วชช.ยะลา ประสาทอนุปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา ประจำปีการศึกษา 2561 พร้อม MOU ศึกษาต่อเนื่องกับม.ราชภัฏยะลา

ภาพ-ข่าว นิแอ สามะอาลี / จ.ยะลา

(11 กรกฏาคม 2562) ที่หอประชุมเล็ก มหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา อำเภอเมืองยะลา จังหวัดยะลา ดร.สิริกร มณีรินทร์ นายกสภาสถาบันวิทยาลัยชุมชน เป็นประธานพิธีประสาทอนุปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา วิทยาลัยชุมชนยะลา ประจำปีการศึกษา 2561 โดยนายวรเชษฐ พรมโอภาษ รองผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา ให้เกียรติร่วมงานมีหัวหน้าหน่วยงานราชการ นายกิตติ กิตติโชควัฒนา ประธานสภาวิทยาลัยชุมชนยะลา ผศ.ดร.สมบัติ โยธาทิพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราขภัฎยะลา กรรมการสภาวิทยาลัยชุมชน ผู้อำนวยการวิทยาลัยชุมชน ตลอดจนคณาจารย์ บุคลากร วิทยาลัยชุมชน ศิษย์เก่า และนักศึกษาวิทยาลัยชุมชนยะลา ร่วมต้อนรับ

ก่อนทำพิธีประสาทอนุปริญญาบัตร แก่ผู้สำเร็จการศึกษาดังกล่าว ได้ทำการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือทางวิชาการ และการจัดการศึกษาร่วมกันระหว่างมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา กับสถาบันวิทยาลัยชุมชน ในลักษณะการส่งต่อผู้สำเร็จการศึกษาระดับอนุปริญญาของวิทยาลัยชุมชนเข้าศึกษาต่อระดับปริญญาตรี โดยดร.สิริกร มณีรินทร์ นายกสถาบันวิทยาลัยชุมชน และดร.สมบัติ โยธาทิพย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยราชภัฏยะลา ร่วมลงนาม

การจัดพิธีมอบอนุปริญญาบัตรแก่ผู้สำเร็จการศึกษา จัดขึ้นเพื่อเป็นเกียรติแก่ผู้สำเร็จการศึกษาหลักสูตรอนุปริญญาของวิทยาลัยชุมชนยะลา โดยให้ผู้สำเร็จการศึกษาเกิดความภาคภูมิใจในตนเองและสถาบันการศึกษาของตน และเป็นการประชาสัมพันธ์ เผยแพร่กิจกรรมและผลการดำเนินงานของวิทยาลัยชุมชนยะลาต่อสาธารณะชน ซึ่งในปีนี้มีผู้เข้ารับอนุปริญญาบัตรประจำปีการศึกษา 2561 จำนวนทั้งสิ้น 255 คน ใน 7 สาขาวิชาประกอบด้วยสาขาวิชาการพัฒนาชุมชน สาขาวิชาการปกครองท้องถิ่น สาขาวิชาการศึกษาปฐมวัย สาขาวิชาเทคโนโลยีการเกษตร สาขาวิชาการจัดการทั่วไป สาขาวิชาคอมพิวเตอร์ธุรกิจ และสาขาอิสลามศึกษา

ดร.สิริกร มณีรินทร์ นายกสถาบันวิทยาลัยชุมชน ได้กล่าวให้โอวาทแก่นักศึกษาว่า ขอแสดงความยินดีและชื่นชมกับผู้สำเร็จการศึกษาจากวิทยาลัยชุมชนยะลาทุกท่านที่มีความมุ่งมั่นและเพียรพยายามในการเล่าเรียน จนประสบความสำเร็จ ซึ่งความสำเร็จของท่านในวันนี้ไม่เป็นแต่เพียงความภาคภูมิใจของท่าน และครอบครัว แต่ยังเป็นความภาคภูมิใจอันยิ่งใหญ่ของวิทยาลัยชุมชนยะลาด้วย และขอให้ผู้สำเร็จการศึกษาทุกท่านได้ตระหนักว่าความสำเร็จในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการสร้างสังคมแห่งการเรียนรู้ หากมีโอกาสที่จะแสวงหาความรู้เพิ่มเติมก็ขอให้พยายามต่อไปเพื่อความก้าวหน้าในหน้าที่การงานและการดำรงชีวิต สามารถปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัย มีความฉลาดทางสังคม อยู่ร่วมกันในสังคมแบบพหุวัฒนธรรมและสังคมเทคโนโลยีในยุคประเทศไทย 4.0 ได้อย่างรู้เท่าทันและมีความสุข ประพฤติตนตามหลักศาสนา ดำรงอยู่ในความดีงาม

///////////////////////////////////////////////

 693 total views,  2 views today