้ทำไม ถึงยังไม่สามารถกลับบ้านได้อีก เราชาวบ้าน ก็ไม่รู้เรื่องอะไร ได้แต่ไปเยี่ยม และละหมาดขอให้เจ้าหน้าที่ปล่อยเขาออกมาเร็วๆ”
ตกใจมากวันที่มีคนมาบอกว่า ลูกชายให้การสารภาพ เจ้าหน้าที่ออกรายชื่อเขาว่ายอมรับและให้การเป็นประโยชน์ จึงให้ญาติถามเจ้าหน้าที่ทหารในพื้นที่ เขาก็บอกว่าลูกชายให้การเป็นประโยชน์ รู้สึกล้มทั้งยืนบอกไม่ถูก เพราะไปถามลูกชายหลายครั้งเขาบอกตลอดว่าไม่ได้ทำ เขาจะยอมรับทำไม “เขาบอกว่า ถ้าจะดูหลักฐานในวันเกิดเหตุเขาไปไหนสามรารถดูจากกล้องวงจรปิด จากบ้านไปถึงโรงพยาบาลยะลาได้เลย เขาไปรับแม่ยายที่โรงพยาบาลยะลา ภาพทุกกล้อง ต้องจับได้ว่าเขาอยู่ที่นั้นเวลาไหนไปดูได้เลย”
ตอนนี้เห็นรถแปลกๆเข้ามาตกใจกลัว ผวาตลอดยิ่งตื้นมาตอนดึกๆถ้าได้ยินเสียงรถก็จะตกใจหัวใจเต้นแรงกลัว ขนาดพูดอยู่ตอนนี้ยังกลัวๆว่าเจ้าหน้าที่จะมาจับไปด้วย ขนาดลูกชายไม่ได้ทำอะไรยังโดนจับไป สงสัยนั้นสงสัยนี้ ก็เลยกลัว คนอื่นๆก็เหมือนกันกลัวกันหมด “เพราะเขาไม่ผิดแต่เจ้าหน้าที่มาสงสัย จะให้เราไม่กลัวได้ยังไง นี้ขนาดพูดให้ข้อมูลยังกลัวไม่รู้ว่า จะมีใครมาเอาตัวไปสอบหรือเปล่า ที่ให้ข้อมูลกับนักข่าวก็อยากขอความเป็นธรรมให้ลูกชายและให้ชาวบ้านที่นี้ด้วย”
——————————————————————————————————-
ปีแอร์ สามะอาลี /ภาพ ข่าว / SPMCNEWS ยะลา
1,004 total views, 2 views today
More Stories
เลขาฯ รมต.ยุติธรรม ชี้ มหกรรมแก้หนี้ ปลดหนี้ สร้างวิถีแห่งความเป็นธรรม แก้ปัญหาหนี้สิน 242 ล้าน
เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเป็นประธานเปิดป้ายอาคารเรียนและอาคารปฏิบัติการ วิทยาลัยการอาชีพเบตง
เทศบาลเมืองปัตตานีจัดกิจกรรมสัปดาห์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ต่อยอดกิจกรรมการเรียนรู้ภายในศูนย์การเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของอุทยานการเรียนรู้ปัตตานี